ในขณะที่ซีรีส์สัญชาติเกาหลี ใต้ร่มราชินี (Under the Queen’s Umbrella) ยังคงขับเคี่ยวช่วงชิงอำนาจภายในพระราชวัง (เล่าย้อนหลังอดีตกว่า 500 ปีของเกาหลีสมัยโน้น) กันอย่างเข้มข้น พร้อมกับโกยเรตติ้ง ทั้งในประเทศเกาหลีเอง และอีกหลายประเทศทั่วโลกที่ติดใจกับบทบาทของราชินีอิมฮวารยอง กันจนแทบจะลงแดง รอตอนใหม่ในแต่ละสัปดาห์กันอย่างใจจดใจจ่อนั้น

The Crown ซีซัน 5 ซีรีส์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 (Queen Elizabeth II) ประมุขแห่งสหราชอาณาจักร ผู้พยายามนำพาราชวงศ์วินเซอร์แห่งอังกฤษ ฝ่ามรสุมสารพัดทิศทาง ก็ปิดซีซั่นที่อาจจะกล่าวได้ว่าเป็น ทศวรรษแห่งหายนะ เต็มไปด้วยบาดแผล ความร้าวฉานภายในครอบครัว อันนำไปสู่วิกฤตศรัทธาต่อราชวงศ์วินเซอร์อย่างหนักหนาที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน

The Crown season 5
The Crown season 5
The Crown season 5


หากจะเปรียบ The Crown ซีซัน 4 คือช่วงเวลา ฮันนีมูนพีเรียดจากการเข้ามาของ ไดอาน่า สเปนเซอร์ ผู้กลายมาเป็น เจ้าหญิงแห่งเวลส์ อันเจิดจ้า จับตาจับใจคนทั่วโลก ส่งผลให้สถานะความนิยมของราชวงค์วินเซอร์ ได้พุ่งทะยานสู่จุดสูงสุด ไปเรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์ที่ติดตามมาในซีซันที่ 5 คือช่วงเวลา “หมดโปรฯ” สำหรับชีวิตรัก และครอบครัวที่คนทั้งโลกเคยอิจฉา ที่สำคัญสิ่งที่ต้อง pay back นั้นหนักหนา และหนักหน่วงยาวนาน

ทศวรรษที่ 5 บนบังลังก์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 คือการตกต่ำ ดำดิ่ง เมื่อมรสุมแห่งวิกฤติถาโถมเข้ามาชุดแล้วชุดเล่า สถาบันกษัตริย์ กลายเป็นเป้าการวิพากษ์ของประชาชน เช่นเดียวกับที่นักการเมือง สื่อ ผสมโรงร่วมถล่มเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ราชวงศ์ และผู้คนแวดล้อมถูกตีตราว่าเป็นตัวแทนของ ความเชย ล้าสมัย ตกยุค ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย และคำถามที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ก็คือประเด็นที่ว่าคุ้มค่าหรือไม่ที่จะต้องเอาภาษีไปสนับสนุน

The Crown season 5
The Crown season 5
The Crown season 5


เรือหลวงบริทาเนีย ที่ถูกนำมาใช้เปิดเรื่อง เปิดประเด็น จึงเป็นทั้งความยิ่งใหญ่และความภาคภูมิใจ (ที่ผูกติดกับอดีต) ขณะเดียวกันก็กลายเป็นปมปัญหาเมื่อทั้งพระราชินี และดยุคแห่งเอดินเบอระ พระสวามี มีพระราชประสงค์จะให้รัฐบาลนำงบประมาณมาบูรณะซ่อมแซม พระราชพาหนะที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ของสหราชอาณาจักร ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยสำหรับ จอห์น เมเจอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษในขณะนั้น เขาคือผู้พยายามประสานพร้อมทั้งตักเตือนอย่างสุภาพว่าสถานะความนิยมของสมเด็จพระราชินี รวมถึงสถานภาพของผู้คนในราชวงศ์วินเซอร์ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเทพนิยายรักของเจ้าชาย เจ้าหญิง แห่งเวลส์ เปลี่ยนพล็อตเรื่องหลักกลายเป็นมหาสงครามแห่งความขัดแย้งของคู่สามีภรรยา (อันนำไปสู่จุดจบที่การหย่าร้าง) ก็ยิ่งฉุดให้ศรัทธา ความนิยม ตกต่ำดำดิ่งลง หนักขึ้นเรื่อยๆ
ทีมผู้สร้างซีรีส์ก็จงใจที่จะโฟกัสประเด็นสงครามภายในครอบครัว ทั้งขยาย ขยี้ เรื่องราวที่อิงจากเหตุการณ์จริง ไม่ว่าจะในกรณีที่เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ไปให้ข้อมูลกับ แอนดรูว์ มอร์ตัน เขียนหนังสือเล่มที่เขย่าโลก Diana: Her True Story ที่เป็นเสมือนการวางเพลิงพระราชวังบัคกิ้งแฮมซ้ำ สร้างความเสียหายมากกว่าเหตุการณ์ไฟไหม้พระราชวังวินด์เซอร์ จริงๆ เสียอีก

The Crown season 5
The Crown season 5

เรื่องร้ายๆ ทั้งหมดพร้อมใจกันเกิดขึ้นจริงในปีเดียวกันนั้นด้วย (ค.ศ.1992) โดยก่อนหน้านั้น ราชวงศ์วินเซอร์ต้องรับมือกับข่าวอื้อฉาว ครอบครัวร้าวฉานมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งกรณีการหย่าร้างของ เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก กับ ซาราห์ เฟอร์กูสัน ดัชเชสแห่งยอร์ก รวมถึงกรณีของ เจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารีในสมเด็จพระราชินีนาถ และกัปตัน มาร์ค ฟิลลิป ก็ตัดสินใจหย่าร้างกันในปีดังกล่าวด้วย


ยิ่งไปกว่านั้น การที่เจ้าชายแห่งเวลส์ เลือกที่จะตอบโต้หนังสือ Diana: Her True Story ด้วยการให้สัมภาษณ์ รายการโทรทัศน์ ก็ยิ่งสุมไฟแค้น ประกาศสงครามอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทำให้ ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ก็เลือกที่จะให้สัมภาษณ์บันทึกเทปครั้งประวัติศาสตร์กับทาง BBC เพื่อเอาคืนบ้างเช่นกัน

นอกจากภาพดุเดือดในการต่อสู้ของ เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ที่เข้มขันและซับซ้อนแล้ว ประเด็นสำคัญที่ถูกนำเสนอตลอดทั้ง 10 EP ของ The Crown ซีซันนี้ นั่นคือ การตั้งคำถามสำคัญว่า สถาบันกษัตริย์ ราชวงศ์วินเซอร์ กับความภาคภูมิใจในเกียรติประวัติอันเก่าแก่ ขรึมขลัง จนยากที่จะปรับเปลี่ยนไปตามโลกและความคิดของผู้คนร่วมสมัยนั้น ท้ายที่สุดแล้ว จะดำรงอยู่หรือเปลี่ยนผ่านไปอย่างไรให้เหมาะสม

The Crown season 5
The Crown season 5
The Crown season 5


หากไม่นับชีวิตรักและชีวิตครอบครัวที่ซับซ้อนวุ่นวายแล้ว เจ้าฟ้าชายชารล์ส (ซึ่งปัจจุบันได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าชารล์สที่ 3) รัชทายาทผู้เฝ้ารอและเตรียมความพร้อมที่จะเป็นประมุขของสหราชอาณาจักรมาอย่างยาวนาน ถูกนำเสนอภาพให้เป็นตัวแทนของความ “ร่วมสมัย” มีแนวคิดที่เป็นขั้วตรงข้ามกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมอย่างชัดเจน ให้ความสำคัญกับ “คนรุ่นใหม่” เปิดกว้างรับสิ่งใหม่ ทั้งยังแสดงเจตจำนงชัดเจนว่า ควรปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ของอังกฤษ ให้สอดคล้องกับยุคสมัย และเสียงเรียกร้องของประชาชนส่วนใหญ่


ในขณะที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ปักหลักตั้งมั่นอยู่กับหลักปฏิบัติที่สืบทอดส่งต่อกันมา (ย้อนกลับไปได้ถึงยุคพระนางวิคตอเรีย ยุคทองอันรุ่งเรืองของสหราชอาณาจักร) และทรงพยายามประคับประคองอย่างสุดกำลังเพื่อให้เกียรติภูมิ สิ่งดีงามที่เคยเป็นมาดำรงอยู่ต่อไป

และในช่วงท้ายของซีซันนี้ เชื่อว่าผู้ชมก็อดใจหายไปด้วยไม่ได้ เมื่อภาพจริงที่ปรากฎ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ถูกบีบให้ต้องทรงยอมรับว่าที่สุดแล้ว ไม่สามารถยื้อยุดกับความเปลี่ยนแปลงที่หมุนไปตามเข็มนาฬิกาได้ ไม่ว่าจะเป็น ชิ้นส่วนต่างๆ ในครอบครัวที่แตกกระจัดกระจาย, เจ้าชายแห่งเวลส์ , เกาะฮ่องกง และแม้กระทั่ง เรือบริทาเนีย ที่ดูเหมือนจะมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าเป็นเพียงแค่เรือพระราชพาหนะลำหนึ่งเท่านั้น

The Crown season 5
The Crown season 5
The Crown season 5


ท้ายที่สุด แม้ทีมผู้สร้างจงใจจะขยี้ซ้ำ จนทำให้เรื่องเดินไปอย่างยืดย้วย (เพื่อสร้างความเข้าใจในบุคลิก, วิธีคิดที่ซับซ้อนของตัวละครหลัก) แต่ด้วยพลังฝีมือในการแสดงของ 3 นักแสดงหลักอันได้แก่ เอลิซาเบธ เดบิกกี ผู้รับบท ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ , โดมินิก เวสต์ ผู้รับบทเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และ อิเมลดา สตอนตัน ผู้รับบทควีนเอลิซาเบธ ก็ช่วยให้ซีรีส์ที่เนื้อหาหนักหน่วงในซีซั่นนี้ มากไปด้วยคุณค่า คู่ควรแก่การรับชมเป็นอย่างยิ่ง


สำหรับผู้ชมแล้วนี่คือ The Crown season 5 ที่ดูแล้วเหน็ดหนื่อย หนักหน่วง ราวกับเอสเพรสโซ ดับเบิลช็อต กระนั้นก็เป็นรสชาติเข้มขมที่กลมกล่อม และชวนให้คิดต่อในอีกหลายแง่มุมได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน

ดูหนัง-ซีรีส์ที่ชอบแล้วคัน...กระตุกต่อมคิด (เลยอยากชวนคุย)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก