Netflix (เน็ตฟลิกซ์)ผู้ให้บริการplatform ดูหนังและซีรี่ย์ที่ได้ความรับความนิยมไปทั่วโลก มีซีรี่ย์ยอดฮิตที่เป็นขวัญใจชาวไทยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ซีรี่ย์เกาหลี ซีรี่ย์ฝรั่ง ไปจนถึงซีรี่ย์ด้านกีฬาอย่างเช่น F1 Drive to Survive เป็นต้น
เหตุผลนึงที่ Netflix ได้รับความนิยมมากๆในช่วงหลัง คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากระบบครอบครัวที่ หนึ่งไอดีสามารถแชร์พาสเวิร์ดร่วมกับครอบครัว โดยมีโปรไฟล์ของหนังหรือซีรี่ย์ที่แต่ละคนในบ้านชอบได้ หรือในหมู่วัยรุ่นก็ถือว่าเป็นวิธีที่จะหารค่าใช้จ่ายในการสมัครสมาชิกได้เป็นอย่างดี
มาถึงปัจจุบันนี้ Wall Street journal ได้มีการกล่าวว่า มีข้อมูลจากแหล่งข่าวที่สามารถเชื่อถือได้ออกมาว่า เน็ตฟลิกซ์กำลังจะทำการยกเลิกระบบ Sharing นี้ โดยนักวิเคราะห์ต่างมองว่าที่ผ่านมาเน็ตฟลิกซ์สามารถทำเงินได้มากจากช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 เมื่อเวลาเดินทางผ่านไป ความน่าผิดหวังที่เน็ตฟลิกซ์ต้องเผชิญก็เริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ เพราะ เน็ตฟลิกซ์ได้พบว่าการแชร์พาสเวิร์ดนี้ ทำให้บริษัทต้องเสียจำนวนผู้ใช้ที่ควรจะเป็นผู้ใช้ที่จ่ายเงินเพื่อการเป็นสมาชิกของ เน็ตฟลิกซ์ไปอย่างมาก
โดยปัจจุบันมีรายงานว่ามีผู้ใช้ที่ยืมพาสเวิร์ดกันเพื่อใช้งานเน็ตฟลิกซ์อยู่กว่า 100 ล้านคน ซึ่งกระบวกกการที่ Netflix จะนำเข้ามาจัดการในครั้งนี้ ยังไม่ได้เป็นที่แน่ชัดว่าจะเป็นเช่นไร โดยมีหลายแนวคิดที่เป็นข่าวออกมาในสังคม ไม่ว่าจะเป็นการเก็บเงินเพิ่มสำหรับบ้านที่ 2 ในราคาประมาณ 3-4 ดอลลาร์ สำหรับครอบครัวที่แชร์กันแล้วมีสมาชิกบ้างคนอยู่ที่บ้านอื่น ซึ่งไอเดียนี้เป็นไอเดียที่ดูมีความเป็นไปได้มากที่สุด ในส่วนของไอเดียอื่นๆนั้นอย่างเช่น การเพิ่มเน็ตฟลิกซ์เวอร์ชั่นที่มีการโฆษณาเพื่อให้ราคาของการติดตามรับชมต่อเดือนนั้นลดลง จนไปถึงไอเดียที่ว่าจ่ายดูเป็นเรื่องๆ พอหนังจบแล้วทุกอย่างจะดับไป หรือแม้แต่การจะเปลี่ยนที่ดูเนื่องจากการเดินทางแล้วต้องทำการแจ้งกับทางเน็ตฟลิกซ์ทำนองเดียวกับการใช้บัตรเครดิตนั้นเอง
นักวิเคราะห์มองว่าเน็ตฟลิกซ์ที่มีลูกค้าอยู่ 223 ล้านคนทั่วโลก การที่จะยกเลิกการแชร์พาสเวิร์ด ต่อให้จะเป็นการขัดกับคำพูดที่เคยให้ไว้ในปี 2017 ว่า ‘love is sharing a password’ แต่การกระทำนี้ถูกเชื่อว่าเน็ตฟลิกซ์จะไม่ใช่เจ้าแรกและเจ้าสุดท้ายที่ทำแบบนี้ โดยนักวิเคราะห์มองว่าการนี้เป็นการกระตุ้นยอดของเน็ตฟลิกซ์และมันจะช่วยได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม Niel Macker นักวิเคราะห์หลักทรัพย์อาวุโสจาก Moringstar กล่าวว่า “ต่อให้จะเพิ่มยอดและช่วยได้จริง แต่การกระทำเช่นนี้จะเกิดกับลูกค้าแค่ครั้งเดียวเท่านั้น“ และยังได้ให้ความเห็นต่อไปว่า “เขาไม่คิดว่า Netflix จะคำนึงถึงจำนวนผู้บริโภคที่จะยกเลิกการสมัครรับข้อมูลของพวกเขา การขยับตัวในครั้งนี้จะช่วยได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น “
ล่าสุดเน็ตฟลิกซ์ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการถึงแผนการที่จะยกเลิกการแชร์รหัสผ่าน และไม่ได้กำหนดราคาที่จะเรียกเก็บเพิ่มของบุคคลที่จะมาร่วมแชร์ในบัญชีในอนาคต
แหล่งที่มาและข้อมูล : Wall Street journal, Dailymail UK
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจทั่วโลกได้ที่นี่