เมื่อพูดถึงยุคสมัยของวงการแฟชั่นปี 2000s ทุกคนคงอาจจะเคยได้ยิน แฟชั่น Y2K กันมาบ้าง สำหรับคนรุ่นใหม่ที่เกิดในช่วงปี 2010 ขึ้นไปอาจจะไม่ได้รู้สึกอินหรืออาจจะไม่รู้ว่ามันคืออะไรเป็นแบบไหนกันแน่ ในวันสุดท้ายของปีวันนี้ FEED จะพาย้อนกลับไปดูที่มาของแฟชั่น Y2K และทำไมถึงกลายเป็นปรากฏการณ์แฟชั่นที่กลับมานิยมอีกครั้ง
คำว่า “Y2K” (วาย-ทู-เค) มาจากคำว่า Year 2000 เป็นคำที่ใช้อธิบายเหตุการณ์ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีปัญหาหรือเรียกอีกอย่างว่าติดบั๊ก โดยตั้งแต่ช่วงปี 1960 การเขียนโปรแกรมในวงการคอมพิวเตอร์มีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น โปรแกรมเมอร์ในยุคนั้นมักเขียนโค้ดโดยกำหนดให้คอมพิวเตอร์อ่านตัวเลขปีด้วยเลข 2 หลักสุดท้าย เช่นปี 1998 คอมพิวเตอร์จะอ่านเลข 98 สาเหตุที่ต้องทำแบบนี้เพราะคอมพิวเตอร์ในยุคนั้นเก็บค่าข้อมูลได้เพียงนิดเดียว ซึ่งการเก็บข้อมูลตัวเลขของปีปฏิทินถึง 4 หลักกินพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเยอะ รวมไปถึงใช้เงินลงทุนมหาศาล
ในช่วงรอยต่อปี 1999 ถึงปี 2000 ระบบคอมพิวเตอร์ก็เกิดปัญหาขึ้นแทนที่จะอ่านโค้ด 00 ของปี 2000 แต่มันดันกลายเป็นปี 1900 แทน สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายอย่างมากโดยเฉพาะในวงการธนาคารที่คอมพิวเตอร์คำนวณอัตราดอกเบี้ยผิดโดยอิงอัตราดอกเบี้ยของปี 1900 แทนที่ปี 2000 ส่งผลให้ธนาคารไม่สามารถจ่ายเงินลูกค้าได้และไม่สามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยจากผู้กู้ยืมเงินได้เช่นกัน
แฟชั่น Y2K เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 90s จนถึงช่วงปี 2000s ได้รับอิทธิพลมาจาก Pop-culture ในตอนนั้นที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาพยนตร์-ซีรีส์ชื่อดังอย่าง Mean Girls และ Gossip Girl รวมไปถึงแฟชั่นของเหล่าศิลปินและนักแสดงยุโรปอย่าง Paris Hilton และ Britney Spears ล้วนมีอิทธิพลต่อแฟชั่น Y2K อย่างมาก แฟชั่นในยุคนั้นสาวๆ มักแต่งตัวด้วยเสื้อครอปสั้น กางเกงเอวต่ำ กระโปรงสั้นมินิสเกิร์ต กิ๊ปติดผม และแว่นตาสันสีฉูดฉาด
แฟชั่น Y2K กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งเมื่อบรรดาเซเลปชื่อดังทั้งไทยและต่างประเทศแต่งตัวแบบจัดเต็มย้อนยุค โพสต์ภาพลงในสื่อออนไลน์ เมื่อแฟนคลับเห็นจึงแต่งตัวตามทำให้แฟชั่นนี้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งนั่นเอง ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นแฟชั่นอื่นในอดีตกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งก็ได้
แหล่งที่มาและข้อมูล : Vogue , GamingDose
ติดตามข่าวสารวงการบันเทิงและแฟชั่นได้ที่นี่
