มูลนิธิกระจกเงา องค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษชน โพสต์จดหมายเปิดผนึก ถึงว่าที่นายกฯ รัฐมนตรี และรัฐบาลชุดใหม่ที่ได้รับเลือกเข้าจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ขอให้เข้ามาช่วยเหลือดูแลผู้พิการในประเทศไทยให้ไม่ต่างจากคนทั่วไป เพราะที่ผ่านมาถูกปฏิบัติราวกับเป็นเพียงไม้ประดับเท่านั้น ด้วยความหวังขอเป็นส่วนหนึ่งของสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง

จดหมายเปิดผนึก ถึง ว่าที่นายกคนที่ 30 และรัฐบาลชุดใหม่ของประเทศไทย จาก : โครงการกาลพลิก มูลนิธิกระจกเงา เรียกร้องให้ มีตัวแทนคนพิการใน ครม. ปฎิบัติงานในตำแหน่งที่มีอำนาจตัดสินใจ เพื่อแก้ปัญหาคนพิการ

“สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง” ช่วงเวลาที่หลายคนรอคอยที่จะได้สัมผัสกับความหวัง ความฝัน และความศรัทธาที่พัดผ่านมาพร้อมกับสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงเรา “คนพิการ”

โครงการกาลพลิก มีความหมายว่า “ถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงของคนพิการ” ทีมงานของพวกเราเป็นคนพิการแต่กำเนิด ที่ทำงานเพื่อขับเคลื่อนเปลี่ยนผ่านคนพิการ ไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี

ที่ผ่านมาคนพิการถูกปฏิบัติจากรัฐหรือกลุ่มผู้ที่มีอำนาจในการบริหารเหมือนดั่งเป็นเพียงไม้ประดับที่จะหนุนเสริมอำนาจ และคุณค่าในการมีชีวิตของพวกเขาเหล่านั้น จนอาจหลงลืมไปว่า คนพิการก็มีชีวิตจิตใจ มีความฝัน และมีความต้องการที่จะมีชีวิตที่มั่นคง เช่นเดียวกันคนทั่วไป ซึ่งเราขอยกตัวอย่างปัญหาเชิงประจักษ์ให้ท่านพิจารณาดังนี้

#ค่าครองชีพที่กดทับจนขยับไม่ได้ ในขณะที่คนทั่วไป มีเงินเดือนปริญญาตรีขั้นต่ำ 15,000 บาท ล่าสุดการหาเสียงของพรรคการเมืองที่อยู่ในฟากฝั่งจัดตั้งรัฐบาลชูนโยบาย เงินเดือนวุฒิปริญญาตรี เริ่มต้น 25,000 บาท ในขณะที่ คนพิการได้รับเงินเดือนขั้นต่ำ เพียง 9,000 บาท กับเบี้ยคนพิการ 800 บาท เมื่อเทียบกับสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิตของคนพิการที่มากกว่า ทั้งการดูแลสุขอนามัย และการเดินทาง ก็คงพอจะเห็นภาพแล้วว่า คนพิการต้องดิ้นรนใช้ชีวิตอยู่อย่างไรในบริบทของสังคมที่กดดันและภาวะเศรษฐกิจที่บีบรัด

#บริการขนส่งสาธารณะและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ออกแบบมาเพื่อคนพิการแต่ยังใช้ไม่ได้จริง ไม่ว่าจะเป็น ระบบขนส่งที่คนพิการเข้าใช้บริหารได้ยาก การทำทางลาดที่สูงเกินไป ทางเท้า และ Braille Block ที่ผู้ใช้วีลแชร์ และคนตาบอดใช้งานไม่ได้ สิ่งเหล่านี้เกิดจากผู้บริหารและรัฐบาลที่ขาดความรู้ความเข้าใจในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อทุกคนโดยแท้จริง

#ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาสู่ปัญหาการกดขี่ค่าแรงของคนพิการ แม้ว่าในปัจจุบัน พ.ร.บ. ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 กำหนดไว้ว่าคนพิการสามารถเข้าถึงการศึกษาได้ตามความเหมาะสมและความต้องการ แต่ปัญหาสำคัญคือ การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เข้มข้นมากพอ คนพิการยังถูกเพิกเฉยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลายโรงเรียนทั่วประเทศ ปฏิเสธการรับคนพิการเข้าศึกษาร่วมกับนักเรียนทั่วไป โดยให้เหตุผลว่า สิ่งอำนวยความสะดวกและบุคลากรไม่พร้อมต่อการรับคนพิการ เหมือนการผลักไสคนพิการให้ไปอยู่เพียงในพื้นที่ของคนพิการเท่านั้น ทั้งที่การศึกษาเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ส่งผลในระยะยาวกับคุณภาพชีวิต ในการเข้าถึงงาน เข้าถึงอนาคตที่ดี และนับว่าเป็นการขับเบียดคนพิการออกจากการเป็นหนึ่งในประชากรที่มีศักยภาพของประเทศอีกด้วย

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาในชีวิตของคนพิการ ที่ถูกบริหารและกำหนดโดยกลุ่มคนที่ไม่เข้าใจคนพิการโดยแท้จริง แต่ ณ เวลานี้ การจัดตั้งรัฐบาลใกล้เข้ามาทุกที ความหวังของคนพิการเริ่มจุดประกายขึ้นมาอีกครั้งเช่นกัน ว่าคนพิการจะไม่ถูกทิ้งให้อยู่ข้างหลัง จะไม่ต้องเป็นเพียงไม้ประดับให้ความความชอบธรรมของภาครัฐ และจะได้ร่วมอยู่ในสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

หากสาเหตุอยู่ตรงที่การบริหารเพื่อแก้ไขปัญหาคนพิการนั้น เกิดจากกลุ่มคนที่ไม่ใช่คนพิการ และไม่เข้าใจคนพิการอย่างแท้จริง

โครงการกาลพลิก มูลนิธิกระจกเงาขอเรียกร้องให้มีคนพิการ หรือบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญประเด็นคนพิการ เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งปฏิบัติงานในรัฐสภาหรือปฏิบัติงานในตำแหน่งที่มีอำนาจในการตัดสินใจใน ครม. เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาคนพิการได้โดยแท้จริง อันจะสามารถตอบสนองต่อ พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 มาตรา 20 (4) ว่าด้วยการยอมรับและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม เศรษฐกิจและการเมืองอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพบนพื้นฐานแห่งความเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไป ตลอดจนได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับคนพิการ ได้ตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.

และเรายินดีเป็นอย่างยิ่ง หากท่านต้องการให้ กาลพลิก มูลนิธิกระจกเงา ล้อมวงนั่งคุย ร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิด มุมมองจากประสบการณ์ที่เรามีเพิ่มเติม เพื่อคนพิการจะมีคุณภาพชีวิต สิทธิทางการศึกษา มีโอกาสพัฒนาตนเอง สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่าและสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก