หากใครที่มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวหรือไหว้พระตามวัดชื่อดังทั้งในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด สิ่งหนึ่งที่พบเห็นได้สะดุดตาก็คือ “กางเกงช้าง” แฟชั่นยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ด้วยลวดลายสวยงามและสวมใส่สบายเหมาะกับสภาพอากาศร้อนในบ้านเรา จึงไม่แปลกที่กางเกงช้างกลายเป็นเอกลักษณ์และภาพจำของประเทศไทย

ด้วยความนิยมติดตลาด รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยซึ่งมีนโยบายยกระดับซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ของไทยเข้าไปสู่เวทีโลก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงเปิดตัวโครงการ “Thailand SOFT POWER x GUINESS WORLD RECORDS CHALLENGE” หนึ่งในนั้นคือกิจกรรมการแข่งขันใส่กางเกงช้างเยอะที่สุดใน 1 นาที เพื่อบันทึกเป็นสถิติโลก ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 21 – 27 กุมภาพันธ์นี้ ณ พาร์คพารากอน สยามพารากอน

ททท. เปิดตัวโครงการ "Thailand SOFT POWER x GUINESS WORLD RECORDS CHALLENGE"
ททท. เปิดตัวโครงการ “Thailand SOFT POWER x GUINESS WORLD RECORDS CHALLENGE”

แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับกางเกงช้างเอกลักษณ์ความเป็นไทยนี้ จำนวนมากนั้นไม่ได้ผลิตโดยฝีมือชาวไทยแต่เป็นสินค้าที่นำเข้ามาจากประเทศจีนในราคาต่ำเพื่อมาขายให้กับคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกต่อหนึ่ง

นายณฐวัจน์ พุทธศิริวัฒน์ กรรมการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และเจ้าของร้านจำหน่ายเสื้อผ้าย่านประตูน้ำ ให้สัมภาษณ์กับ มติชน ว่าปกติเสื้อผ้าในทุกวันนี้เป็นการจ้างผลิตในประเทศจีนหรือประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากมีโรงงานจำนวนมาก สามารถผลิตได้ในเวลาสั้นๆ จำนวนมากพอ ค่าแรงต่ำกว่าไทย ทำให้ขายได้ในราคาถูกกว่า

ซึ่งไม่ใช่แค่กางเกงช้างเท่านั้น เพราะเมื่อใดที่มีกระแสความนิยมแฟชั่นบางอย่างในเวลาสั้นๆ เกิดขึ้นมา ก็มักจะเป็นการจ้างผลิตนอกประเทศ เช่น เทศกาลตรุษจีน เสื้อผ้าที่วางขายกันอยู่ทั่วไปส่วนใหญ่ผลิตในจีนและส่งผ่านทางประเทศเพื่อนบ้านเราอีกทอดหนึ่ง

เรื่องแบบนี้เป็นมานานแล้ว หลังจากกลุ่มผลิตในประเทศเจอปัญหาการปรับค่าแรงขั้นต่ำพรวดเป็น 300 บาท ส่งผลต่อต้นทุนและล้มหายไปของผู้ผลิตคนไทย บางส่วนต้องหันไปจ้างผลิตหรือนำเข้าแทน ทั้งจากจีน กัมพูชา เวียดนาม

นายณฐวัจน์ พุทธศิริวัฒน์ เล่าที่มาของสินค้าเครื่องแต่งกายในไทย

ส่วนกางเกงช้างที่ติดป้าย Made in Thailand นั้นก็พอมีให้เห็นอยู่บ้าง แต่เป็นสินค้าที่ผลิตจากโรงงานในต่างจังหวัด ในส่วนกลางหรือเมืองใหญ่ไม่ค่อยมีให้เห็นเพราะต้นทุนสูงสู้การนำเข้าไม่ได้ อีกทั้งเป็นสินค้าตามกระแสอาจเสี่ยงต่อการผลิตไม่ทันความต้องการ ตลาดเสื้อผ้าที่เราเห็นกันทุกวันนี้ไม่ว่าจะย่านโบ๊เบ๊ หรือประตูน้ำ ผลิตในเพียง 30% ที่เหลือ 70% เป็นการจ้างผลิตนอกประเทศหรือนำเข้า

กางเกงช้าง
กางเกงช้าง ภาพจาก Chinrada Garment Co.,Ltd. กางเกงช้างราคาปลีก-ส่ง

เมื่อถามว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร นายณฐวัจน์ระบุว่า การผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยจะกลับมาเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และทำเงินเข้าประเทศเหมือนในอดีตคงยากแล้ว ซึ่งรวมถึงการป้องกันการนำเข้าจากต่างประเทศเพราะต้องอาศัยการเอาจริงเอาจังของภาครัฐในการส่งเสริมอุตสาหกรรมและสกัดการนำเข้าสำหรับสินค้าที่ไทยเป็นผู้ปลุกกระแสความนิยม ตอนนี้ผู้ประกอบการรายย่อยก็ลำบากมากขึ้น จากการแข่งขันราคากับทุนนอกไม่ได้

“เห็นด้วยที่รัฐบาลไทยจะเร่งกระตุ้นและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาไทย แต่หากจะรักษาอุตสาหกรรมเสื้อผ้าหรือสินค้าไทยที่จะได้อานิสงส์จากนโยบายซอต์พาวเวอร์ของรัฐบาล อย่างสงกรานต์ ที่จะมีเสื้อผ้าและของที่เกี่ยวข้องออกมามากมาย ซึ่งเป็นดีไซน์ของไทย ก็ควรใช้โอกาสนี้ออกมาตรการเข้มงวด เพื่อการป้องกันการนำเข้าสินค้าทะลักจากชายแดน และรัฐควรเร่งจดลิขสิทธิ์สินค้าต่างๆ เพื่อปกป้องความคิดสร้างสรรค์ของไทย” นายณฐวัจน์กล่าว

แหล่งที่มาข้อมูล

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก