เมื่อเวลา 09.20 วันที่ 21 มีนาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมร่วมกับเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ว่า เบื้องต้นจากการสอบทานและตรวจสอบ ดิน น้ำอากาศ ในบริเวณ 2 จุด คือ ที่ซีเซียมหาย และบริเวณที่พบซีเซียม ไม่มีค่ากัมมันตรังสีที่มากกว่าค่าปกติ ในระดับที่เป็นอันตราย ยังไม่มีอะไรที่น่าวิตกมากนัก แต่ยังต้องระวัง โดยมีการตั้งจุดตรวจทั่วประเทศ 18 จุด และตรวจในน้ำในทะเลอีก 5 จุด ทั้งหมดรายงานมาว่ายังไม่พบซีเซียม-137อยู่ในระดับที่เกินค่ามาตรฐานปกติ ในตอนนี้ให้เบาใจได้
อย่างไรก็ตาม จะให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มีคณะวิชาหรือสาขาที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปรมาณูและกัมมันตรังสี เข้ามาตรวจสอบด้วย ขณะเดียวกัน ขอเชิญสื่อมวลชนมาร่วมรับรู้ในการตรวจวัดปริมาณซีเซียม-137 ในระยะต่อไป เพื่อให้มีความมั่นใจว่าไม่มีปริมาณซีเซียม-137ในดิน น้ำ อากาศ ที่เป็นอันตราย ซึ่งต้องทำจริงจัง ไม่ใช่ให้ ปส.รายงานเท่านั้น
นอกจากนี้ จะประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพราะกัมมันตรังสีอาจจะแพร่กระจายไปได้ ก็ให้เพื่อนบ้านรายงานเข้ามา และรายงานต่อองค์การระดับโลกที่ควบคุมเกี่ยวกับกัมมันตรังสี ได้รับทราบด้วยว่าปริมาณซีเซียม-137 ที่มีอยู่ในดิน น้ำ อากาศ ประเทศรอบบ้านของไทย ไม่มีระดับที่ผิดปกติอะไร ถ้าเป็นแบบนี้ก็จะมั่นใจ
นายเอนก กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บหรือเสียหายทางสุขภาพจากกัมมันตรังสี จากทั้งโรงพยาบาลหรือมหาวิทยาลัยของกระทรวง อว. หรือโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข ก็ถือว่าเบาใจเพิ่มขึ้นได้อีก แต่ก็ขอย้ำไม่ได้ละเลยเพราะเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ซึ่งในช่วงเที่ยงวันนี้ (21 มีนาคม) กระทรวงจะเชิญคณบดีคณะแพทยศาสตร์ของโรงเรียนแพทย์ทั้งหมดกว่า 20 แห่ง มาร่วมประชุม เพื่อสั่งการให้เตรียมการ
นายเอนก ยังกล่าวถึงพื้นที่ที่มีการตรวจพบสารซีเซียม-137 ว่า ได้มีการควบคุมการเข้าออก โดยใช้ความรู้ทางเทคนิคระดับสูงซีลพื้นที่ไว้แล้ว ส่วนการกำจัดกากที่เหลือ จะมอบให้สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ดำเนินการต่อไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่
ส่วนระยะเวลาการเฝ้าระวังตรวจสอบพื้นที่นั้น ก็ให้ใช้เวลาเต็มที่เพื่อให้ประชาชนสบายใจ และจะสอบถามไปยัง International Atomic Energy Agency- IAEA ซึ่งมีหน้าที่ดูแลกัมมันตรังสีทั่วโลกว่า มีรายงานหรือไม่ว่าสารซีเซียม-13 ไปโผล่ที่ประเทศไหนอีก ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ประชาชนสบายใจ
ส่วนความกังวลใจของประชาชนในพื้นที่ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปทำความเข้าใจและให้ความรู้อย่างเต็มที่ โดยมีหลายหน่วยงานลงไปช่วยกัน ขณะที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ก็ไปตั้งกองบัญชาการส่วนหน้า ณ จุดเกิดเหตุแล้ว และมีนักนิวเคลียร์ฟิสิกส์ระดับนำไปอยู่ในพื้นที่เช่นกัน ซึ่งเท่าที่ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัว ก็ทราบว่าสารซีเซียมอยู่ในระดับที่ยังไม่น่าวิตก มีความปลอดภัย
