“จุดเด่น และความแตกต่างของเราคือเรื่องเดียวกัน เพราะจุดเด่นของเราคือชอบสร้างความแตกต่าง คนอื่นเขาไปฮอลลีวู้ดกัน เราก็มาเกาหลี ตอนแรกคนอื่นเขาจ่ายตังค์กัน เราก็ฟรีบวกจ่ายตังค์”
“ในยุคที่ทุกอย่างวัดด้วยการเติบโตของธุรกิจ ด้วยการแข่งขันที่สูง ถ้าสังเกตคนจะข้ามในส่วนที่ตัวเองเคยทำ อย่าง Viu เองก็ข้ามไปทำอะไรอย่างอื่นมากขึ้น เพราะเราต้องการเสริม eco system ให้แน่นขึ้น”
ท่ามกลางสมรภูมิบริการสตรีมมิ่ง ของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลก ที่เราต่างรู้จักกันดีทั้ง Netflix, Disney+, HBO Go, Amazon Prime ,WeTV, iQiyi และ Viu ต่างแข่งขันกันอย่างดุเดือดทั้งด้านเนื้อหา และผลประโยชน์ที่ผู้ชมจะได้รับ

โอ-ธวัตวงศ์ ศิลมานนท์ กรรมการผู้จัดการ Viu (วิว) ประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรก ถึงแผนการดำเนินธุรกิจของ Viu (วิว) ประเทศไทย โดยเล่าว่า Viu (วิว) เป็นบริการสตรีมมิ่งที่ก่อตั้งในฮ่องกงตั้งแต่ปี 2015 ให้บริการในไทยตั้งแต่ปี 2017 และอีก 16 ประเทศทั่วโลก เป็นเจ้าแรกที่ให้บริการสตรีมมิ่งทั้งในรูปแบบฟรี และจ่ายเงิน ในขณะที่ผู้ให้บริการรายอื่น ส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบธุรกิจสตรีมมิ่งแบบ OTT หรือ Over The Top ที่จะต้องจ่ายเงินเพื่อรับชมเพียงอย่างเดียว
Viu (วิว) ประเทศไทย มีจุดแข็งที่สำคัญคือซีรีส์เกาหลี และซีรีส์จากประเทศอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ รวมไปถึงซีรีส์ไทย โดยมีองค์ประกอบในการพิจารณาคัดเลือกซีรีส์อย่างเข้มข้น สิ่งสำคัญคือคุณภาพของเนื้อหา รวมไปถึงการพิจารณาจากพล็อตเรื่อง นักแสดง ผู้ผลิต กระแสความนิยม เช่นตอนนี้ซีรีส์ยูริกำลังมาแรง เราก็ต้องไปพิจารณาว่ามีเรื่องไหนที่เหมาะสมกับแพลตฟอร์มของเรา เราก็จะไป approach หรือทางค่าย-ผู้จัด ก็จะเสนอเข้ามาเอง
จุดเด่น – ความแตกต่าง ของ Viu (วิว) ประเทศไทย
เมื่อถามถึงจุดเด่นและความแตกต่างของ Viu (วิว) ประเทศไทย คุณโอ-ธวัตวงศ์ บอกว่าทั้งสองอย่างนี้คือเรื่องเดียวกัน เพราะจุดเด่นของเราคือเราชอบสร้างความแตกต่าง คนอื่นเขาไปฮอลลีวู้ดกัน เราก็มาเกาหลี ตอนแรกคนอื่นเขาจ่ายตังค์กัน เราก็ฟรีบวกจ่ายตังค์ และมีความแข็งแกร่งเรื่องคอนเทนต์ไทย แต่เท่านั้นยังไม่พอเราต้องคิดว่าเราจะแตกต่างอย่างไรต่อ Viu (วิว) ประเทศไทย จึงได้ทำพากย์เสียงอีสาน เหนือ และล่าสุดเริ่มทำพากย์เสียงใต้ด้วย
“ล่าสุด Viu (วิว) ประเทศไทย ก็ได้มีการจัดงานอีเวนต์ที่ไม่ใช่งานแฟนมีต ไม่ใข่งานคอนเสิร์ต แต่เป็น experience party เชิญบุคคลในแวดวงต่างๆ ทั้ง โปรดักชันเฮ้าส์ อินฟลูเอ็นเซอร์ พาร์ทเนอร์ มาร่วมงาน เดิมวางขนาดของงานไว้ที่ 500 คน แต่มีผู้เข้าร่วมงานของเราถึง 900 คน เป็นงาน networking ที่แตกต่าง ถึงแม้ส่วนหนึ่งเราจะอยู่ใน red ocean แต่เราก็ต้อง Spin Off ไปทำอะไรที่สร้างจุดเด่นให้เราเพิ่มขึ้น แต่แน่นอนที่สุดเราต้องสร้าง eco system ให้ได้ และมันต้องส่งเสริมสิ่งที่เราทำอยู่ด้วย”
Viu (วิว) ประเทศไทย ในปี 2025

กรรมการผู้จัดการ Viu (วิว) ประเทศไทย ยังได้เปิดเผยข้อมูลว่าเดิม Viu (วิว) ประเทศไทย ปีนี้ได้มีการปลดล็อคให้สมาชิกทั่วไปสามารถดูคอนเทนต์ได้ฟรีทางโทรทัศน์ โดยผ่านแพลตฟอร์ม Viu แต่สิ่งที่เป็นคีย์หลักคือเราจะมีโฆษณา และเปิดให้เอเจนซี่สามารถซื้อเวลาโฆษณาได้ และแฟนๆ เตรียมตัวพบกับกิจกรรม on ground ที่มีจำนวนมากขึ้นทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดของธุรกิจสตรีมมิ่ง แต่จากข้อมูล Viu (วิว) ประเทศไทยในขณะนี้ก็มีจำนวนสมาชิกที่เติบโตขึ้นเรื่อย ควบคู่ไปกับคอนเทนต์คุณภาพที่หลากหลายยิ่งขึ้นเช่นกัน