“ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2022” กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้วถึงคราวที่แฟน “ฟุตบอลไทย” จะกลับมาเชียร์ทีมชาติไทยอีกครั้ง ซึ่งในรายการนี้ทีมชาติไทยเคยเป็นแชมป์ 6 สมัย โดยในปีนี้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น AFF Mitsubishi Electric Cup ตามผู้สนับสนุนใหม่ การแข่งขันนัดแรกจะเริ่มเตะกันวันอังคารที่ 20 ธันวาคมนี้ โดยทีมชาติไทยพบกับทีมชาติบรูไน ทว่าแฟนบอลชาวไทยอาจกลุ้มใจกันสักนิดเพราะในปีนี้ยังไม่มีสถานีโทรทัศน์ช่องใดซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดเลยแม้แต่เจ้าเดียว
สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน หรือ AFF ได้ว่าจ้างบริษัทคนกลางจากประเทศเยอรมันนี “สปอร์ตไฟว์” ทำหน้าที่ดูแลการซื้อขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด โดยตั้งราคาไว้ที่ 2.2 ล้านดอลลาร์ หรือราว 76 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่ซื้อลิขสิทธิ์ไปจะทำยังไงกับสัญญาณถ่ายทอดที่ซื้อไปก็ได้ กล่าวคือไปเปิดในฟรีทีวีก็ได้หรือจะถ่ายทอดสดผ่านระบบเคเบิลและเก็บเงินจากคนดูก็สามารถทำได้หมด ที่ผ่านมาการถ่ายทอดสดในปีก่อนๆ ช่อง 7HD เป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์อยู่ตลอด แต่ปีนี้กลับไม่มีเจ้าไหนสนใจซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดเลย แม้ว่าจะมีการลดราคาแล้วเหลือ 1.95 ล้านดอลลาร์ หรือราว 67 ล้านบาทก็ตาม
ทำไมถึงไม่มีใครซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่ฟุตบอลรายการนี้ เริ่มต้นหลังฟุตบอลโลก 2022 ทำให้เอกชนหลายเจ้านำเงินไปลงทุนกับฟุตบอลค่อนข้างเยอะ งบที่อาจจะเหลือน้อยคงเป็นปัญหาสำคัญในการเข้าซื้อลิขสิทธิ์ครั้งนี้ กับการต้องหาเงินจากโฆษณาสูงถึง 76 ล้านบาทเพื่อที่จะไม่ขาดทุนจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทายสำหรับบรรดาช่องทีวี ต่อมาคือเรื่องความดึงดูดของทีมชาติไทย ที่ปัจจุบันแม้จะได้รับการติดตามจากผู้คนจำนวนมากแต่ต้องยอมรับว่าผลงานไม่ได้โดดเด่นหวือหวาเหมือนในยุคก่อนๆ และสุดท้ายคือการที่ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดนั้นเป็นการขายทั้งหมด 26 นัด เป็นความกังวลของผู้ถ่ายทอดสดว่าหากเป็นนัดที่ทีมชาติไทยไม่ได้ลงแข่งยอดเรดติ้งจะเป็นเช่นไร ซึ่งสปอร์ตไฟว์ไม่มีการแยกขายเฉพาะ 8 นัดที่ทีมชาติไทยแข่งขัน การขายโฆษณาในนัดที่เหลือจึงเป็นเรื่องยาก
แล้วจะทำยังไงกัน จะได้ดูบอลไหม
ถ้าอยากดูการถ่ายทอดสดที่บ้านก็มีทางเดียวคือหวังให้มีช่องโทรทัศน์มาซื้อลิขสิทธิ์ในครั้งนี้ไป หรือต้องมีผู้ใหญ่ใจดีควักเงินมาจ่ายแล้วมอบสิทธิ์นี้แก่สถานีโทรทัศน์ ซึ่งฟังดูแล้วในเวลานี้เป็นไปได้ยาก หรืออีกทางคือมีคนกลางมาช่วยประสานเหมือนกรณีฟุตบอลโลกที่การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) เป็นคนกลางหางบมาซื้อลิขสิทธ์ อย่างไรก็ตามไม่แน่ว่าสปอร์ตไฟว์อาจจะปล่อยขายแพ็คเกจที่ถ่ายทอดเฉพาะนัดที่ทีมชาติไทยลงแข่งจำนวน 8 นัดก็เป็นได้ แต่เรื่องทั้งหมดยังเป็นการพูดคุยที่ต้องติดตามต่อไป ขณะที่ชาวเน็ตต่างพากันตั้งคำถามว่าเป็นการแข่งขันที่มีทีมชาติไทยเข้าร่วมด้วยแต่ทำไมถึงไม่มีการถ่ายทอดสด แต่ฟุตบอลโลกที่ไม่มีทีมชาติไทยกลับถ่ายทอดสดครบ บ้างก็เห็นว่า กกท. ไม่ควรยุ่งอีกเพราะหากยุ่งไปก็จะเกิดปัญหาเหมือนที่เพิ่งเกิดขึ้นในฟุตบอลโลกที่ผ่านมาเป็นอันแน่ คงต้องติดตามว่าจะมีแค่ไทยและติมอร์ตะวันออกเท่านั้นหรือไม่ที่ไม่มีลิขสิทธ์ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียนในครั้งนี้
มาดามแป้งจัดให้ช่วยเหลือแฟนบอล
ขณะที่ “มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ” ผู้จัดการทีมชาติไทย และ CEO บมจ.เมืองไทยประกันภัย ร่วมกับ วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) เตรียมจัดกิจกรรมเพื่อแฟนฟุตบอลไทย ตั้งจอ LED ที่สนามแพท สเตเดียม ให้แฟนบอลได้เชียร์ทัพช้างศึกแบบสดๆ กับภารกิจป้องกันแชมป์อาเซียน 2022 เริ่มต้นประเดิมเกมบุกเยือนบรูไนรอบแบ่งกลุ่มนัดแรก ช่วงค่ำวันที่ 20 ธันวาคม
มาดามแป้งพร้อมด้วยวอริกซ์มีแผนกระจายจัดกิจกรรมดังกล่าวในจุดอื่นๆ โดยแฟนบอลสามารถเดินทางมาร่วมชมการแข่งขันของทีมชาติไทยทุกนัด ซึ่งมาดามแป้งยังได้กล่าวขอบคุณวอริกซ์ที่มีส่วนในการจัดงานในครั้งนี้ และในฐานะผู้จัดการทีมชาติไทย จะพยายามเต็มที่เพื่อให้คนไทยได้ติดตามการแข่งขันทีมช้างศึกไม่ทางใดก็ทางนึง มอบเป็นของขวัญปีใหม่แก่แฟนบอลทีมชาติไทย โดยมาดามแป้งยังกล่าวต่อไปว่าสำหรับสถานที่อื่นๆ กำลังประสานงานให้แฟนบอลได้รับชมเชียร์ทีมชาติไทย เพราะเชื่อว่าจะเป็นกำลังใจที่สำคัญสำหรับนักกีฬาที่ได้เห็นภาพกำลังใจจากแฟนๆ
แหล่งที่มาข้อมูล
Facebook มาดามแป้ง : https://www.facebook.com/MadamPangID