Tesla มาแล้ว
อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตเป็นอย่างมากในประเทศไทย ตัวเลขของจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยเติบขึ้นอย่างรวดเร็ว อ้างอิงจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ในช่วงตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 230.6 % โดยในจำนวนนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นแบตเตอร์รี่ล้วนถึง 15,258 คัน ล่าสุด Tesla Thailand Official ส่งจดหมายเชิญงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ณ สยามพารากอน วันที่ 7 ธันวาคม 2565
การเคลื่อนไหวของ Tesla เป็นที่น่าจับตาเพราะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าบ้านเราปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าตลาด Mass ในช่วงราคาแสนถึงล้านต้นๆ ตกเป็นของรถยนต์จากประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อย ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าระดับ Luxury ก็ตกเป็นของรถแบรนด์ยุโรปไปแล้ว เหลือเพียงช่องว่างของรถยนต์ไฟฟ้า Premium ในช่วงราคาล้านกลางไปจนถึงสามล้านอยู่ ซึ่งมีข่าวจากแวดวงยานยนต์ว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ Tesla จะเลือกเข้ามาทำตลาดในช่วงแรกคือ Tesla Model 3 และ Tesla Model Y ที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.7x-1.8x ล้านบาท ซึ่งจะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอยู่ในตอนนี้
แบรนด์รถไฟฟ้าที่ผู้ขับขี่มั่นใจและถามหา
รถยนต์ Tesla ของ “Elon Musk” เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่คนทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยสนใจ เนื่องจาก Tesla เป็นบริษัทที่มุ่งเน้นในด้านการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ามาตั้งแต่เริ่ม และส่งเสริมการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานที่ยั่งยืนมาตลอด นอกจากนี้ Tesla ยังมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ตลาดโลกเปลี่ยนจากการใช้รถยนต์แบบดั้งเดิมมาสู่รถยนต์ไฟฟ้าเร็วยิ่งขึ้น ในส่วนของคุณภาพและการออกแบบรถยนต์ Tesla ได้รับการพัฒนามาเป็นอย่างดี เข้าใจง่าย และเชื่อถือได้ จึงไม่แปลกที่รถยนต์แบรนด์นี้จะครองใจทั้งคนรักรถ รวมถึงคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องรถอย่างง่ายดาย
Tesla Model 3 และ Tesla Model Y
Tesla Model 3 รถยนต์ไฟฟ้าตัวถัง Sedan 4 ที่นั่ง และ Tesla Model Y รถยนต์ไฟฟ้าไซด์ SUV ที่นั่ง 3 แถวขนาด 7 ที่นั่ง เป็นรถยนต์สองรุ่นที่แน่นอนแล้วว่าจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย หลังจากมีภาพหลุดของรถยนต์ทดสอบวิ่งทดสอบอยู่ในกรุงเทพฯ สำหรับ Tesla Model 3 มีด้วยกัน 3 รุ่นย่อย และ Tesla Model Y อีก 3 รุ่นย่อย โดยลูกค้าที่สั่งซื้อในล็อตแรกจะได้รับส่งมอบในช่วงเดือนมกราคม 2023 ซึ่งเป็นรถยนต์ที่จะประกอบและนำเข้ามาจากประเทศจีน
กระแสแรงจูงใจกับคนไทยในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า
ในส่วนของประเทศไทยมีการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ขณะที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ก็ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายของภาครัฐหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นการลดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าสูงสุดที่ 40% , เงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าสูงสุด 150,000 บาทต่อคัน และการลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไฟฟ้า จาก 8% เหลือ 2% โดยค่ายรถยนต์นั้นจำเป็นจะต้องเซ็น MOU กับทางภาครัฐ นอกจากนี้รถยนต์ไฟฟ้ายังมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่น้อยกว่ารถที่ใช้น้ำมันเป็นอย่างมาก แถมยังสามารถช่วยลดการปล่อยมลพิษในอากาศที่เป็นปัญหาฝุ่นควันจากเครื่องยนต์สันดาปได้อีกด้วย