Tiktok เปิดทดลองระบบวิดีโอแบบแนวนอน
TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอแชร์ริ่ง ชื่อดังที่กำลังเป็นกระแสมาตั้งแต่ช่วง COVID-19 เริ่มระบาดที่ผ่านกำลังได้เริ่มทำการทดลองระบบการเล่นวิดีโอแบบแนวนอน ซึ่งการทดลองในครั้งนี้ทำให้ผู้เชียวชาญทางด้าน Social Media หลายคนคาดการณ์ว่าการทดลองนี้จะทำให้ TikTok เพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดวิดีโอแชร์ริ่งและสามารถต่อกรกับคู่แข่งคนสำคัญในตลาดอย่าง YouTube ได้ ซึ่งที่ผ่านมาการเข้าทำวิดีโอแนวตั้งหลายคอนเทนต์ช่วยให้ TikTok เป็นแอปพลิเคชั่นที่เติบโตไวที่สุดใน Social Media
แต่อย่างไรก็ตาม TikTok แอปพลิเคชั่นที่ถูกพัฒนาจากจีน ยังคงถูกแบนอยู่ในหลายประเทศด้วยเหตุผลทางความมั่นคง แรกเริ่มเดิมที TikTok ถูกสร้างให้เล่นวิดีโอที่มีความยาวไม่เกิน 3 นาที ล่าสุดก่อนหน้านี้ได้มีการปรับให้สามารถอัพโหลดวิดีโอไปได้ถึง 10 นาที “Paul Triolo” ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีจาก Albright Stonebridge Group ได้กล่าวว่า “ ในตอนนี้ TikTok ได้เข้ามายืนอยู่ในพื้นที่การตลาดของ YouTube แล้ว จากการอัพเดทให้อัพโหลดวิดีโอขนาดไม่เกิน 10 นาที ทำให้ TikTok ค่อยๆเอาชนะ YouTube ในกลุ่มคนดูที่อายุน้อย “ โดย “Paul Triolo” ยังได้กล่าวต่อไปว่า “ เป้าหมายของ TikTok ในตอนนี้ดูเหมือนการกำลังพยายามดึงดูดผู้ชมที่มีอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใช้ YouTube ในการค้นหาข้อมูลและศึกษาหาความรู้ต่าง ๆ โดยการใช้งานแบบเต็มหน้าจอจะให้ความสะดวกที่มากกว่า
การปะทะเดือดของผู้ให้บริการ Platform Tiktok vs YouTube
จากการพยายามทดลองระบบในครั้งนี้ทำให้เห็นความร้อนแรงในตลาด แพลตฟอร์มวิดีโอแชร์ริ่งระหว่าง YouTube และ TikTok ได้เป็นอย่างดีว่า ตลาดนี้กำลังร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ “Carolina Milanesi” ผู้ก่อตั้งบริษัท The Heart of Tech Consultancy ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ TikTok ตอนนี้ดูเหมือนว่ากำลังดึงดูดจำนวนของ Content Creator มากยิ่งขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ YouTube ได้มีการอัพเดทให้มีวิดีโอสั้นหรือ Short ที่เรียกกัน นับเป็นการเดินเกมบุกใหญ่ของ YouTube ซึ่งทำให้ TikTok มีความเกรงว่าการเดินเกมของ YouTube จะดึงดูดนักสร้างคอนเทนต์ไปจากTiktok
อย่างไรก็ดี “Jonathon Hutchinson” อาจารย์จาก University of Sydney เชื่อว่าทั้งสองแพลตฟอร์มจะยังคงเดินหน้าพัฒนากันต่อไป โดย YouTube จะมีมูลค่าของการผลิตที่สูงกว่าพอสมควรและใช้เวลานานกว่าสำหรับผู้ใช้ที่จะปรับตัวเข้าหาการผลิตคอนเทนต์เหล่านั้น ส่วน TikTok จะยังคงเป็น Platform ของการสร้างสรรค์วิดีโอผ่านการใช้โทรศัพท์เป็นหลักเพื่อวิดีโอที่สั้นกว่าและมีการมีส่วนร่วมในการสร้างที่มากกว่า” TikTok ปัจจุบันเป็นแอปพลิเคชั่นที่ดึงดูดหนุ่มสาวทั่วโลก การันตีได้จากการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั้นที่มีขึ้นกว่า 400 ล้านครั้ง แต่ TikTok เองยังคงต้องจัดการตัวเองในหลายประเทศที่ยังมีการแบนเกิดขึ้นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ไต้หวัน หรือแม้แต่อินเดีย ซึ่งหลายประเทศมีความกังวลในเรื่องของความมั่นคงภายในเพราะการที่ TikTok เป็นของบริษัท ByteDance ยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีของจีนนั้นเอง
แหล่งที่มาข้อมูล
BBC :https://www.bbc.com/news/business-63981657