“รอผมหน่อยนะ” คำมั่นสัญญาของ “JAY B” ในคอนเสิร์ต ENCORE ร่วมกับอากาเซไทย

หากพูดถึงไอดอลเกาหลีที่มีความทรงจำและความผูกพันธ์กับแฟนๆ ในประเทศไทยอย่างเหนียวแน่นและแน่นแฟ้นมาโดยตลอด แน่นอนว่าชื่อของ “JAY B” (เจย์บี) ลีดเดอร์คนเก่งแห่งวง GOT7 และเพื่อนสนิทของอากาเซ (อากาเซ ชื่อเรียกกลุ่มแฟนคลับวง GOT7) ต้องเป็นหนึ่งในนั้น เพราะ GOT7 ถือเป็นวงไอดอลเกาหลีที่มาไทยบ่อยที่สุด จนมีฐานแฟนคลับในไทยอย่างเหนียวแน่น ไม่รวมถึงขาจรที่พร้อมจะตกหลุมรักพวกเขาได้เสมอ

ตุลาคม 2565 JAY B ได้กลับมาประเทศไทยในฐานะศิลปินเดี่ยว พร้อมกับคอนเสิร์ต “2022 WORLD TOUR JAY B “TAPE: PRESS PAUSE” in Bangkok” ที่จัดขึ้น 3 วันรวด และได้รับการตอบรับจากแฟนๆ จนบัตรคอนเสิร์ตขายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่ง โดยในครั้งนั้น JAY B ได้ลั่นวาจาเอาไว้ว่าจะกลับมาหาอากาเซชาวไทยอีกแน่นอน

ซึ่งเจ้าตัวก็กลับมารักษาคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับอากาเซชาวไทยจริงๆ ด้วยการเพิ่มประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศปิดท้ายตารางเวิลด์ทัวร์ กับ 2022 WORLD TOUR JAY B TAPE: PRESS PAUSE [ENCORE IN BANGKOK] เสาร์ที่ 21 และ อาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดยผู้จัดเจ้าเดิมอย่าง BEX (Bangkok Exhibition)

มีเพียง 2 ประเทศเพียงเท่านั้นที่ JAY B เลือก นั่นก็คือ เกาหลีใต้ ประเทศบ้านเกิด และประเทศไทย ที่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของ JAY B และเมมเบอร์วง GOT7 แสดงให้เห็นถึงความรักและความผูกพันธ์ ระหว่าง JAY B กับอากาเซชาวไทยสุดหัวใจ

กลับมาครั้งนี้ JAY B ได้จัดเซ็ตลิสต์ใหม่มาเพื่ออากาเซในรอบคอนเสิร์ต “ENCORE” โดยเฉพาะ เริ่มจาก
Sunrise, I just wanna know, Like a fool, BTW, Livin’, Fountain of Youth , Dive into you, Forever Love, Fame, Want u, Why?, AM PM, Count on me, In to you, Switch it up, Hush, You say, My abandoned love, Right, My bad, Toiki (Original Jus2 Japan Ver.), Again (Ft.Leon), Sunset with you, Holyday, Rocking chair, Go up, Break it down, Go Higher และปิดท้ายด้วย Before the full moon rises.

ท่ามกลางแสงสีเขียวจากอากาบง ที่ส่องสว่างให้ JAY B ได้เห็นพลังความรักและการสนับสนุนจากแฟนๆ อยู่ตลอดเวลา

โดยเฉพาะ “Forever Love” เพลงเก่าสมัยเป็นนักแสดงซีรีส์ Dream Knight ในปี 2015 และเพลงใหม่ที่ยังไม่เคยนำมาร้องในคอนเสิร์ตก่อนหน้านี้ เช่น “Toiki” จากยูนิต “Jus2” คู่กับน้องเล็ก “คิมยูคยอม GOT7” ก็ถูกนำมาลงในเซ็ตลิสต์ พร้อมเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่อากาเซต้องตาค้างตลอดทั้งเพลง

หนึ่งความพิเศษที่สร้างความประทับใจให้กับ JAY B รวมถึงแฟนๆ ทุกคน นั่นก็คือโปรเจ็กต์ที่แฟนๆ ทำเซอร์ไพรส์ หลังจบเพลง Rocking chair ที่เปรียบตัวของ JAY B เป็นดั่งพระจันทร์ และแฟนๆ เป็นดวงดาวสีเขียว (อิงจากสีประจำวงและสีแท่งไฟของ GOT7) ร่ายล้อมอยู่รอบพระจันทร์ดวงนี้ ต่อให้วันหนึ่งวงรอบของพระจันทร์จะเปลี่ยนไป จะกลายเป็นพระจันทร์ในเดือนมืด เป็นพระจันทร์ที่เต็มดวงหรือเป็นพระจันทร์เสี้ยวตามกฎของธรรมชาติ แต่ดวงดาวสีเขียวเหล่านี้ก็ยังจะอยู่เคียงข้างพระจันทร์เสมอ และพร้อมจะคอยส่องประกายเป็นทะเลดวงดาวสีเขียวเพื่อพระจันทร์ และจะไม่ปล่อยให้พระจันทร์อยู่อย่างโดดเดี่ยว

สร้างความประทับใจให้กับ JAY B เป็นอย่างมาก ก่อนเจ้าตัวจะกล่าวคำขอบคุณถึงแฟนๆ ที่ทำเซอร์ไพรส์โปรเจ็กต์นี้ออกมา ซึ่งเรียกน้ำตาคนในฮอลล์ได้เป็นอย่างดี

“ขอบคุณทุกคนที่เตรียมแฟนโปรเจ็กต์ให้ผมนะครับ ทุกครั้งที่ทุกคนรู้สึกว่าคิดถึงผมมากๆ อย่าลืมนะครับว่าผมก็จะเหมือนพระจันทร์อย่างที่ทุกคนบอก พวกเรารอนับค่ำคืนที่จะผ่านไปและวันนึงพวกเราก็จะกลับมาเจอกันอีกนะครับ ผมไม่แน่ใจว่าผมเป็นคนดีพอที่จะรับความรักแบบนี้จากทุกคนได้ไหม ผมรู้ว่าทุกคนเป็นห่วงผม สัญญาว่าผมจะดูแลตัวเองให้ดี รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ”

JAY B กล่าวคำขอบคุณถึงแฟนๆ ในคอนเสิร์ตวันแรก

เมื่อแฟนๆ เซอร์ไพรส์มา JAY B ก็เซอร์ไพรส์กลับแบบแฟร์ๆ ด้วยเพลงพิเศษ ที่เจ้าตัวตั้งใจแต่งจากความรู้สึกที่อยากจะส่งถึงอากาเซทุกคน มาร้องให้ได้ฟังในคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วย

“คำว่าขอบคุณยังน้อยไป ไม่เพียงพอกับสิ่งทีผมอยากจะบอกคุณ ขอให้จดจำช่วงเวลาของเราไว้ รอผมหน่อยนะ มันไม่นานหรอก อีกแค่ไม่นาน ผมก็จะได้กลับมาอยู่ข้างๆ คุณ” เนื้อร้องส่วนหนึ่งในเพลง ที่ JAY B ตั้งใจมอบให้แฟนๆ

คำมั่นสัญญาที่ JAY B มอบให้กับแฟนๆ ชาวไทยผ่านบทเพลงครั้งนี้ หลายคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เพราะรู้กันดีว่า หลังจากเสร็จสิ้นตารางงานเวิลด์ทัวร์ในครั้งนี้ หนุ่ม JAY B จะต้องเข้ากรมรับใช้ชาติตามกฏหมายของประเทศเกาหลี ที่ระบุว่าชายชาวเกาหลีใต้ทุกคนต้องเกณฑ์ทหารเมื่อถึงกำหนดอายุไม่เกิน 28 ปี (นอกจากได้รับการยกเว้น)

และด้วยอายุของ JAY B ที่เกิดในปี 1994 ก็อยู่ในลิสต์ของรายชื่อไอดอลที่ต้องทยอยเข้ากรมภายในปีนี้พอดี