ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ผ่านพ้นไปพร้อมกับการเปลี่ยนความฝันเป็นความจริงของ ลิโอเนล เมสซี่ และพลพรรคฟ้าขาว อาร์เจนติน่า ที่ฝ่าฝันจนถึงปลายทางแชมป์ในที่สุด ขณะเดียวกัน ฟอร์มการเล่นของตัวแทนเอเชียอย่าง ทีมชาติญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ เต็มไปด้วยเสียงชื่นชมกับมาตรฐานที่ยกระดับไปอีกขั้น สามารถสู้กับทีมจากยุโรป ที่อุดมไปด้วยนักเตะชั้นนำ ได้อย่างสนุก สูสี แถมยังชนะไปด้วยในบางนัด ทำเอาคนไทยในฐานะเอเชียด้วยกันอดปลาบปลื้มใจไปด้วยมิได้

แต่ในเวลาเดียวกัน คำถามก็ผุดขึ้นมาในหัวว่า แล้วเมื่อไหร่ทีมชาติไทย จะได้อยู่ในระดับที่ทัดเทียมกับเพื่อนร่วมทวีป หรือ อย่างง่ายที่สุดกับคำถามคลาสสิก ไทยจะได้ไปบอลโลกเมื่อไหร่

เรื่องนี้ เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) คนธุรกิจแต่ชอบดูฟุตบอล มีคำตอบผ่านสายตาการเป็นนักบริหาร

ภาพ : FA THAILAND

ฟุตบอลโลก 4 ปีข้างหน้า เพิ่มจาก 32 ทีมเป็น 48 ทีม ทีมชาติไทยมีความหวังไหม ?

ไม่มี ไม่มี ไม่มี มันไม่เกี่ยวหรอกครับถ้าเกิด 48 ทีม (ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจะปรับจาก 32 ทีม เป็น 48 ทีม) ปัจจุบันนี้อันดับเราอันดับอะไร ประมาณ 100 กว่าใช่ไหม สมัยก่อนเราเป็นเจ้าอาเซียน เดี๋ยวนี้เรายอมรับว่าเราอาจจะไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ เราก็แพ้เวียดนามอยู่นะ ตอนนี้ ทุกๆ รุ่น ทุกๆ ทีมชาติชุดใหญ่ ชุดกลาง ชุดเล็ก เราก็แพ้เขาอยู่ เขาพัฒนาไปเยอะ ประชากรเขาก็เยอะกว่าครับ อันนี้ต้องยอมรับก่อนทีละสเต็ป คุณคลาน เดิน เดินเร็ว แล้ววิ่ง ไม่ใช่อยู่ดีๆ วันนี้จะไปวิ่งเลย เอาทีละสเต็ปก่อน

ผมไม่ได้พยายามจะด้อยค่าทีมชาติไทย เพราะว่าพรรคพวกเพื่อนฝูงผม น้องๆ เอย ถ้าเกิดเป็นทีมชาติ แน่นอนผมรักทีมชาติไทยอยู่แล้ว ถ้าเรารักกันชอบกันจริงๆ เราก็ต้องยอมรับว่าเรายังมีข้อบกพร่อง ข้อต้องแก้ไขเยอะ แล้วคนที่ต้องแก้ไขไม่ใช่แค่สมาคมฟุตบอล ทุกคนด้วย เจ้าของทีมเอย อะไรเอยหลายๆ อย่าง มันก็ต้องมานั่งดูจริงๆ นะครับ

ฟุตบอลโลกเป็นเพียงความฝัน ?

ฝันกันไว้แหละครับ ใจเย็นๆ ก็หวังว่าผมคงได้เห็นๆ แต่มันต้องเริ่มวันนี้

มีในใจว่าอีกกี่ปี ?

