วันที่ 15 พฤศจิกายน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสมณศักดิ์ รายละเอียดสำคัญสุด คือ การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระราชาคณะใหม่สองรูป

หนึ่งในนั้น คือ สถาปนา พระพรหมจริยาจารย์ วัดกะพังสุรินทร์ พระอารามหลวง จ.ตรัง ขึ้นเป็นสมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ สุวิธานศาสนกิจโกศล วิมลสีลาจารนิวิฐ วิจิตรธรรมปสาทกร สุนทรทักษิณคณมหานายก ตรีปิฎกวราลงกรณ์ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี

สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ (สงัด ปญฺญาวุโธ) เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ.2471 ที่ อ.นาโยง จ.ตรัง ปัจจุบันมีอายุ 93 ปี (พรรษา 73) ในด้านการศึกษาเล่าเรียน ท่านได้ศึกษาแผนกบาลีจนถึงระดับเปรียญธรรม 7 ประโยค และเป็นนักธรรมชั้นเอก

สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ ภาพจากวิกิพีเดีย
ขอบคุณภาพประกอบจากวิกิพีเดีย

ด้านสมณศักดิ์ พ.ศ. 2514 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญที่ พระปิฎกคุณาภรณ์ พ.ศ. 2527 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปริยัตยาภรณ์ พ.ศ. 2536 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพวิมลเมธี พ.ศ. 2542 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมรัตนากร พ.ศ. 2550 เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏที่ พระพรหมจริยาจารย์

นับจาก พ.ศ.2550 เป็นต้นมา มหาเถรสมาคมยังได้แต่งตั้งให้สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ ตั้งแต่เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระพรหมจริยาจารย์ ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่หนใต้ ซึ่งนับเป็น “เจ้าคณะใหญ่” รูปแรกสุดที่พำนักอยู่ในต่างจังหวัด – ส่วนภูมิภาค เนื่องจากมหาเถรสมาคมเห็นว่าควรให้คณะสงฆ์พื้นที่ภาคใต้ได้บริหารจัดการและดูแลกันเอง


สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ เคยกล่าวภายหลังได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เจ้าคณะใหญ่หนใต้ว่า

“ไม่รู้สึกดีใจ แต่รู้สึกภาคภูมิใจ เพราะตลอดระยะเวลาที่อยู่ในเพศบรรพชิต ไม่เคยไขว่คว้ายศ ตำแหน่ง และสมณศักดิ์ ถึงแม้จะอยู่ระดับไหนก็ตาม ก็ตั้งใจทำงานเพื่อพระพุทธศาสนามาโดยตลอด โดยเฉพาะงานด้านการศึกษาและการเผยแผ่ ซึ่งถือเป็นเบื้องต้นของพระพุทธศาสนา เพราะการที่จะมีพระภิกษุ สามเณรที่ดี ก็ต้องอาศัยการศึกษาเป็นพื้นฐาน และที่สำคัญรู้สึกภาคภูมิใจแทนคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนในภาคใต้ ที่ได้รับความไว้วางใจจากพระผู้ใหญ่ที่ให้มารับหน้าที่สำคัญนี้”

สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ กล่าวภายหลังได้รับแต่งตั้ง
สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ วัดกะพังสุรินทร์ พระอารามหลวง
ขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ๊กวัดกะพังสุรินทร์ พระอารามหลวง

นอกจากนั้น ภายหลังได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2565 สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ยังถือเป็นสมเด็จพระราชาคณะรูปแรกสุดของคณะสงฆ์ไทย ที่สถิตอยู่ ณ ภาคใต้ และจังหวัดที่ห่างไกลจากกรุงเทพมหานคร

โดยก่อนหน้านี้ มีสมเด็จพระราชาคณะเพียงสองรูปเท่านั้นที่พำนักอยู่ในวัดนอกเขตกรุงเทพฯ คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) วัดศาลาปูนวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา (ครองสมณศักดิ์ดังกล่าวระหว่าง พ.ศ.2422-2427) และสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) วัดญาณเวศกวัน จ.นครปฐม (ครองสมณศักดิ์ดังกล่าวระหว่าง พ.ศ.2559-ปัจจุบัน)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก