ฟุตบอลโลกในความทรงจำ “แจ็คกี้” อดิสรณ์ พึ่งยา : ฝรั่งเศสชนะจุดโทษบราซิล ปี 1986 และหัตถ์แห่งพระเจ้า “มาราโดน่า”

ฟุตบอลโลก 1986 ที่เม็กซิโกเป็นเจ้าภาพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย บราซิลเจอฝรั่งเศส ถูกยกย่องให้เป็นแมตช์ที่คลาสสิกที่สุดแมตช์หนึ่งของฟุตบอลโลก เพราะแม้ว่าจะเสมอกันใน 120 นาที 1-1 แต่มันสนุก เพราะว่าทั้ง 2 ทีมเล่นเกมรุกกันตลอดเวลา ถ้าเป็นมวยก็คือออกอาวุธกันตลอด คนดูได้ประโยชน์ ได้ความสนุก

“แจ็คกี้” อดิสรณ์ พึ่งยา ผู้ประกาศข่าวกีฬาช่อง 7HD นักพากษ์ฟุตบอล และคอลัมนิสต์ นสพ.สยามกีฬา

“ฟีฟ่า เวิลด์คัพ” ทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการฟุตบอล ใกล้จะได้ฤกษ์เปิดฉากขึ้นแล้วที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน – 18 ธันวาคม 2565 โดยนัดแรก “เจ้าภาพ” กาตาร์ จะลงสนามพบกับ เอกวาดอร์ เวลา 23.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

ใครที่ติดตามข่าวมาตลอดคงทราบกันดีว่าฟุตบอลโลกครั้งนี้ถูกพูดถึงในด้านลบมากมาย ทั้งการล็อบบี้โหวตเลือกชาติเจ้าภาพ เพื่อแลกกับผลประโยชน์ และในเวลาต่อมาคณะกรรมการระดับสูงของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ที่นำโดย เซ็ปป์ แบล็ตเตอร์ อดีตประธานองค์กรลูกหนังโลก ถูกดำเนินคดีในข้อหาทุจริต และถูกลงโทษแบนห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลกันยกโขยง ซึ่งรวมถึง “บังยี” วรวีร์ มะกูดี อดีตบอร์ดฟีฟ่า และอดีตนายกสมาคมฟุตบอลของไทยด้วย

นอกจากนี้ยังมีปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน การปฏิบัติต่อแรงงานต่างชาติอย่างไม่เป็นธรรม ลิดรอนสิทธิของแรงงาน ตลอดจนมีแรงงานเสียชีวิตจำนวนมากในช่วงก่อสร้างโครงการฟุตบอลโลก

กลายเป็นรอยด่างของกาตาร์กับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022

ไม่เพียงแค่นั้น “ฟีฟ่า เวิลด์คัพ กาตาร์ 2022” ยังถูกแฟนบอลจากหลายชาติตั้งคำถามด้วยว่า ฟุตบอลโลกครั้งนี้อาจจะเป็นฟุตบอลโลกที่แสนจะจืดชืดหรือไม่? เพราะข้อห้ามข้อกฎหมาย หรือ วัฒนธรรมประเพณีในกาตาร์ ซึ่งมีความแตกต่างจากชาติเจ้าภาพฟุตบอลโลกในอดีตที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง

สอดคล้องกับมุมมองของ “แจ็คกี้” อดิสรณ์ พึ่งยา ผู้ประกาศข่าวกีฬาช่อง 7HD นักพากษ์ฟุตบอล และคอลัมนิสต์ นสพ.สยามกีฬา ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับ FEED ในเรื่องการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ และแมตช์ฟุตบอลโลกที่อยู่ในความทรงจำ

“แจ็คกี้” แสดงความคิดเห็นว่า ฟุตบอลโลกครั้งนี้อาจจะไม่ใช่งานเฟสติวัลเหมือนที่ผ่านมา เช่น ในทวีปอเมริกาใต้ หรือทวีปยุโรป และเชื่อว่าบรรยากาศความสนุกสนานจะลดลงกว่าปกติ เพราะกาตาร์ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวอย่างที่ควรจะเป็น!?

