หากคนในวงการมวยเอ่ยชื่อ “เอ๋ จิตรเมืองนนท์” ขึ้นมา เชื่อว่าคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักอย่างแน่นอน เธอคือหญิงเหล็กแห่งวงการมวยไทยในปัจจุบัน ผู้ซึ่งเป็นทั้งหัวหน้าค่ายมวย ผู้จัดการ โปรโมเตอร์ และ “แม่” ของนักมวยในค่ายจิตรเมืองนนท์ที่โด่งดัง
FEED ได้พูดคุยกับซ้อเอ๋ หรือ สุนทรี โลหะพืช เธอเล่าว่าเริ่มทำค่ายมวยครั้งแรก เพราะเมื่อก่อนสามีของเธอคือ “อ้วน เมืองนนท์” ชื่นชอบในกีฬามวย และยังเคยเป็นเซียนเดินสายตู้มวยวันเสาร์-อาทิตย์ ตามเวทีราชดำเนิน และลุมพินี
ต่อมาสามีของเธออยากมีค่ายมวยเป็นของตัวเอง จึงได้ปรึกษาหารือกับเพื่อนซึ่งก็คือ นายสมจิตร แว่นแก้ว ก่อนตัดสินใจสร้างค่ายมวยที่ซอยวัดลาดปลาดุก จ.นนทบุรี ขึ้นมา ชื่อค่ายมวย “จิตรเมืองนนท์” มาจากชื่อของนายสมจิตร ผนวกรวมกับความเป็นคนจังหวัดนนทบุรี
“ประมาณปี 2553 มีนักมวยคนแรกๆ คือ เพชรสยาม จิตรเมืองนนท์ เพชรกะรัต จิตรเมืองนนท์ ที่ได้แชมป์ช่อง 7 สี จนน้ำท่วมใหญ่ก็ได้ย้ายมาอยู่ที่ซอยวัดกำแพง มีนักมวยเงินแสนคนแรกคือ พันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ ได้ยอดมวย 3 พ.ศ.ติด ๆ กันเลยค่ะ แล้วก็มี รถถัง จิตรเมืองนนท์ หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ เขี้ยวพยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ ยอดพนมรุ้ง จิตรเมืองนนท์”
“วันที่ 4 มีนาคม ปี 2561 พี่อ้วนแฟนของเอ๋ได้เสียชีวิตลง เอ๋ก็เลยต้องมายืนตำแหน่งแทน โดยเป็นทั้งหัวหน้าค่ายมวย ผู้จัดการ โปรโมเตอร์ สานงานแทนแฟนทุกอย่าง”
“หารายการให้นักมวยทุกคน ดูแลชีวิตนักมวยทุกคน เป็นทั้งแม่บ้านของที่บ้านด้วย ดูแลครอบครัวด้วย เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นทุกอย่างเลย เป็นที่ปรึกษาของนักมวยทุกคนในค่ายด้วย” ซ้อเอ๋ กล่าว
เมื่อถามถึงนักชกผู้เป็นตัวแสบประจำค่าย ซ้อเอ๋ ตอบทันทีว่า รถถัง กับ สะแกงาม
“รถถังจะมีวีรกรรมเยอะมาก เขาเป็นเด็กเหมือนพลังภายในเขาแข็งแกร่งมาก ทุกครั้งที่เขาชกน้อยครั้งที่จะซ้อมครบคอร์สเหมือนเด็กคนอื่น ช่วงที่เขามีแฟน เขาก็จะหนีไปหาแฟนเขาบ้าง บางทีเช้าไม่ลุกวิ่งบ้าง ไม่ซ้อมเหมือนเด็กคนอื่น”
“แต่พอเขาขึ้นเวทีไป เหมือนเขาแข็งแรงมาก เหมือนเขามีพรสวรรค์ของเขาชนิดหนึ่ง ก็จะทะเลาะกันตลอด สมัยก่อนเขาไม่เก่ง แต่รายการก็มีตลอดทุกนัด ก็จะต้องโทรฯ ด่าทุกครั้งทุกวัน รถถังซ้อมนะ วิ่งนะ ตื่นนะ”
“รถถังเนี่ยเขาจะไม่ค่อยซ้อมตอนเช้า เอ๋ก็จะเครียดกับเขามาก อย่างสะแกงามก็จะเป็นช่วงที่เขาดัง เขาก็จะติดผู้หญิง มีเงินเท่าไหร่ ก็จะให้ผู้หญิงหมด แต่เอ๋ก็จะมีเทคนิคตรงที่ว่าออกลูกน้อยใจ ไม่สงสารแม่เหรอ ไม่รักแม่เหรอทำแบบนี้”
“ร่างกายเราก็จะแย่ใช่ไหม หนีเที่ยวกลางคืน บางทีนักมวยซ้อมให้ตาย อดนอนคืนเดียวก็ไม่เหลือแล้วนะ ก็จะบอกเขาว่าไม่รักตัวเองเหรอ นักมวยไม่มีชีวิตที่ยืนยาวเหมือนอาชีพอื่น ถึงเวลาหยุดก็ต้องหยุด ร่างกายมันไปไม่ได้”
“ช่วงที่เราหาเงินได้ เราต้องรีบ ต้องรีบโกย ต้องรีบหาให้มากที่สุด มีเงินสักก้อนหนึ่งไปซื้อที่ ซื้อบ้าน ทำธุรกิจ ถ้าเราเลิกมวยไป เราจะมีแฟนกี่คนก็ได้ คือเราก็สอนเขา” ผู้เป็นแม่ของนักมวยในค่ายจิตรเมืองนนท์ กล่าว
บทบาทการเป็น “แม่” ของนักมวยในค่าย
นอกจากนี้ ซ้อเอ๋ ยังเล่าถึงบทบาทของตัวเองกับการเป็น “แม่” ของนักมวยในค่าย ซึ่งตัวเธอย้ำว่ารู้สึกดีใจที่มีลูกมากขึ้น
“แต่ก่อนเขาเรียกเจ๊ เหมือนเราเป็นทุกอย่างของเขา ไม่ว่าเขาจะทุกข์หรือสุข เราจะต้องอยู่ตรงนั้น คอยยื่นมือเข้าไปช่วยทุกอย่าง แล้วอีกอย่างนักมวยทุกคนเขาห่างอกพ่ออกแม่เขามา เวลาเขาต้องการอะไร หรือว่าเขาโหยหา เขาทุกข์ เอ๋จะอยู่ตรงนั้นตลอด”
“เอ๋ไม่ได้ให้เขาเรียกนะ เขาเรียกของเราเอง ทุกคนมาใหม่ก็เฮ้ย! กูรู้สึกอบอุ่น เอ๋ให้ความอบอุ่นเขา ให้ทุกอย่าง ช่วยเหลือเขา ให้คำปรึกษาที่ดี เขาก็ให้เกียรติเราเป็นแม่เขาเลย ทุกคนเข้ามาไม่ว่าจะเด็กใหม่ ก็เรียกแม่เหมือนกันหมด ไม่ได้รู้สึกแก่ รู้สึกดีใจที่มีลูกมากขึ้น”
ซ้อเอ๋ กล่าวถึงความรู้สึกถูกเรียกว่าแม่
“ขอบคุณมากๆ เลยสำหรับเสียงตอบรับของแฟนหมัดมวยที่เป็นแฟนคลับของจิตรเมืองนนท์มายาวนานมากๆ มีแต่จะมากขึ้นๆ นะคะ เอ๋ก็ให้สัญญานะคะว่าจะสร้างมวยใหม่ๆ ขึ้นมา ให้เหมือนมวยรุ่นแรกๆ เหมือนรถถัง แล้วก็จะรักษามาตรฐานของจิตรเมืองนนท์แบบนี้ตลอดไปค่ะ” ซ้อเอ๋ กล่าวทิ้งท้าย