Volvo EX30 จะเป็นรถเอสยูวีไฟฟ้า 100% ที่มีขนาดเล็กสุดของทางแบรนด์วอลโว่ ตัวรถจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง และดีไซน์สวยงามโดดเด่น ในด้านงานออกแบบเรียกว่าแถบจะยกดีไซน์มาจาก Volvo EX90 จะเรียกว่าย่อส่วนลงมาเลยก็ว่าได้ มาพร้อมโอเวอร์แฮงก์หน้า-หลังที่เท่ากัน
ชุดไฟหน้า LED ยังคงเอกลักษณ์ของทางวอลโว่ ด้วยดีไซน์ในรูปแบบของค้อนธอร์ เทพเจ้าสายไฟของชาวสแกนดิเนเวีย ในส่วนกระจังหน้ามาในแบบปิด ตรงกลางติดโลโก้แบรนด์ Volvo แบบใหม่
ฝากระโปรงหน้าออกแบบให้มีความโค้มมน เมื้อเปิดฝากระโปรงหน้าขึ้นจะมีเนื้อที่วาง โดยได้ถูกออกแบบให้เป็นช่องเก็บของ ขณะที่ด้านล่างออกแบบให้มีช่องดักอากาศสีดำขนาดใหญ่
ด้านข้างตัวรถดีไซน์ให้มีความโฉบเฉี่ยวตัวรถจะมาในแบบทูโทนโดยในส่วนเสา A ไปจนถึงเสา C ด้านท้าย และหลังคาจะเป็นสีดำ นอกจากนี้ทางวอลโว่ยังเผยว่าที่เสา A และ C รวมถึงหลังคาของตัวรถได้รับการออกแบบทางด้านโครงสร้างเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง และมอบความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ด้านท้ายจะมากับชุดไฟท้ายแบบแยก 2 ชั้น ด้านบนเป็นแนวตั้งที่อยู่บริเวณขอบกระจกบานท้าย ส่วนชุดไฟท้ายด้านล่างดีไซน์ให้เป็นรูปตัว C เชื่อมต่อกันด้วยแถบวัสดุสีดำ พร้อมกับติดตราแบรนด์ VOLVO ไว้ที่ฝาประตูท้าย
ภายในห้องโดยสารของ EX30 ได้แรงบันดาลใจการออกแบบมาจากธรรมชาติของสแกนดิเนเวียที่ดูอบอุ่น พร้อมใช้วัสดุรีไซเคิลในการตกแต่ง อาทิใช้วัสดุเส้นใยจากยีนส์ และต้นเฟล็กซ์ มาใช้ทำเป็นเบาะที่ให้สีสันและสัมผัสที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์
งานดีไซน์ภายในห่้องโดยสารเน้นความเรียบง่ายสะอาดตา แผงแดชบอร์ดไร้ปุ่มกดบนแผงหน้าปัด ช่องแอร์ทรงตั้ง ตรงกลางแผงแดชบอร์ดติดตั้งหน้าจอควบคุมแบบสัมผัสแนวตั้งขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ 5G เพื่อการใช้งานแอปที่ลื่นไหลไม่ว่าจะเป็น Google Assistant, Google Maps navigation และ Google Play และครั้งแรกกับฟังก์ชันการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย
คอนโซลกลางจะเป็นแบบ 2 ชั้น ด้านล่างจะเป้นที่วางของ ส่วนด้านบนจะมาพร้อมช่องวางแก้วน้ำ 2 ช่อง และที่เปิด – ปิดหน้าต่าง และที่วางเท้าแขน โดยในส่วนปุ่มปรับโหมดเกียร์จะเป็นคันเกียร้ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง 3 ก้าน แบบหัวตัดท้ายตัด
ด้านระบบเครื่องเสียงติดตั้งชุดลำโพงแบบซาว์ดบาร์จาก Harman Kardon ที่มาพร้อมคุณภาพเสียงรอบทิศทางที่ไม่ต่างไปจากการฟังเพลงหรือพอดแคสต์สุดโปรดจากชุดเครื่องเสียงในบ้าน
ด้านระบบความปลอดภัย ที่ถือว่าเป็นหัวใจหลักอีกอย่างของแบรนด์วอลโว่ จะได้รับการติดตั้ง ฟีเจอร์เความปลอดภัยมากมาย อาทิ ระบบแจ้งเตือนการเปิดประตูหรือ dooring alert ผ่านเรดาร์ที่ตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนที่มาจากด้านหลัง เช่น รถจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ โดยรถจะส่งเสียงเตือนหากคนในรถจะเปิดประตูเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ยังมีระบบเซ็นเซอร์เพื่อช่วยตรวจสอบความพร้อมในการควบคุมรถของผู้ขับที่ไม่เพียงตรวจการจับพวงมาลัย แต่ยังสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของศรีษะ ดวงตา และกะพริบตาของผู้ขับได้อย่างรวดเร็วถึง 13 ครั้งต่อวินาทีเพื่อตรวจสอบว่าผู้ขับมีอาการง่วง หรือมีสมาธิในการขับรถหรือไม่ และส่งสัญญาเตือนหากตรวจพบว่าผู้ขับมีแนวโน้มที่ไม่พร้อมในการควบคุมรถ
นอกจากนี้ยังเป็นรถรุ่นแรกที่มีระบบช่วยจอด Park Pilot Assist เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดที่ช่วยให้ผู้ขับเข้าจอดได้อย่างไร้กังวลไม่ว่าจะเป็นการจอดแบบขนาน, จอดในลานจอดแบบโค้ง, ถอยเข้าซอง หรือจอดในลานจอดแบบสลับฟันปลา
อีกทั้งยังออกแบบถุงลมนิรภัยกลางห้องโดยสารซึ่งเก็บอยู่ใต้เบาะคนขับถูกออกแบบมาเพื่อลดความรุนแรงของการบาดเจ็บที่ศรีษะและบริเวณหน้าอก หากเกิดการชนจากด้านข้าง
สำหรับพละกำลังขับเคลื่อนจะมีมอเตอร์ไฟฟ้าให้เลือก 2 แบบ รุ่น Extended Range จะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 272 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตร มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ขนาด 69 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทาง 480 กม.
ส่วนในรุ่น Twin Motor Performance จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ให้กำลังมากถึง 428 แรงม้า มาพร้อมแรงบิด 543 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 3.6 วินาที มาพร้อมความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ NMC ขนาด 69 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทาง 460 กม. ด้านการชาร์จไฟจะรองรับการชาร์จสูงสุด 153kW ใช้เวลาการชาร์จจาก 10 – 80% ในเวลาราว 25 นาที
ด้านราคาจำหน่าย All NEW Volvo EX30 ในประเทศไทย จะแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย
- Volvo EX30 Core – Single Motor Extended Range ราคาเริ่มต้นที่ 1.59 บาท
- Volvo EX30 Ultra – Single Motor Extended Range ราคาเริ่มต้นที่ 1.79 บาท
- Volvo EX30 Ultra – Twin Motor Performance ราคาเริ่มต้นที่ 1.89 บาท
แหล่งที่มาและข้อมูล : Volvo Thailand