ถ้าเริ่มวันนี้ สัก 16 ปี สัก 3-4 หน คงจะได้เห็น ก็คนเก่งๆ ของไทยวันนี้ไปเล่นลีกไหนล่ะ ดูแค่นี้พอ ไปเล่นอยู่ลีกญี่ปุ่น ลีกญี่ปุ่นก็มีแค่ 2 คน สุภโชค สารชาติ กับ เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เจเองก็ยังไปอยู่ลีกสูงสุด ทีมที่ดีที่สุด 1 ใน 2 หรือ 3 ทีมที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ก็เป็นตัวจริงบ้างไม่จริงบ้าง สำรองบ้าง นี่ดีที่สุดของคนไทยนะ เก่งที่สุดของคนไทยนะ เก่งแบบพร้อมทุกอย่างนะ วินัย ความคิด ความมุ่งมั่น นิสัยใจคอผมว่าพร้อมที่สุดแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องรูปร่าง เพราะว่าตำแหน่งที่เขาเล่นไม่จำเป็นเรื่องรูปร่าง เมสซี่ก็ตัวเล็กได้ ไม่จำเป็น
เรายอมรับความจริงดีกว่าใช่ไหม สุภโชค เองเคยอยู่ บุรีรัมย์ ทีมที่ดีที่สุดในประเทศไทย ทีมที่อาจจะยังดีที่สุด อย่างน้อยแต้มสูงสุด ก็ยังไปที่อื่นเลยใช่ไหม ก็ไปซัปโปโรใช่ไหม แค่นี้ก็บ่งบอกอยู่แล้ว คุณแข่งคุณยังแพ้เวียดนาม จากที่เคยชนะตลอดเวลา ซีเกมส์เนี่ยผมใช้คำว่ามีเจ๊ากับเจ๊งเพราะว่าคนมีความคาดหวังว่าอย่างไรไทยก็ต้องแชมป์ แชมป์มาก็เจ๊า พลาดไปก็เจ๊ง

เรายังมีเวลา ใจเย็นๆ แล้วกลับมาตั้งหลักกันใหม่ ?


ไม่แน่ใจว่าใช้คำว่าใจเย็นถูกหรือเปล่า ถ้าเกิดอยากจะไปต้องเริ่มวันนี้ ต้องเริ่มแล้ว ต้องเริ่มจากวันนี้ เขียนแม่บทมาเลย เป้าหมายให้ชัด มีสปอนเซอร์ที่มีแผนระยะยาว มีแผนงานที่จะสร้างสนามที่มันชัดเจน คุณอาจจะไม่เคยไปดูห้องแต่งตัวที่สนามศุภฯ หรือที่ราชมังคลาฯ โห มันไม่แกรนด์ มันไม่มีเกียรติ มันไม่มีศักดิ์ศรี ไม่สมกับที่เป็นสนามกีฬาแห่งชาติ ใครก็ไปเล่นได้ เข้าไปเล่นแล้วก็ไม่มีการบริหารจัดการ ส้วมพัง ฝาโถส้วมหลุด ประตูปิดล็อกไม่ได้ น้ำร้อนน้ำเย็นไม่มี มีแต่น้ำเย็น ไม่มีน้ำร้อน อะไรก็ไม่รู้ ที่แช่น้ำร้อนน้ำเย็นมีไหม อุปกรณ์ฟื้นฟูร่างกายพอไหม คือมันต้องไปดูให้ดีๆ

คุณครับ รายละเอียดสำคัญ ๆ เจ้าของทีมเองก็ต้องภูมิใจที่ส่งนักเตะไปเตะไปเล่นทีมชาติได้ นักเตะบางเจ้าของทีมก็ไม่ส่งใช่ไหม เก็บไว้เตะเองดีกว่า ไก่ก่อนไข่ หรือไข่ก่อนไก่ ไปเตะแล้วนักเตะพอไปอยู่ทีมชาติแล้ววินัยเสียหมด อ้าว ไปเตะทีมชาติแล้วโค้ชไม่ได้เรื่อง ไม่ดูแลนักเตะให้ดี นักเตะผมเริ่มเจ็บก็เอาไปใช้งาน แต่ละคนก็มีเหตุผล เราเป็นคนนอกเรามาวิจารณ์ ผมถึงพยายามหลีกเลี่ยงการวิจารณ์ ผมเพียงแต่ชี้ให้เห็นเฉยๆ ว่าการที่จะไปถึงจุดไหนได้ มันใช้ความพยายามมากนะ มันไม่ใช่แค่พูดนิดๆ หน่อยๆ แล้วไปยึดที่ปัจจัยเดียว

โครงสร้างพื้นฐานถือว่าสำคัญ ?


ทางด้านจิตวิทยา ด้านโครงสร้าง ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ด้านฟุตบอลลีกของเราเอง ด้านสภาพสนาม การแข่งขัน การสร้างความหวังและแรงบันดาลใจให้คนมีความภาคภูมิใจในการติดทีมชาติ อะไรหลายๆ อย่าง มันเป็นแรงบันดาลใจใช่ไหมครับ ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกๆ ฝ่าย ไม่ใช่หน้าที่ของสมาคมฟุตบอลอย่างเดียว ถ้าคุณจะบอกว่าคุณจะเอาทีมชาติไทยไปฟุตบอลโลกในอีก 12 ปีข้างหน้า 15 ปีข้างหน้า มันต้องเป็นวาระแห่งชาติ มันก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง รายละเอียดทุกขั้นตอนต้องชัดเจน
โรงเรียน เด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่เป็น ใช้คำว่าเป็น power house ไม่ว่าจะเป็น อัสสัมชัญธนบุรี ไม่ว่าจะเป็นราชวินิต ไม่ว่าจะเป็นอัสสัมชัญ ศรีราชา ไม่ว่าจะเป็นสวนกุหลาบ ไม่ว่าจะเป็นเทพศิรินทร์ หรืออะไรทั้งหลาย โรงเรียนที่เก่งๆ เหล่านี้ผมว่าต้องมีวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้าไปจับอย่างชัดเจน ต้องมีระบบวิธีการรักษา ต้องมีระบบวิทยาการแพทย์เข้าไปจับอย่างดีเยี่ยม วิธีการปลูกฝัง เรื่องการรักชาติ อยากให้ประเทศไทยไปถึงจุดสูงสุด ความขลังของสนามแห่งชาติ ไม่ว่าจะเป็นสนามศุภชลาศัย ไม่ว่าจะเป็นสนามราชมังคลาฯ เป็นสนามอันทรงเกียรติใช่ไหมครับ มีใครติดทีมชาติต้องได้รับการยอมรับ ผมว่าเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจ เป็นแรงบันดาลใจอย่างหนึ่งซึ่งหลายๆ ฝ่ายต้องช่วยกัน ไม่ใช่อยู่ดีๆ เป็นหน้าที่สมาคมฟุตบอลอย่างเดียวมันก็ไม่ถูก ท่านสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง (นายกสมาคมฟุตบอลฯ) เอง ท่านเองท่านก็อาจจะอยู่ในจุดที่ลำบาก มันต้องช่วยกันทุกฝ่ายจริงๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย มันเป็น 20 ปีอ่ะผมว่านะครับ

เศรษฐา ทวีสิน กับ ชนาธิป สรงกระสินธ์

จะมาทำ 2-3 ปี แล้วหวังเลยไม่ได้ ?

8 ปี ยังทำไม่ได้เลยครับผมว่า คุณต้องไปดูเด็กตั้งแต่วันนี้อายุ 7-8 ขวบ แล้วก็สร้างโรงเรียนเข้ามา แล้วไม่ใช่แค่นั้นอย่างเดียว คือถ้าเขาไปแล้วเขาเกิดผิดหวัง แล้วเขาจะทำอะไร เขาจะไปเป็นอะไร เป็นภาระสังคมหรอ เขาก็ต้องมีโรงเรียนต่อเนื่อง ต้องส่งเขาไปเรียนต่อถ้าเกิดเขาโชคไม่ดี มีอุบัติเหตุ ใฝ่ฝันว่าจะเป็นนักกีฬาแต่ไปไม่ถึง จุดๆ นั้น ต้องมีทางเลือกให้เขา ว่าเขาจะไปเรียนต่อที่ไหนอะไรยังไงได้
มันเป็นเรื่องสำคัญนะครับ มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเหมือนกันที่จะให้พ่อแม่เสียสละลูกของตัวเองที่จะมาเล่นฟุตบอลอาชีพ ในแง่ของการบริหารผมว่าเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องของคนๆ เดียว ไม่ใช่เรื่องขององค์กร ๆ เดียว เป็นเรื่องของสังคมโดยรวมทั้งหมดที่เราต้องดูด้วย ดูง่ายๆ เรื่องละเอียดอ่อน ผมก็คุยกับเจ เจเคยเล่นสนามศุภฯ กี่หน โอ้โห สมัยก่อนคุณพ่อผม ให้ผมเดาะบอลเยอะ พาผมมาเดินรอบสนามศุภฯ มาซื้อรองเท้า สนามอันทรงเกียรติ วันนึงต้องได้เล่นอย่างนั้นอย่างนี้ ผมได้เล่นแค่ 3 หนครับ นัดชิงนั่นนี่ๆ ใช่ไหมครับ เขาก็ดูสนามศุภฯเหมือนกับเป็นเมกกะ