ฟุตบอลโลกที่กาตาร์ “ไม่สมบูรณ์แบบ”

อดิสรณ์ พึ่งยา : ฟีฟ่าก็ยอมรับแล้ว อดีตประธานฟีฟ่าอย่าง แบล็ตเตอร์ ก็ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดที่ให้กาตาร์เป็นเจ้าภาพ เพราะปัญหามันเยอะ ปัญหาเรื่องสนาม เรื่องสิทธิมนุษยชน และฟุตบอลโลกต้องเปลี่ยนมาเตะกลางฤดูกาล ปกติจะแข่งเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม แต่ครั้งนี้ต้องมาเตะธันวาคมแทน

แล้วฟุตบอลโลกที่กาตาร์ก็เป็นฟุตบอลโลกที่ไม่ใช่เฟสติวัล ความสนุกมันก็จะหายไป ด้วยข้อกฎหมายอะไรต่างๆ ดื่มแอลกอฮอล์นี่ก็ยากแล้ว เห็นบอกว่าจะจัดให้ที่แฟนโซนอย่างเดียว มันไม่เหมือนบรรยากาศของคนที่จัดฟุตบอลโลก ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาใต้ หรือยุโรป เพราะทุกคนเหมือนไปเที่ยวไปสนุกกันทั้งวันทั้งคืนเลยก็ว่าได้ พอทีมชาติตัวเองตกรอบก็กลับบ้าน คือเขามาสนุกกัน

แต่ไปกาตาร์มันสนุกแบบนั้นไม่ได้ คุณจะไปสนุกในมงในเมืองมันไม่มีผับบาร์อะไรต่างๆ ใช่ไหม มันก็เป็นอีกจุดหนึ่ง แล้วก็ค่าครองชีพ เห็นน้องๆ ที่ไปจองโรงแรมไว้ ราคามันก็ค่อนข้างสูง ซึ่งกาตาร์อาจจะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวมากนัก มันก็เลยกลายเป็นหลายๆ เรื่องรวมกัน

ตอนนี้ตั้งแง่ไว้แล้ว แต่อาจจะดีก็ได้นะ มันไม่แน่ เราอาจจะติไปก่อน ตีตนไปก่อนไข้ว่ากาตาร์จัดฟุตบอลโลกเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมแล้วมีปัญหาเยอะ แต่เขาอาจจะทำได้ดีก็ได้ ไม่แน่เหมือนกันนะ แต่เราก็เชื่อว่ามันก็คงไม่สมบูรณ์แบบเท่าไร

อดิสรณ์ พึ่งยา สะท้อนมุมมองเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022

ฟุตบอลโลกในความทรงจำ บราซิลดวลฝรั่งเศส ปี 1986

อดิสรณ์ พึ่งยา : ฟุตบอลโลกแมตช์แห่งความทรงจำ แมตช์แห่งความประทับใจ คงต้องย้อนไปตอนสมัยเป็นนักเรียนมัธยม ช่วงนั้นฟุตบอลโลก ปี 1986 ที่เม็กซิโกเป็นเจ้าภาพ เป็นรอบ 8 ทีมสุดท้าย บราซิลเจอฝรั่งเศส ซึ่งก็ถูกยกย่องให้เป็นแมตช์ที่คลาสสิกที่สุดแมตช์หนึ่งของฟุตบอลโลก เพราะแม้ว่าจะเสมอกันใน 120 นาที 1-1 แต่มันสนุก เพราะว่าทั้ง 2 ทีมเล่นเกมรุกกันตลอดเวลา เหมือนถ้าเป็นมวยก็คือออกอาวุธกันตลอด คนดูได้ประโยชน์ ได้ความสนุก มันประทับใจหลายอย่าง

ตอนนั้นมีการถ่ายทอดสดด้วย รอบ 8 ทีม ก่อนหน้านั้นเขาจะถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกแค่นัดเปิด และนัดปิดใช่ไหม แต่ว่าในครั้งนั้นปี 1986 เขาอนุมัติให้ถ่ายทอดสดตั้งแต่รอบ 8 ทีม ตอนนั้นเราเป็นนักเรียนก็ต้องนอนหัวค่ำแล้วตื่นมาดู เตะที่เม็กซิโกบ้านเราก็ประมาณตี 1 ตี 2 ก็ตื่นมาดู เช้าก็ไปโรงเรียนเลย

รู้สึกว่ามันเป็นฟุตบอลโลกที่เราได้ใกล้ชิดที่สุด เราก็เลยชอบ แมตช์นี้เป็นฟุตบอลที่คลาสสิก บราซิลก็เป็นเต็งแชมป์ มี โซคราเตส “เปเล่ขาว” ซิโก้ ซึ่งสภาพไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไร มี ฟัลเกา กาเรก้า ถือว่าเป็นชุดที่พร้อมจะเป็นแชมป์

ส่วนฝรั่งเศสมี มิเชล พลาตินี่ นำทีม แล้วก็กองกลาง 4 ทหารเสือในยุคนั้นของฝรั่งเศสคือสุดยอดของมิดฟิลด์เลย มี พลาตินี่ ฌอง ติกาน่า อแลง จิแรส หลุยส์ เฟอร์นานเดซ โห! 4 คนนี้ เราจำได้ตั้งแต่ ม.5

เพราะตอนนั้นฝรั่งเศสเพิ่งเป็นแชมป์ยูโร ปี 1984 และพลาตินี่ก็ถือว่าเป็นสุดยอดนักเตะ ฝรั่งเศสเป็นทีมที่ถูกมองว่าเล่นฟุตบอลสไตล์บราซิลในยุโรป เล่นบอล passing พอเราติดตามข้อมูล อ่านหนังสือ เราก็อยากเห็นว่าเมื่อบอลคลาสสิกมาเจอกัน บราซิลต้นตำรับ เจอกับฝรั่งเศสที่เล่นคล้ายๆ บราซิล ซึ่งเป็นทีมจากยุโรปที่เล่นบอลทรงนั้น มาเจอกันแล้วจะเป็นยังไง

ซึ่งผลก็คือใช่ มันคลาสสิกทั้งคู่ มันสนุกทั้งคู่ บางทีเล่นกันอยู่ฝั่งหนึ่ง กำลังบุกอยู่ อีกแป๊บหนึ่ง อีกทีมหนึ่งบุก กลับมาบุก ดูแล้วตื่นเต้น คือขนาดตี 2 มันไม่มีคำว่าง่วงนอน ดูแล้วตาตื่นตลอดเวลาเลย ตอนนั้นก็เอาใจช่วยฝรั่งเศส เพราะยุคนั้นชอบ พลาตินี่ ก็เลยเอาใจช่วยฝรั่งเศสนิดๆ

สุดท้ายไปยิงจุดโทษตัดสิน มันก็อาจจะเจ็บปวดนะ สำหรับบราซิล หรือฝรั่งเศสเองที่ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศก็ไปแบบสะบักสะบอม ไปตายเยอรมันตะวันตก (แพ้ 0-2) คือดูมาถึงทุกยุคทุกสมัยตอนนี้ก็ยังอยู่ในความทรงจำ บราซิลแพ้จุดโทษฝรั่งเศส 3-4 รอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก ปี 1986 ถ้าให้เลือกก็จะเป็นอันดับ 1 สำหรับตัวเอง คิดว่าเป็นแมตช์นี้

อดิสรณ์ พึ่งยา เล่าความประทับใจฟุตบอลโลก ปี 1986

หัตถ์พระเจ้า “มาราโดน่า” อีกหนึ่งความทรงจำฟุตบอลโลก ปี 1986

อดิสรณ์ พึ่งยา : เหตุการณ์อื้อฉาวในฟุตบอลโลก จริงๆ มันก็อยู่ในปี 1986 ทั้งอื้อฉาว ทั้งสนุก และตื่นเต้น มันอยู่ในทัวร์นาเมนต์นั้นเลยนะ เอาง่ายๆ อย่าง ดิเอโก้ มาราโดน่า ของอาร์เจนตินา อันนั้นอื้อฉาวแน่นอน เอามือปัดบอลเข้า ผู้ตัดสินไม่เห็นได้ไง!? ผู้ตัดสินเขาบอกไม่เห็น ไลน์แมนควรจะเห็น เพราะเขาอยู่ในมุมอับ ซึ่งปัจจุบันถ้ามี VAR ก็คงไม่ได้นะ แต่ว่า VAR เกิดช้ากว่ามาราโดน่าไป 30 ปี

มาราโดน่าเล่นนอกกติกา แล้วทำให้ทีมได้ประตู แต่ในแมตช์เดียวกันเขาก็เลี้ยงหลบผู้เล่นอังกฤษอีก 5 คนเข้าไปยิง มันทำได้ไง!? มันอัจฉริยะนะ ไม่น่าเชื่อว่านักเตะอังกฤษแต่ละคนก็บิ๊กเนมทั้งนั้น ปีเตอร์ รีด ที่เคยเป็นโค้ชทีมชาติไทย ก็อยู่ในแมตช์นั้น หลายต่อหลายคน รวมทั้งประตูอย่าง ปีเตอร์ ชิลตัน ซึ่งมาราโดน่าเลี้ยงหลบ 5 คนจากครึ่งสนาม แล้วหลอกประตูยิงเข้าไปอีก

คนจะพูดถึงหัตถ์แห่งพระเจ้าใช่ไหม ที่มาราโดน่าเขาบอก กับลูกที่เลี้ยงเดี่ยวเข้าไปยิง ซึ่งมันหายากนะในฟุตบอลโลกและระดับทีมชาติด้วย ที่จะเลี้ยงหลบไป 5-6 คนแล้วเข้าไปยิง เกมนั้นน่าจะเป็นแมตช์ที่อื้อฉาวที่สุด และดูแล้วสนุกที่สุดในแมตช์เดียวกัน

อดิสรณ์ พึ่งยา เผยถึงเหตุการณ์อื้อฉาวในฟุตบอลโลก ปี 1986