“กาฟิวส์ – ไอมี่” ภารกิจก้าวกระโดดอันล้ำค่า กับลีกอาชีพมองโกเลีย 

หลังจาก สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย มีนโยบายสานต่อความสำเร็จกับเป้าหมาย การสร้างนักกีฬาวอลเลย์บอลรุ่นใหม่ เพื่อขึ้นมาเสริมทีมชาติไทยในอนาคต มุ่งเน้นสร้างนักกีฬาระดับเยาวชนรุ่นอายุ 16 ปี และ 18 ปี เป็นการผลักดันนักกีฬารุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นตัวหลักภายในปี 2028 หรือ 6 ปีข้างหน้า

หนึ่งใน Road Map คือ การส่งนักกีฬาวอลเลย์บอลดาวรุ่งไปเล่นลีกอาชีพต่างประเทศ อย่าง “กาฟิวส์ อัมพา สนสุรัตน์” ตัวตบหัวเสา (Outside Hitter) และ “ไอมี่ ภิญญดา โต๊ะพ่อ” ตัวตบตรงข้ามหัวเสา (Opposite Spiker) วัย 18 ปี ดีกรีนักวอลเลย์บอลทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี หรือ U20 ได้ย้ายไปร่วมทีม Khashkhan สโมสรวอลเลย์บอลในลีกอาชีพของประเทศมองโกเลีย Mongolian Premier League ฤดกาล 2022-2023 ด้วยสัญญา 2 เดือน เป็นประสบการณ์ก้าวกระโดดสู่การเล่นลีกอาชีพต่างแดน 

สำหรับผลงานของ 2 นักตบลูกยางดาวรุ่งไทย พาทีม Khashkhan แข่งขันรวม 3 เลก โดยเลกที่ 1 อยู่อันดับที่ 8, เลกที่ 2 อยู่อันดับที่ 6 และ เลกที่ 3 อยู่อันดับที่ 1 แล้วเอาอันดับแต่ละเลกมารวมกันได้ 15 จบอันดับที่ 6 ของตาราง มี 27 คะแนน ไม่สามารถผ่านเข้าไปแข่งขันรอบ 4 ทีม หลังใช้วิธีตัดทีมจากการเอาอันดับแต่ละเลกมารวมกัน จากนั้นเรียงอันดับเลขน้อยไปมาก 

เมื่อเสร็จภารกิจกับทีม “กาฟิวส์” และ “ไอมี่” จะกลับประเทศไทย หลังได้โอกาสอันล้ำค่า สะสมประสบการณ์การเรียนรู้ การใช้ชีวิตต่างแดน เตรียมความพร้อมสู่มืออาชีพ พัฒนาคุณภาพร่างกาย จิตใจ และเทคนิคที่ดี  ซึ่งตาม Road Map ของสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย วางแผนให้กลับมาเล่นไทยแลนด์ลีก เลกสอง และ ไฟนอล ให้ทัน เพื่อสร้างสีสันและการพัฒนาลีกในประเทศ

การเดินทางไปเล่นลีกอาชีพที่ประเทศมองโกเลียครั้งนี้“กาฟิวส์” และ “ไอมี่” ได้รับการต้อนรับและดูแลเป็นอย่างดีจาก Altankhuu Davaanyam ประธานสโมสรKhashkhan ได้โอกาสลงแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อพัฒนาการของทั้งคู่ในด้านความมั่นใจ เทคนิค การแก้ไขสถานการณ์ในสนามที่ต้องเจอกับนักกีฬาวอลเลย์บอลมองโกเลีย ที่มีรูปร่างค่อนข้างสูง รวมถึงวิทยาศาสตร์การกีฬา และ โภชนาการ ที่เหมาะสม พร้อมต่อยอดเล่นลีกอาชีพในประเทศที่ระบบแข็งแกร่งมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน

อีกเรื่องที่สำคัญของนักกีฬาที่ต้องเดินทางไปเล่นลีกอาชีพต่างแดนคือ การปรับตัวใช้ชีวิตในภาพภูมิประเทศภูมิอากาศที่แตกต่างจากประเทศไทย  จะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่จะส่งผลต่อฟอร์มการเล่นและสภาพจิตใจ 

อย่างที่ “โค้ชอ๊อด เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร” อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งอุปนายกฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย, เลขาธิการสหพันธ์วอลเลย์บอลแหงเอเชีย หรือ AVC และ คณะกรรมการบริหารสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ หรือ FIVB เคยกล่าวเอาไว้ว่า Mongolian Premier League วอลเลย์บอลลีกอาชีพสูงสุดของประเทศมองโกเลีย ในมุมมองของ ‘โค้ชอ๊อด’ นั้น ยังถือว่าเป็นลีกระดับอาชีพที่ไม่แข็งมาก แต่ย้ำว่าเด็กๆจะได้เรียนรู้ และใช้ชีวิตต่างแดน เตรียมเดินเส้นทางสายอาชีพระดับนานาชาติมากขึ้น โดยมีแผนจะส่งนักกีฬาดาวรุ่งไปอีกเป็นการไปเล่นในระยะสั้นในอนาคต  

“การปลูกต้นไม้ ต้องใช้เวลาและการบำรุงเพื่อออกดอกกับออกผล การปั้นนักกีฬาวอลเลย์บอลดวงใหม่ขึ้นมาประดับวงการลูกยางไทย ก็ต้องใช้เวลาและความทุ่มเทลงไปเช่นกัน จึงจะต่อยอดสู่ระดับอาชีพและนานาชาติในอนาคต”