สนามศุภชลาศรัย

วันนี้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นสนามศุภฯ วันนี้ใครๆ ก็ไปเตะได้ ไปเช่าได้ ไปอะไรได้ มีเส้นมีสายใช่ไหมครับ นักการเมือง นักธุรกิจ ทหาร ตำรวจ คนที่มีเส้นเป็นเพื่อนหรือใครหน่อยเข้าไปเตะกันได้ สภาพสนามก็ไม่ได้ดีขนาดนั้นเพราะปล่อยเช่าเยอะ อะไรเยอะ ผมว่ามันเป็นรายละเอียดที่ผมยกตัวอย่าง ผมไม่ได้ยกตัวอย่างเล็กๆ เข้ามาเพื่อที่จะเปิดประเด็น หรือเรียกแขกอะไรนะ ไม่ใช่นะ แต่ว่ามันเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งคนเราต้องให้ความสนใจ

สนามเนชันแนล สเตเดียม ที่เบอร์ลิน หรือสนามเวมบลีย์ อังกฤษ คุณคิดว่าอย่างผมจะเข้าไปเตะ มันเตะไม่ได้ คุณมีสตางค์ คุณมีเพื่อน คุณมีเจ้าหน้าที่เป็นพรรคเป็นพวกก็เตะไม่ได้ มันไม่สมควรแล้ว พวกทีมชาติเขาเห็นแล้วเขาคิดยังไง เด็กที่เขาไม่มีเส้นไม่มีสายที่เขาอยากที่จะไต่เต้า วันนึงเขาต้องเดินออกมาจากอุโมงค์ มีเพลงชาติขึ้น มีเพลงอะไรขึ้นมาเพื่อให้ดูเป็นเกียรติ เป็นศักดิ์ศรี หัวใจพองโตพร้อมที่จะไปทีมชาติ มันเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งจริงๆ แล้ว คนไทยเองเราบางทีเราไม่ได้คิดถึงตรงนั้น เราไปว่าที่สมาคมฟุตบอล เราไปว่าที่ตัวเด็ก เราไปว่าที่ลีก มันไม่ใช่หรอกครับมันเป็น มันลึกซึ้งกว่านั้น ลึกซึ้งกว่านั้นเยอะ

ถ้ามีคนมาชวนเป็นนายกสมาคมฟุตบอลไปไหม ?


ไม่ไปครับ แน่นอน ไม่ไปแน่นอน

แต่ถ้าจะให้ช่วยเสนอแนะ อันนี้ยินดีไหม ?


ผมว่าเขารู้อยู่แล้วครับ คนในวงการฟุตบอลเขารู้หมดแล้วแหละ จะกล้าพูดจะกล้ายอมรับกันหรือเปล่า เขารู้ครับ ทุกท่านรู้ รู้อยู่แก่ใจว่าควรจะทำอะไร ไม่ควรจะทำอะไร ไม่ต้องมาคุยกันหรอกครับ ผมว่ามันไม่ใช่ แต่ถ้าเกิดมันพัฒนาไปแล้ว รายละเอียดปลีกย่อยอะไรต่ออะไรหลายๆ อย่างใช่ไหม ทำไมสปอนเซอร์ไม่เยอะ ฟุตบอลไทยถามแค่นี้ ใช่ไหม ทำไมถึงขาดเงิน ทำไมถึงมีเรื่องการติดหนี้ติดสินกับทีมในไทยลีกทั้งหลายมันยังเกิดขึ้น เพราะสตางค์ไม่พอ สปอนเซอร์ไม่มี สปอนเซอร์ไม่มีเพราะอะไร เพราะลีกเรามันไม่แข็งแกร่ง มันไม่เป็นที่พิศวาส มีข้อบกพร่องเยอะอะไรหรือเปล่า ถ้าคุณไปดูเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว หรือ 7-8 ปีที่แล้ว ที่บอลไทยกำลังบูม ไปสนามเมืองทอง ไปสนามอะไรเนี่ยเต็มไปหมด เดี๋ยวนี้ครึ่งหนึ่งก็เก่ง ทำไมล่ะครับ มีใครกล้าพูดไหมหละ มันเป็นอะไร มันเป็นอย่างไรบ้างล่ะ ใช่ไหมเรื่องการตัดสิน เรื่องการลำเอียง เรื่องโอ๊ย…

ถ้าให้ยกตัวอย่างปัญหาที่อยากจะสะท้อนมากที่สุด ?


ไม่มี มันบอกไม่ได้ มันเชื่อมกันหมด ถ้ายังไม่ยอมรับความจริง ไม่ออกมาจากวังวน มันก็ไปไหนไม่ได้ ก็ enjoy กันไป

สัมภาษณ์โดย เอกภัทร์ เชิดธรรมธร

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก