หากจะพูดถึงรถยนต์ที่เป็นตำนาน แน่นอนว่าบนโลกนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นรถยุโรปในยุค 90s ตลอดไปจนเหล่ารถญี่ปุ่นที่คุ้นหูกันอย่างคำว่ารถ JDM ซึ่งหนึ่งในตำนานของญี่ปุ่นก็คงหนีไม่พ้นตำนานจากนิสสัน อย่าง Nissan Skyline GT-R ซึ่งเรียกได้ว่าโด่งดังข้ามกาลเวลามาอย่างยาวนาน จนในวันนี้แม้คำว่าเส้นขอบฟ้าอย่าง Skyline ได้ถูกตัดออกไปแล้วเหลือเพียงแต่ Nissan GT-R

ล่าสุดนิสสันได้ประกาศปล่อย Supercar คันนี้ในเวอร์ชั่นใหม่ออกมาแล้วในปีนี้ แต่กลับสร้างความน่าผิดหวังให้กับแฟนๆหลายๆคน สาเหตุจะเป็นเพราอะไรวันนี้ FEE:D จะนำเรื่องราวของรถคันนี้มาให้ทุกคนอ่านกันครับ แบบสั้นๆ เข้าใจง่าย

Nissan GTR Family

GT-R ถือกำเนิดขึ้นมาครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1969 ภายใต้รหัส C10 เป็นรุ่นที่พัฒนาเป็นรถที่พร้อมลงสนามแข่ง มีพละกำลังสูง ภายใต้ชื่อ Nissan 2000GT-R ตัวถังซีดาน 4 ประตู และยังมีตัวถัง 2 ประตู รถทรงกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กมากับเครื่องยนต์​ขนาดใหญ่ 2.0 ลิตร หกสูบ DOHC 160 แรงม้า ที่ใช้ในรถแข่ง Prince R380 ซึ่งเจ้าตัวแรงทรงกล่องเจ้าของฉายา Hakosuka สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ไว้มากมาย

Nissan 2000GT-R

ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยว่าคำว่า Godzilla ของรถยนต์คันนี้มาจากไหน ทำไมหลายคนถึงเรียกว่า Godzilla กัน สำหรับชื่อเรียก Godzilla นั้นเกิดขึ้นในยุคสมัย GTR เจนเนอเรชั่นที่ 3 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Nissan Skyline GTR R32 ซึ่งเปิดตัวในปี 1989 มาพร้อมกับขุมพลัง RB26DETT อันเลื่องชื่อของนิสสันนั่นเอง ขุมพลัง 6 สูบเรียง ขนาดความจุ 2.6 ลิตร พ่วงด้วยเทอร์โบชาร์จ 2 ลูก ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 280 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 355 นิวตัน-เมตร พร้อมด้วยเทคโนโลยีเลี้ยว 4 ล้อ ที่รถสมัยใหม่พึ่งจะได้รับการติดตั้งกันไปได้ไม่นานนี้เอง

"Nissan GT-R"
ตัวถังในรหัส R32

ความสำเร็จของ Nissan Skyline GT-R รหัส R32 ทำให้เห็นเวอร์ชั่น GT-R รุ่นต่อมาใน Skyline R33 ในปี 1995 ได้รับการพัฒนาทุกจุดอ่อนของ R32 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเครื่องยนต์ RB26DETT บล็อกเดิมที่ได้รับการแก้ไขจุดอ่อนเรื่องท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิง หลังจากนั้นต่อด้วย R34 ในปี 1999 ซึ่งยังใช้เครื่องยนต์บล็อกเดิม ที่เพิ่มดีกรีความแรงได้เหลือเฝือถึง 450 แรงม้า โดยการเพิ่มกำลังอัดของ Turbo แต่ก็ไม่ช่วยให้กระแสความนิยมของรถสปอร์ตสัญชาติญี่ปุ่นที่กำลังแผ่วลงนั้น สามารถไปต่อได้จนต้องยุติการผลิตไปในปี 2002

"Nissan GT-R"
ตัวถังในรหัส R33
"Nissan GT-R"
ตัวถังในรหัส R34

จากนั้นความโด่งดังและกลิ่นอายของความโหดก็ได้เลือนลางไปตามกาลเวลา จนกระทั่งในปี 2007 นิสสันได้สร้างความตื่นเต้นแก่สาวกอีกครั้งกับการเปิดตัว Nissan GT-R ในรหัส R35 แม้ว่าคำว่า Skyline จะหายไปแล้วในรหัสนี้ แต่รถในรุ่นนี้เรียกได้ว่าสร้างความแสบสันให้กับเหล่า Supercar ทั่วโลกเลยทีเดียว เพราะเจ้า R35 ออกตัวเอาชนะแบรนด์ดังจากทางฝั่งยุโรปได้แทบจะทั้งหมดกับเครื่องยนต์ VR38DETT 3.8-liter V6 Twin-Turbo 485 แรงม้า ได้รับฉายา Supercar-Killer

จนกระทั่งในปีนี้กับ Nissan GT-R R35 ปี2024 ได้เปิดตัวมาแล้ว แต่ความเปลี่ยนแปลงยังไม่ได้เยอะอะไรมากมาย จนในตอนนี้เหล่าสาวกต่างพากันตั้งคำถามว่า จะยังลากขายกันไปแบบนี้อีกกี่ปีถึงจะมีรหัส R36 ออกมาให้แฟนๆได้เห็นกัน ซึ่งในเวลานี้เหล่าแบรนด์เพื่อนบ้านข้างเคียงทั้งในญี่ปุ่นและยุโรปก็ต่างปล่อย Supercar หน้าใหม่ออกมาในตลาดกันหมดแล้ว ซึ่งคำถามนี้นิสสันเอง คงจะต้องเตรียมคำตอบให้แฟนๆของตัวเอง เป็นที่น่าติดตามว่าอนาคตของ Nissan GT-R จะเป็นอย่างไร

"Nissan GT-R"
Nissan GT-R R35 MY2024 Nismo

แหล่งที่มาและข้อมูล : Motor Authority
ติดตามข่าวสารเทคโนโลยีและยานยนต์ที่ FEE:D

Straight roads are for fast cars, turns are for fast drivers.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก