ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วมาจนถึงกลางสัปดาห์นี้ เรื่องราวข้อพิพาทระหว่าง “เอ้ ชุติมา นัยนา” และอดีตแฟนหนุ่ม “ฟร้อง ศุภกิจ ประสงค์” กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก หลังทางอดีตแฟนหนุ่มของเอ้ ชุติมา ออกมาร้องเรื่องผ่านเพจสายไหมต้องรอด ว่า เอ้ ชุติมา ไม่ผ่อนบ้านต่อ แถมซ่อนรถ จนเกือบจะถูกไฟแนนซ์จ่อฟ้องและติดแบล็กลิสต์ ก่อนทั้งคู่จะมาเคลียร์กันแบบประจัญหน้ากันในรายการ “โหนกระแส” ของ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมแม่ของฝ่ายชาย ที่เกิดมีปากเสียงกันในรายการ รวมถึงประเด็นใหม่อย่างการเล่นการพนันที่ถูกพูดขึ้นในรายการ จนคลิปรายการติดอันดับ 2 คลิปมาแรงของยูทูป และสังคมพูดถึงเรื่องนี้เป็นวงกว้าง

เอ้ ชุติมา และ ฟร้อง ศุภกิจ อดีตแฟน ในรายการโหนกระแส

ก่อนที่เอ้ ชุติมา จะออกมาเปิดใจอีกครั้งผ่านในรายการ “คุยแซ่บShow” เปิดหมดเปลือก โดยเฉพาะเรื่องเงินที่ทุ่มให้กับฝ่ายชายไม่อั้น ชนิดที่หลายคนฟังแล้วต้องยกมือทาบอกเลยทีเดียว

เป็นเจ้าของเงิน แต่เงินอยู่ในบัญชีของอดีตแฟน จะใช้เงิน ต้องกู้เท่านั้น

ประเด็นนี้ เอ้ ชุติมาเล่าว่า เงินอยู่ที่ฝ่ายชายหมดตั้งแต่คบกันมา แต่หลังเลิกก็เปลี่ยนแล้ว ที่แม่เขาพูดว่าต้องยืมทีละ 5 หมื่นเพราะเงินเราอยู่ที่ลูกชายเขา ถ้าคุณจะเอาเงิน ขาดเหลืออะไรก็ให้ลูกชายคุณโอนไปสิ แต่ลูกชายเขาไม่โอน แม่เขารู้สึกว่าเป็นเงินลูกชายเขาที่ทำงานไม่ใช่เงินเรา แต่ลูกชายเขาทำอาชีพอะไร เป็นดาราเล่นหนังเรื่องอะไร เล่นละครเรื่องอะไรก่อน เงินทุกบาทเป็นของเรา

“น้องเขาคบกับเราเหมือนอยากมีหน้ามีตาในสังคม เราก็อยากยกระดับน้องให้ภูมิใจในตัวเองว่ามีเงินเก็บ มีบ้าน มีรถทุกอย่าง เหมือนเดิมกับเราแล้วไม่มีใครดูถูกเขา แต่เป็นเงินเราที่สังคมไม่รู้ค่ะ แต่เรารู้กัน แล้วพี่มีสลิปทุกอย่างแม้แต่ค่าทางด่วน เขาก็เบิกที่เรา ค่าน้ำค่าไฟทุกอย่าง คุณแม่เขารู้แต่ไม่ฟัง”

“เวลาจะใช้เงินตัวเอง เขาไม่ให้ใช้ เราเป็นผู้หญิงบางทีต้องแต่งตัว มีค่าใช้จ่ายบ้าง บางทีเราก็ส่งที่บ้านเราด้วย ซึ่งบางทีส่งให้ที่บ้านเยอะกว่าส่งไปที่เขา เขาก็จะโกรธเรา สมมติเราส่งให้คุณแม่ พี่สาว สมมติเงินเข้ามา 2 แสนจะโอนให้ฝั่งคุณแม่ พี่สาว 1.5 แสน แล้วให้เขา 5 หมื่นก็จะโกรธ ไม่ได้ ก็เลยต้องให้ไปคนละครึ่ง”

เอ้ ชุติมา นัยนา
เอ้ ชุติมา นัยนา

รักจนยอมทุกอย่าง แม้กระทั่งยอมให้เก็บเงิน

เอ้ ชุติมากล่าวว่า ตนผิดหวังเรื่องความรักมาตลอด เด็กคนนี้มาเติมเต็มตอนที่เรารู้สึกแย่มากในชีวิต หลายคนที่ดูรายการอยู่ ถ้าช่วงนึงคุณผิดหวังความรักหรือโหยหา หรือมันเฟล ถ้ามีคนๆ นึงมาเติมเต็ม เราจะรู้สึกอบอุ่น เหมือนใจมันฟู มีคนๆ นึงมาเติมส่วนที่หายไปได้ ซึ่งช่วงแรกเขาเติมเต็มเราได้จริงๆ เขาเป็นเด็กน่ารักมาก เป็นเด็กดี แต่เขาหัวอ่อน และเป็นเด็กเกินไปที่จะใช้ชีวิตกับเรานาน

“คนนี้เป็นคนแรกที่เก็บเงินไว้ที่น้องเขา เพราะเขาค่อนข้างเป็นคนเก็บเงินอยู่ทุกเม็ด เงินทองไม่ค่อยกระเด็น เรารู้สึกว่าเขาเป็นผู้นำในชีวิต จะเก็บเงินให้เราได้ เขาเก็บเงินเก่งค่ะ เวลารับงาน เราก็โอนเข้าบัญชีน้องเพื่อทำสเตทเมนต์ให้น้องในการกู้บ้านกู้รถทุกอย่าง ทำทุกอย่างเพราะอยากอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ทำทุกอย่างถึงขนาดจะหมั้นกันเลย เราเชื่อมั่นคนนี้มากว่าเขาจะนำพาชีวิตเราไปรอดไม่เอาเปรียบเรา หลายคนก็จะพูดว่าทำไมให้ขนาดนั้น ทำไมโง่ขนาดนั้น”

“เราก็อยากใช้ชีวิตคู่กับเขา เรามีเป้าหมายจะแต่งงานอยู่ด้วยกัน เราอยากใช้ชีวิตคู่กับเขาตลอดชีวิต คนเราความรักเลือกไม่ได้ รักใครสักคนเราทุ่มเทมาก ไม่ได้เอาเงินซื้อนะคะ แต่เราคิดว่าเขาจะจัดการเก็บเงินให้เราได้ เราจะใช้ด้วยกันได้ ตอนแรกก็อึดอัด แต่ไม่อยากให้เขาดูไม่ดี มาเดินกับเราแล้วคนจะมองว่าเขาเกาะเรา เราไม่อยากให้น้องโดนคนประณามอยากให้เดินกับเราแล้วดูดี ดูว่าเขามีอะไร”

เอ้ ชุติมา และ ฟร้อง ศุภกิจ อดีตแฟน
เอ้ ชุติมา และ ฟร้อง ศุภกิจ อดีตแฟน

บ้านที่เป็นคนดาวน์คนผ่อน แต่กลับไม่มีสิทธิ์อยู่

เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่เอ้ ชุติมา เคลียร์ให้ฟังชัดๆ ว่าชื่อเจ้าของบ้านเป็นชื่อของอดีตแฟนหนุ่ม ตนเองเป็นคนดาวน์และผ่อนเอง แต่กลับไม่มีสิทธิ์อยู่ วันดีคืนดีอีกฝ่ายก็มาไล่ให้ออกจากบ้าน ให้คนมางัดบ้านบ้าง จนรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย

“เราต้องหาบ้านใหม่อยู่ ต้องมีที่พักใหม่ ต้องเตรียมเงินในการขนย้าย การหาบ้านพักใหม่ ไม่ใช่หาแค่ภายในเวลา 30 วันเราต่อรองคุณแม่เขาว่าขอ 60 วันได้มั้ยเพราะเราเสื้อผ้าเยอะมาก จะออกจากบ้านก็ต้องใช้เวลา แล้วช่วงนั้นเราไม่ว่างเลย เราไปเมืองนอก ทำงานบริษัท ถ่ายละคร มีการโชว์ตัว ทำให้เราไม่ว่างในการมาขนย้ายของภายใน 30 วัน เขาขู่เราตลอด ถ้าเราไม่ผ่อนหรือหมดเงินเราก็จะไม่มีค่าอะไรเลยสักนิดเดียว เขาบอกมีทนายจัดตั้งแล้ว เอาโซ่มาล็อกหน้าบ้านไม่ให้เราออก ถ้าจะออกต้องออกแค่ตัวกับเสื้อผ้าเท่านั้น ซึ่งเราซื้อของเยอะมากเลย เฟอร์นิเจอร์ทีวี ตู้เย็น ที่มากับบ้านตัวอย่างที่ซื้อ เราก็ไม่เข้าใจ ก็ปรึกษาตำรวจกับทนายว่าถ้าจะเอาเฟอร์นิเจอร์ ทีวี ตู้เย็น ไมโครเวฟออกได้มั้ย เขาบอกว่าเอาออกได้ ถ้าแบงก์จะยึดจะยึดแค่บ้านเท่านั้น แล้วอย่าทำบ้านสึกหรอ ซึ่งพี่เอ้ถ่ายให้ดูเลย เอ้ย้ายบ้านไม่เคยทำอะไรสึกหรอเลย เขาก็มางัดบ้านเรา”

เอ้ ชุติมา เปิดใจในรายการ คุยแซ่บ Show
เอ้ ชุติมา เปิดใจในรายการ คุยแซ่บ Show

“บ้านที่เราอยู่ไม่ปลอดภัยแล้ว ตอนที่เราอยู่บ้านหลังนั้น เขามางัดบ้าน วันดีคืนดีก็ได้ยินเสียงผู้ชายงัดบ้าน งัดประตูกระจก ทะลุเข้ามาหักหมดเลย งัดที่เปิด/ปิดเข้ามา เราก็ผวาว่าวันหนึ่งจะมีใครงัดเข้ามาแล้วทำร้ายเราหรือเปล่า เราอยู่แล้วไม่มีความสุข เขาก็ให้เราออกให้เร็วที่สุด บอกว่าเป็นบ้านลูกชายเขา ซึ่งถ้าเห็นเราเก็บของหมดแล้ว ทั้งที่ของเยอะมาก เราไม่ได้ทำให้ของในบ้านเสียหาย เราขอเวลา 60 วันเขาก็ไม่ให้ เรามีเวลาเก็บบ้านแค่ 3 วัน แล้วของในบ้านเยอะมาก”

“รู้สึกแย่ จุก บอกไม่ถูก ยิ่งเห็นคลิปความรู้สึกคืออยู่ในบ้านดีๆ แล้วโดนเขาไล่ออก วันนั้นเอ้พูดหยาบคายนิดหน่อยเอ้โดนกระทำมาตลอด โดนเขากด เขาตวาดแล้วด่าๆ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เอ้เถียงแม่เขา (ร้องไห้) พูดแล้วจุก”

“แต่เราก็โทษเขาฝ่ายเดียวไม่ได้ เราเป็นคนเลือกเอง เราก็ต้องยอมรับตรงนี้ แต่ตอนที่เราเลือกไม่นึกว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ไม่มีใครรู้อนาคตตัวเองว่าคนที่เราคบ เขาจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีหรือไม่ดี ถ้าเรารู้เราคงไม่คบเขาแล้วหรอกค่ะ แต่นี่ปล่อยเวลามา 6 ปี พี่เอ้ถือมาก เวลามีแฟนแล้ว อยู่กับแฟนแล้ว จะอยู่คนเดียวจริงๆ ต่อให้ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็คิดว่าความดีของเราจะชนะใจเขาได้ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ก็พยายามเอาความดีของเราสู้ตลอด”

“เราสองคนอยู่ด้วยกันมา 6 ปีกว่า 24 ชม. ไปมาอยู่ด้วยกันทุกที่ ความดีฟร้องก็มีนะ ไม่ใช่ไม่มี ฟร้องเป็นเด็กหัวอ่อน เป็นเด็กที่ดี แต่เขาอาจจะมีอะไรที่เป็นข้างหลังของเขาทำให้เขาเปลี่ยนไป แล้วที่ไม่ชอบคือเวลาออกรายการอยากให้ฟร้องเป็นคนตรงๆ อย่าโกหกประชาชน อย่างเรื่องเที่ยวกลางคืนของเขา เอาจริงๆ เพื่อนดาราก็เคยเที่ยวกับเขา มะตูมก็รู้เรื่อง เขาจะไม่กลับ อยู่ยันสว่างตลอด เราก็ต้องไปนั่งรอเขา บางทีเราเป็นดาราระดับนี้ ต้องเอาเก้าอี้ในร้านคาราโอเกะต่อกัน 4-5 ตัว นอนรอเขาร้องเพลง บางทีไปนอนรอในรถ ไปนอนรอในปั๊มน้ำมัน เธอ ชีวิตฉัน 9 โมงแดดส่องฟ้า ชุติมาเดินไปล้างหน้าในปั๊มน้ำมัน เพราะแฟนยังน็อกหลับ เนื่องจากเราขับรถไม่เป็น จนมีแฟนคลับทักว่าคุณชุติมา ทำไมตื่นเช้าเราก็พูดไม่ได้ว่าเรานอนที่ปั๊มน้ำมัน”

เอ้ ชุติมา บอกว่าเมื่อย้อนกลับไปดูจุดนั้น ก็รู้สึกสงสารตัวเอง แต่ก็ยอมรับว่าเราผิดด้วยที่เลือกเขา บางคนอาจสมน้ำหน้าเรา บางคนอาจเข้าใจเรา แต่ความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่ถ้าโดนหนักๆ แบบเรามันก็ต้องมูฟออนอยู่แล้ว ซึ่งไม่ได้โดนกดดันจากการจะถูกฟ้อง โดนกดดันจากครอบครัวฝ่ายชายด้วย

เอ้ ชุติมา และ ฟร้อง ศุภกิจ อดีตแฟน
เอ้ ชุติมา และ ฟร้อง ศุภกิจ อดีตแฟน

อดทนจนถึงที่สุด..ฟางเส้นสุดท้ายก่อนจะเลิกรา

เอ้ ชุติมา : 4 ปีแรกเขาเป็นเด็กน่ารักที่สุดค่ะ ตอนแรกเราคิดว่าความดีน่าจะชนะใจเขาได้ แต่กลับไม่ เขากลับหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เริ่มเจ้าชู้ เริ่มกินเหล้า เขาใช้ชีวิตโดยไม่แคร์เราเลยสักอย่าง เรารู้สึกแย่แล้วเลยขอไปดีกว่า เลิกกับเขา เราเป็นคนขอเลิกเองนะ ไม่ใช่เขาขอเลิกเรา พี่ออกจากบ้านกับลูกบุญธรรม หิ้วกระเป๋าไปหนึ่งใบลากออกไปบอกว่าไปแล้วนะ เขาก็ไม่เชื่อ เพราะที่ผ่านมาเราบอกว่าจะไป 10 รอบแต่ไปไม่ได้ เข้ามาขอโทษก็ให้อภัยเขาตลอด สิ่งเดียวที่ทำให้เลิกกับเขาได้คือออกจากบ้านหลังนี้ และไม่เจอเขาอีกเลยค่ะ ถึงเลิกได้ พี่จะเป็นคนแบบนี้

“มันสุดๆ แล้ว วันนั้นเขากลับบ้าน 9 โมงเช้า พี่นั่งรออยู่ตรงฟุตปาธหน้าบ้าน แดดส่องหน้าแล้วก็คิดว่าฉันทำอะไรอยู่วะ นั่งให้แดดเผาตัวให้สุดๆ แล้วถามตัวเองว่าทำอะไรอยู่วะชุติมา (ร้องไห้) มันไม่ไหวจริงๆ ก็คิดว่าควรไปได้แล้ว ควรที่จะเดินออกไปสักที (ร้องไห้)”

“ไม่ได้อยากร้องไห้นะคะ มันเห็นภาพวันสุดท้ายที่เราเลิก เราไม่ไหวจริงๆ เราสุดแล้วจริงๆ ถามว่าน้องดีมั้ย น้องดีมากในช่วงแรกๆ จากกันด้วยดีนะคะ ยังมีคำพูดๆ ให้กันเลย 3 เดือนแรกยังไลน์หากัน วิดีโอคอลหากัน ยังร้องไห้ เรายังรักกันอยู่ รักมากด้วยค่ะ รักจากใจ แต่พอเขาเริ่มไปทำงานกลางคืน เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป เริ่มมีคนสนับสนุน จากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย เขาบล็อกเอ้ทุกทาง”

เอ้ ชุติมา เปิดใจในรายการ คุยแซ่บ Show
เอ้ ชุติมา เปิดใจในรายการ คุยแซ่บ Show

แม้จะเลิกรากันแล้ว แต่เอ้ ก็ยังมีความปรารถนาดีต่ออดีตแฟน ด้วยการอวยพรว่าขอให้อีกฝ่ายได้เจอคนดีๆ ให้รักเขาเหมือนที่เรารัก ขอให้มีชีวิตดีๆ เรียนหนังสือให้จบ และเตือนเขาว่าคนเราถึงหน้าตาหล่อแต่การศึกษาน้อยจะใช้ชีวิตยาก ความหล่อไม่ได้อยู่กับเราตลอดชีวิตนะ จะมีช่วงเราแย่ โทรม แก่ แต่ความรู้จะอยู่กับเราตลอดชีวิต ที่เราส่งเขาเรียนตลอดเพราะเราอยากให้เขามีความรู้ ต้องหล่อและฉลาดด้วย จะทำให้เขาไปข้างหน้าได้เยอะ

แต่ทว่าฝ่ายชายกลับออกมาร้องเรียนผ่านเพจสายไหมต้องรอด จนทำให้เธอต้องลุกออกมาพูดความจริง เพื่อรักษาชื่อเสียงของเธอในครั้งนี้ ให้สังคมได้รับรู้ในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ย้อนเส้นทางความรัก คู่รักต่างวัย

สำหรับเส้นทางรักของและฟร้อง ศุภกิจ ทั้งคู่ประกาศตัวคบหาดูใจกันตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2560 ซึ่งทั้งคู่อายุห่างกันถึง 30 กว่าปี ก่อนจะประกาศหมั้นในปี พ.ศ. 2563 แต่ต้องเลื่อนออกไปเพราะสถานการณ์โควิด-19 กระทั่งมาถึงปลายปี พ.ศ. 2565 เอ้ ชุติมา ประกาศว่าได้เลิกแฟนหนุ่มรุ่นน้อง เพราะฝ่ายชายชอบเที่ยวและดื่มอย่างหนัก ก่อนจะมาเกิดประเด็นที่ฝ่ายชายไปร้องเพจสายไหม ว่าทางเอ้ ชุติมา ไม่ยอมผ่อนบ้านผ่อนรถต่อ ตามที่ปรากฏเป็นข่าว

โดยก่อนหน้านี้ เอ้ ชุติมา เคยคบหากับ “ต้น จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์” นานกว่า 10 ปี ก่อนจะเลิกรากัน และมีข่าวคบหากับสาวหล่ออีกหลายคน จนกระทั่งมาคบหากับ ฟร้อง ศุภกิจ แต่สุดท้ายก็จบความสัมพันธ์กันไป

เอ้ ชุติมา และ ฟร้อง ศุภกิจ อดีตแฟน
เอ้ ชุติมา และ ฟร้อง ศุภกิจ อดีตแฟน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก