Indy Mania  By พอล เฮง คอลัมน์ที่จะพาย้อนกลับไปในช่วงการปะทุและระเบิดของเพลงไทยนอกกระแส ในช่วงทศวรรษที่ 90s 

‘ตั้งแต่ปี 2535 จากเวทีประกวดโค้ก มิวสิค อวอร์ดส จากรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนถึงทุกวันนี้ผ่านไปปริ่ม 34 ปี การเดินทางของพวกเขายังไม่หยุด ยังคงผาดโผนบนเวทีคอนเสิร์ตต่างๆ แสดงสดในต่างกรรมต่างวาระ แม้บางคราจะหายเงียบเชียบถึงขั้นมีข่าวลือว่า ยุบคณะ 

โมเดิร์นด็อก คือตำนานคณะดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก ที่ยังคงเวียนว่ายทำงานสร้างสรรค์ดนตรีของพวกเขาอย่างมีความสุข แม้สตูดิโออัลบั้มชุดที่ 6 ‘ป๊อด/โป้ง/เมธี’ ออกมาเมื่อ 9 ปีที่แล้ว เป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดในการผลิตอัลบั้ม แต่การแสดงสดผ่านคอนเสิร์ตของพวกเขาในหลากรูปแบบก็ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและทรงพลังทุกครั้งบนเวที

คอนเสิร์ตของพวกเขาการันตีได้ถึงความสนุกและการปล่อยพลังออกมาสู่คนฟัง แลกเปลี่ยนกันและกัน กว่า 3 ทศวรรษผ่านไปไม่เคยเปลี่ยนไป จนถึงวันนี้’

“เล็กเหรอ ฮัลโหล”

เสียงผู้หญิงสูงวัยดังขึ้น พร้อมเสียงกีตาร์ที่ขึ้นมาแค่โน้ตเดียว ไล่ซ้ำก่อนที่พร่ำบรรเลง

“เล็กเหรอ ฮัลโหล เล็กเหรอ แม่โทรมาหลายครั้ง ยังติดต่อไม่ได้ ติ๊กมากินข้าวที่บ้าน…ตอนเย็นนี้…. ” 

การ sampling จากเสียงคุยโทรศัพท์ที่แสดงถึงความผูกพันห่วงใยสะท้อนสะท้านออกมาในตัวเพลงแบบเรียบง่าย น้อยแต่งดงามท่วมท้นอารมณ์ความรู้สึก เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ของบทเพลง ‘Happiness Is…’ ซึ่งบรรจุอยู่ในสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 3 ‘Love Me Love My Life’ ในปี 2544 นับเป็นบทเพลงในแนวเอ็กซ์เพอริเมนทอลร็อก ที่หาได้น้อยมากในวงการเพลงไทย และเป็นความกล้าหาญชาญชัยของการผลิตงานแนวนี้ออกมา

ตั้งแต่อัลบั้มชุดที่ 2 ‘คาเฟ่’ การจากวงไปของมือเบส สมอัตถ์ บุณยะรัตเวช ในห้วงเวลาที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย (ก่อนจะกลับมาร่วมงานอีก 1 อัลบั้ม คือ อัลบั้มที่ 3)  โมเดิร์นด็อก เหลือสมาชิกเพียง 3 คน คือ ธนชัย อุชชิน (ป๊อด) ร้องนำ, ปวีณ สุวรรณชีพ (โป้ง) กลอง และ เมธี น้อยจินดา (เมธี) กีตาร์ ได้เดินทางสู่ความเป็นตัวตนของพวกเขาเองทั้ง 3 คน 

ในห้วงขณะและเวลาที่เปลี่ยนแปรไป จากอัลบั้มแรก ‘โมเดิร์นด็อก-เสริมสุขภาพ’ แนวดนตรีอัลเทอร์เนทีฟร็อกที่มีกลิ่นอายกรันจ์ร็อกแบบซีแอตเติลก็มีการทดลองทางดนตรีในแนวทางร็อกอย่างสนุกสนานสวิงสวายในแต่อัลบั้ม ก่อนที่จะนิ่งและเสถียรสู่ความเป็นอัลเทอร์เนทีฟ พ็อปร็อก ที่มีฐานคนฟังทั้งเก่าและใหม่อย่างได้สมดุล

งานเพลงทั้ง 6 อัลบั้มของโมเดิร์นด็อกได้สะท้อนถึงวุฒิภาวะทางดนตรีที่สุกงอมด้วยซาวด์ที่กลั่นกรองและเป็นอิสระที่สุดของพวกเขาในแต่ละยุค คือการยืนยันว่า โมเดิร์นด็อก คือคณะดนตรีที่ทำงานศิลปะดนตรี ไม่ใช่ทำเพลงตามกระแส พวกเขาเลือกที่จะทำดนตรีที่ท้าทายทั้งตัวเองและผู้ฟังในยุคที่ตลาดเพลงเปลี่ยนไปในแต่ละรุ่น

ในแต่ละอัลบั้มเป็นงานที่ลุ่มลึกและมีเชิงชั้นทางศิลปะดนตรี แต่ไม่ได้ทอดทิ้งคนฟัง เป็นการแสดงให้เห็นถึงความยั่งยืนของคณะดนตรีที่ใช้ดนตรีเพื่อการเติบโตทางจิตวิญญาณ ไม่ใช่แค่ความบันเทิง ทว่าเป็นความงดงามเชิงดนตรีพาณิชย์ศิลป์ที่แสดงตัวตนของยุคอัลเทอร์เนทีฟร็อกของไทยอย่างสืบเนื่องยาวนาน ผ่านยุคสมัยอย่างสง่างาม

ความโดดเด่นในเสียงร้องและทักษะการเขียนเพลงของ ป๊อด-ธนชัย อุชชิน ซึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกในด้านการร้องเพลงที่ไม่ยึดติดกับขนบของเพลงตลาดในช่วงยุค 90s และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับนักร้องยุคต่อมา คุณลักษณะของเสียงและโทนเสียงของป๊อดมีลักษณะกังวาน ค่อนข้างสูง และมีความใสชัดเจน แต่ก็สามารถเพิ่มความขรึมเครียด หรือแหบพร่าได้เมื่อต้องการถ่ายทอดอารมณ์ที่หนักแน่น โดยเฉพาะในเพลงยุคแรก

พิสัยเสียงของป๊อดที่กว้างพอสมควร สามารถร้องเพลงในคีย์สูงได้ดี ในลักษณะของการตะโกนแบบมีสไตล์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของดนตรีอัลเทอร์เนทีฟร็อก ผ่านไดนามิคหรือพลังในการควบคุมระดับเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถเปลี่ยนจากเสียงกระซิบเบาๆ ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ไปสู่เสียงร้องที่ทรงพลังและเกรี้ยวกราดได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ทักษะที่โดดเด่นที่สุดของป๊อดคือ การแบ่งวรรคและการเน้นคำของเขา ไม่เป็นไปตามจังหวะดนตรีที่ตายตัว แต่เน้นไปที่การสื่อสารอารมณ์และเนื้อหาของคำพูด ทำให้การร้องของเขามีความเหมือนกับการเล่าเรื่อง (Storytelling) และมีจังหวะที่ไม่ซ้ำใคร ส่วนในบทเพลงช้าบัลลาด ป๊อดใช้การสั่นเสียงอย่างจงใจและมีชั้นเชิง มักจะใช้ในโน้ตที่ลากยาวเพื่อเพิ่มความลึกซึ้งและดราม่าให้กับเพลงช้า เชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกที่ออกมาจากข้างใน 

ป๊อดไม่ได้ร้องแค่ตามโน้ต แต่ร้องตามอารมณ์ของเพลง ผู้ฟังจะรู้สึกถึงความจริงใจและอารมณ์ที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเต็มเปี่ยม ด้วยเสียงที่ทรงพลังและตรงไปตรงมา นำเสนอความเปราะบาง ความเป็นศิลปะและความเป็นกวีเข้ามาในการร้องเพลงร็อกที่ใช้เสียงของตนเองเป็นเครื่องมือในการสำรวจความซับซ้อนของชีวิตและดนตรี

ส่วนสไตล์การเขียนเนื้อเพลงของ ป๊อด-ธนชัย อุชชิน มีความโดดเด่นและไวยากรณ์ทางภาษาเพลงเฉพาะตัวและเป็นเอกลักษณ์อย่างมากในวงการเพลงไทยเชิงพาณิชย์ศิลป์ การใช้ภาษาที่ลึกซึ้งและเป็นนามธรรม ผ่านสไตล์การประพันธ์ของเขา มักจะผสมผสานระหว่างความเป็นกวี และความเรียบง่ายที่ซ่อนความหมายเชิงปรัชญาไว้

การแต่งเพลงที่มีการใช้คำที่ไม่ได้อธิบายเหตุการณ์ตรงไปตรงมา แต่เน้นการสร้างภาพและอารมณ์ความรู้สึกให้ผู้ฟังตีความผ่านความเป็นนามธรรมเชิงปรัชญา เนื้อเพลงหลายเพลงไม่ได้มีพล็อตเรื่องชัดเจน แต่ตั้งคำถามหรือพูดถึงสภาวะทางจิตใจ เช่น ความเหงา การค้นหาตัวเอง ความว่างเปล่า และการดำรงอยู่ ผ่านการใช้คำง่ายๆ แต่สื่อถึงความงดงามของการเลือกใช้คำที่ละเมียดละไม มักจะเลือกใช้คำที่ให้สัมผัสทางวรรณศิลป์สูงและดูสวยงาม ซึ่งทำให้เนื้อเพลงของโมเดิร์นด็อกมีความแตกต่างจากเพลงร็อกทั่วไป

จุดเด่นในบทเพลงแบบโมเดิร์นด็อก คือไวยากรณ์ของเพลงที่มีโครงสร้างประโยคที่ไม่เป็นไปตามขนบ แบบเพลงยอดนิยมทั่วไป มักมีความต่อเนื่องของกระแสความคิด (Stream of Consciousness) ในบางเพลง การเรียงร้อยประโยคจะเหมือนกับการบันทึกกระแสความคิดที่ลื่นไหลและต่อเนื่อง โดยไม่มีการแบ่งท่อนที่ชัดเจนมากนัก ทำให้เพลงมีความเป็นอิสระและเป็นศิลปะมากขึ้น โดยมีการซ้ำคำเพื่อเน้นย้ำหรือวลีสั้นๆ เพื่อสร้างมนต์สะกดความรู้สึกหลักของเพลง เพื่อช่วยเสริมมิติทางดนตรีให้เข้าถึงอารมณ์ที่ลึกซึ้ง โดยบทเพลงจะมีคำถามแบบปลายเปิดมักจบลงด้วยคำถามหรือถ้อยคำที่ยังไม่ได้ให้คำตอบเบ็ดเสร็จ ทำให้ผู้ฟังต้องขบคิดและตีความต่อเอง

นอกจากนี้ยังมีความลื่นไหลเป็นเอกภาพกับการผสานไปกับดนตรี การเขียนเนื้อเพลงของป๊อดไม่ได้แยกส่วนจากทำนองเพลง เนื้อหาและทำนองจะถูกสร้างมาเพื่อส่งเสริมซึ่งกันและกัน มีความยืดหยุ่นทางทำนองผ่านการใช้คำที่ไม่ตายตัวมากนักเอื้อต่อการสร้างทำนองที่มีลูกเล่นทางดนตรีที่ไม่ซ้ำซาก โดยมีอารมณ์นำทางทำนองเพลงที่ดูหม่นๆ ล่องลอย หรือบางครั้งก็พลุ่งพล่าน จะสอดคล้องกับเนื้อเพลงที่เน้นการถ่ายทอดสภาวะอารมณ์เหล่านั้น

การเขียนเพลงของป๊อดจึงเป็นงานศิลปะทางถ้อยคำและถ้อยความที่มีความเป็นกวีสมัยใหม่โดยใช้ดนตรีร็อกเป็นพาหะสื่อกลาง ไม่ได้สร้างสรรค์งานที่ไม่ใช่แค่เพลงยอดนิยมติดชาร์ต แต่เป็นงานที่ท้าทายความคิด และเปิดพื้นที่ให้ตีความ ทำให้เพลงของโมเดิร์นด็อกยังคงมีร่วมสมัยอยู่เสมอ

ส่วนเมธี น้อยจินดา ถือเป็นมือกีตาร์ที่มีอิทธิพลสูงและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างยิ่งในวงการเพลงไทย สไตล์และเทคนิคของเขาต้องมองในแง่ของการสร้างสรรค์บรรยากาศ และการใช้เอฟเฟ็กต์ควบคู่ไปกับทักษะการเล่นกีตาร์แบบร็อกทั่วไป

