Mark Zuckerberg CEO ของ Meta กล่าวว่าการปรับลดมีความจำเป็นเพื่อปรับปรุง “ประสิทธิภาพทางการเงินของบริษัทในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก” บริษัทที่เดิมชื่อ Facebook จะมีพนักงานประมาณ 65,000 คน ลดลงจากจุดสูงสุดของปีที่แล้วที่ประมาณ 86,000 คน ในเดือนพฤศจิกายน พนักงาน 11,000 คนถูกเลิกจ้างในการคัดออกในวงกว้าง Zuckerberg เรียกว่า “ทางเลือกสุดท้าย”
Zuckerberg กล่าวว่าบริษัทจะปิดตำแหน่งงานที่ยังว่างอีกประมาณ 5,000 ตำแหน่ง และกล่าวว่า Meta จะเลิกจ้างสมาชิกในทีมสรรหามากขึ้น ซึ่งเป็นภาคส่วนของบริษัทที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการปลดพนักงานครั้งก่อนของบริษัท การปลดพนักงานในครั้งนี้ทำให้ บริษัทมีพนักงานเหลืออยู่ราว 65,000 คน ลดลงจากช่วงพีคในปีที่แล้ว ที่มีพนักงานมากถึง 86,000 คน
การปลดพนักงานในครั้งนี้เป็นผลมาจากสถานการณ์ทางการเงินที่ดอกเบี้ยสูง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทำให้สถานการณ์โลกมีความเปราะบาง และต้นทุนในการพัฒนานวัตกรรมสูงขึ้น นอกจากนั้นเป้าหมายในการปลดพนักงานในครั้งนี้ คือ การลดความซับซ้อนของสายการทำงาน (ไม่ต้องให้มีผู้จัดการ บริหารผู้จัดการแบบหลายทอด) และผู้จัดการบางส่วนที่ไม่ถูกปลด ก็จะต้องถูกลดตำแหน่งลงมาเป็นพนักงานปฏิบัติการ
Zuckerberg ประกาศในช่วงผลประกอบการไตรมาสที่สี่ว่าปี 2023 จะเป็น “ปีแห่งประสิทธิภาพ” ของ Meta และเขาไม่ต้องการให้บริษัทเป็นหนึ่งใน “ผู้จัดการที่จัดการผู้จัดการ” แม้แต่การพูดถึงการสร้าง Metaverse และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องก็ถูกระงับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่บริษัทเปลี่ยนชื่อในปี 2021
แนวคิดในการลดต้นทุนเป็นเรื่องใหม่สำหรับ Meta ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว การแพร่ระบาดทำให้เกิดการเติบโตมากขึ้น แต่แนวโน้มการใช้งานที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่คงอยู่ตลอดไป เมื่อ Apple เปิดตัวการเปลี่ยนแปลงความเป็นส่วนตัวของ iOS ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจของบริษัทมีมูลค่าถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ นักลงทุนรู้สึกผิดหวังมากขึ้นกับค่าใช้จ่ายจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse ในเวลานั้น Zuckerberg ยังคงแสดงท่าทีท้าทายเกี่ยวกับการลงทุนใน Metaverse
การปลดพนักงานรอบแรกส่วนใหญ่ เป็นการให้สัมปทานกับ Wall Street ราคาหุ้นมีแนวโน้มสูงขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Zuckerberg กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วระหว่างผลประกอบการว่า เขา “ประหลาดใจ” กับผลบวกของการปลดพนักงาน ซึ่งลดค่าใช้จ่าย รวมถึงปรับปรุงการสื่อสารและความคืบหน้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในอนาคตที่ Meta
แหล่งที่มาและข้อมูล : BussinessInsider
ติดตามข่าวสารเทคโนโลยีและวงการไอทีได้ที่ FEE:D
