‘แบมแบม กันต์พิมุกต์’ ขึ้นแท่นแอมบาสเดอร์คนแรกของเสียวหมี่ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สะท้อนความเก่ง ฉลาด เท่ในแบบตัวเองกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด ‘Redmi Note 13 Series’ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Every shot iconic (โดดเด่นในทุกช็อต)
เสียวหมี่เปิดตัว ‘แบมแบม กันต์พิมุกต์’ หรือ แบมแบม GOT7 (BamBam GOT7) ศิลปินเชื้อสายไทยที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความสามารถ และยังมีแฟนคลับมากมายจากทั่วทุกมุมโลก ในฐานะแอมบาสเดอร์คนแรกของ เสียวหมี่ อินเตอร์เนชั่นแนล ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้งานเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด ‘Redmi Note 13 Series’ ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย
อย่างที่หลายคนรู้จักกันดีกว่า เสียวหมี่ เป็นแบรนด์เทคโนโลยีชั้นนำของโลกที่ออกแบบและผลิตสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ AIoT ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของผู้คนซึ่งรวมถึงคนรุ่นใหม่ที่เป็น กลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์โดดเด่น กล้าแสดงออก เป็นตัวของตัวเอง โดยการเปิดตัวแอมบาสเดอร์ครั้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคอนเซ็ปต์ ‘Every shot iconic’ หรือ ‘โดดเด่นในทุกช็อต’ ซึ่งเป็นสโลแกนของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด ‘Redmi Note 13 Series’ ซึ่งการเปิดตัวแอมบาสเดอร์ยังช่วยส่งเสริมด้านการสื่อสารและสะท้อนภาพลักษณ์รวมทั้งคอนเซ็ปต์ของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งยังจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วโลกได้ เพราะแบมแบมเป็นตัวอย่างของคนที่มีทั้งความสามารถและความพยายามในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ และเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด
Redmi Note 13 Series ในคอนเซ็ปต์ Every shot iconic พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้วอย่างเป็นทางการในประเทศไทยทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Redmi Note 13 Pro+ 5G, Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13 โดยจุดเด่นของ Redmi Note 13 Series คือ กล้องหลักซึ่งมีความละเอียดสูงสุดถึง 200MP ที่มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออพติคอล (OIS) หน้าจอแสดงผลแบบโค้ง 120Hz AMOLED ความละเอียด 1.5K พร้อม Corning® Gorilla® Glass Victus®
สำหรับเสียวหมี่ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2010 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 (1810.HK) เสียวหมี่เป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตที่มีสมาร์ทโฟนและสมาร์ทฮาร์ดแวร์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อด้วยแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) เป็นแกนหลัก
ด้วยวิสัยทัศน์ของการเป็น “มิตรของผู้ใช้งานและบริษัทที่ทันสมัยที่สุดในใจผู้ใช้งานทุกคน” เสียวหมี่จึงมีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะพัฒนานวัตกรรม ประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยม ตลอดจนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะไม่ลดละการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในราคาที่เป็นมิตร เพื่อให้ทุกคนบนโลกนี้สามารถเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้
เสียวหมี่คือหนึ่งในบริษัทสมาร์ทโฟนชั้นนำของโลก ในเดือนกันยายน 2566 MAU ของ MIUI นั้นสูงถึงประมาณ 623 ล้านคนทั่วโลก นอกจากนี้เสียวหมี่ยังเป็นผู้นำด้านการก่อตั้งแพลทฟอร์ม AIoT (AI+IoT) ของโลกโดยมีสินค้าอัจฉริยะเชื่อมต่อกับแพลทฟอร์มกว่า 699 ล้านเครื่อง ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 โดยยังไม่รวมสมาร์ทโฟน แล็ปท็อปและแท็บเล็ต ผลิตภัณฑ์ของเสียวหมี่มีวางจำหน่ายกว่า 100 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก และในเดือนสิงหาคม 2566 เสียวหมี่ยังติดอันดับใน Fortune Global 500 นับเป็นการติดอันดับครั้งที่ห้าติดต่อกัน ในอันดับที่ 360