สไตล์การเล่นของเมธี เป็นการหล่อหลอมมาจากอิทธิพลของมือกีตาร์ที่มีอิทธิพลซาวด์แบบแอมเบรียนต์ร็อกและโพสต์-พังค์ โดยสร้างซาวด์ที่เปิดกว้างและมีมิติ แม้จะไม่ใช่ซาวด์ที่เน้นความเกรี้ยวกราด แต่เมธีสร้างการซ้อนทับของเอฟเฟ็กต์จำนวนมากเพื่อสร้างกำแพงเสียงที่หนาแน่นและล่องลอยมาใช้ในการสร้างบรรยากาศของเพลงช้าและเพลงที่มีความเป็นแอมเบรียนต์ร็อก รวมทั้งการทดลองและสร้างสรรค์ซาวด์ที่แปลกใหม่เต็มไปด้วยความกล้าในการนำเสนอเสียงกีตาร์ที่ไม่คุ้นเคยเพื่อสร้างสรรค์ซาวด์กีตาร์ที่เป็นลายเซ็นเฉพาะตัวที่ตอบโจทย์การเล่าเรื่องและการสร้างอารมณ์ในแบบของโมเดิร์นด็อกได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เมธี เป็นมือกีตาร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านซาวด์สเคป ไม่ได้เน้นแค่การเล่นริฟฟ์หรือโซโล่ที่หวือหวา แต่เน้นการใช้กีตาร์เพื่อสร้างพื้นผิวทางเสียงและบรรยากาศที่ล่องลอยหมองหม่น หรือบางครั้งก็สว่างไสว เขาใช้กีตาร์เป็นเหมือนอีกหนึ่งเสียงสังเคราะห์ในคณะ การเล่นกีตาร์ของเมธีขึ้นอยู่กับการใช้เอฟเฟ็คต์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ Delay, Reverb, Overdrive/Distortion และ Chorus/Flanger เขาจัดเรียงและปรับแต่งเอฟเฟ็กต์เพื่อให้ได้ซาวด์กีตาร์ที่มีมิติและความหนาแน่นสูง การเป็นกระดูกสันหลัง ของคณะในฐานะคณะดนตรี 3 ชิ้น เมธีมีบทบาทสำคัญในการเติมเต็มช่องว่างทางดนตรีที่ขาดหายไปจากเครื่องดนตรีอื่น เขาต้องเล่นทั้งเมโลดี้ ริฟฟ์ และคอร์ดที่เต็มวงไปพร้อมๆ กัน

หลักๆ แล้วในฐานะมือกีตาร์ที่พิถีพิถันในการเลือกและจัดวางเอฟเฟ็กต์ เขาใช้เอฟเฟ็กต์เป็นเครื่องมือหลักในการสร้างพื้นผิวทางเสียงให้กับบทเพลง พร้อมกันนั้นเมธีแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางสไตล์กีตาร์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามแนวคิดของแต่ละชุดอัลบั้มอีกด้วย เมธีจึงไม่ได้เป็นเพียงมือกีตาร์ แต่เป็นเหมือนจิตรกรทางเสียงที่ใช้เครื่องดนตรีของเขาในการวาดภาพบรรยากาศและอารมณ์ให้กับบทเพลงของโมเดิร์นด็อก

เมื่อมารวมกับมือกลองที่เชี่ยวชำนาญของ ปวีณ สุวรรณชีพ ที่สามารถออกแบบซาวด์กลองให้สนองรับทั้งป๊อดและเมธีได้อย่างกลมกลืนลื่นไหลและหนักหน่วง เน้นความเป็นเอกภาพเดียวกันของอารมณ์ความรู้สึกที่สื่อสารออกมาในแต่ละบทเพลง

เมื่อมองพัฒนาการทางดนตรีของโมเดิร์นด็อกได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางดนตรีอย่างต่อเนื่องในแต่ละอัลบั้ม โดยไม่ได้ยึดติดกับแนวทางดั้งเดิมที่ประสบความสำเร็จ

ความชัดเจนในตัวตนและอิสระทางดนตรี: พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่าดนตรีที่มาจากความรู้สึกและอิสระทางความคิด สามารถประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งอัลบั้มแรกขายได้กว่า 1 ล้านชุด เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินทุกคนกล้าแสดงความเป็นตัวตน

สิ่งที่ยอดเยี่ยมกว่านั้น คือการแสดงสดที่ทรงพลัง คอนเสิร์ตของโมเดิร์นด็อกเป็นที่ยอมรับในเรื่องของพลังงาน การควบคุมอารมณ์ของผู้ชม และทักษะการเล่นดนตรีที่ยอดเยี่ยม ทำให้พวกเขายืนหยัดอยู่ในวงการมานานกว่า 30 ปี

กล่าวได้ว่า โมเดิร์นด็อกไม่ใช่แค่คณะดนตรีร็อก แต่คือปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมร็อกที่เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของวงการเพลงไทยไปอย่างสิ้นเชิงตั้งแต่ปี 2537 จนถึงปัจจุบัน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก