“ยอมรับว่าทุกครั้งที่ขึ้นไปพูดหน้าไมค์ กลัวมาก รู้สึกเหมือนแบบมันจะเกิดขึ้นอีกไหม มันจะมีเหตุการณ์ๆ หนึ่งที่สร้างความบอบช้ำทางจิตใจเราพอสมควร แต่ในวันไฟนอล เราก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเราก็ทำได้”

เรเน่-เรนิตา เวโรนิก้า ปากาโน

“เรเน่ – เรนิตา เวโรนิก้า ปากาโน” รองอันดับ 4 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 เผยความในใจถึงเหตุการณ์สำคัญที่สร้างความบอบช้ำในใจให้กับเธอ ในระหว่างการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ก่อนที่เจ้าตัวจะพิสูจน์ตัวเองใหม่ จนสามารถคว้ารองอันดับ 4 มาครองได้สำเร็จ

Top 5 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022
Top 5 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 และ แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส (ชุดเขียว) มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022

ย้อนกลับไปที่วันแรกๆ ของการประกาศตัวลงประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 เรเน่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนๆ นางงาม ด้วยความที่มาในนาม “ทีมภูเก็ต” ทีมนางงามที่มีผลงานการันตีชัดเจนมาแล้วหลายมงกุฎหลายเวที ทำให้ชื่อของเรเน่ถูกจัดเข้าลิสต์นางงามตัวเต็งที่มีสิทธิ์คว้ามงกุฎอย่างไม่เกินความคาดหมาย

แต่ทว่าในรอบออดิชั่น คีย์เวิร์ดที่แฟนๆ นางงามเฝ้าจับตาดูว่าสาวงามคนใดจะรอดหรือร่วง จากการตอบคำถามแสดงทัศนคติแบบฉับพลัน เรเน่ได้เผชิญกับดราม่าลูกใหญ่ รับน้องการลงประกวดนางงามครั้งแรกของชีวิตแบบจังๆ แต่ไม่ใช่จากการตอบคำถามจากคีย์เวิร์ดที่ได้รับอย่าง “ทัวร์อวกาศ” (Orbital vacation) แต่อย่างใด แต่มาจากประเด็นเรื่อง “Beauty Privilege” ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย

ในช่วงนั้น ตรงกับช่วงที่องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ประกาศแจ้งปรับเปลี่ยนกิจกรรมวันแรกพบนิสิตใหม่แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยประจำปี 2565 (CU First Date 2022) โดยจะไม่มีกิจกรรมใดๆ จากกลุ่มผู้นำเชียร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Cheerleader) จุฬาฯ คทากร (The Drum Major of Chulalongkorn University) และกลุ่มผู้อัญเชิญพระเกี้ยวแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Coronet) ซึ่งเป็นผลมาจากนิสิตจำนวนมากและสาธารณชนตั้งคำถามเกี่ยวกับปัญหาทางสังคมต่างๆ โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง Beauty Privilege (การให้สิทธิพิเศษกับคนหน้าตาดี เหนือกว่าผู้อื่น)

เรเน่ที่เคยเป็น “จุฬาฯ คทากร” มาก่อน ถูกคณะกรรมการตั้งคำถามเรื่องนี้ แต่เธอ ตอบคำถามเรื่องนี้ได้ไม่เคลียร์และไม่ครอบคลุมอย่างที่ควรจะเป็น (ตามคำที่เธออธิบายถึงเหตุการณ์) จึงทำให้เกิดทัวร์ลงอย่างหนักในวันนั้น

เรเน่ เรนิตา จุฬาฯ คทากร รุ่นที่ 11
เรเน่ เรนิตา อดีตจุฬาฯ คทากร รุ่นที่ 11 (ภาพจากอินสตาแกรม reneeveronicaa)

ตอนนั้นมันเป็นครั้งแรกเลยจริงๆ ที่เปิดประตูออกมาแล้วเจอกับกรรมการ เจอกล้องอยู่เยอะมาก เรารู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ใหม่มาก มันคือการก้าวข้ามผ่านความกลัวแหละ ณ ตอนนั้นก็ยอมรับว่าด้วยความที่มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เราก็สติหลุด แล้วก็อาจจะพูดสื่อสารไม่ได้เท่าที่เราอยากจะสื่อออกไป ก็เป็นดราม่าที่เป็นที่ถกเถียงพอสมควร

คำพูดของเรามันก็ไม่ได้ไปกระทบหรืออะไรใคร แต่เป็นคำพูดที่มันไม่เคลียร์ ไม่ได้สื่อสารออกมาครบเฉยๆ ก็เรียนรู้ไปตรงจุดนั้น แล้วก็หลังจากนั้นมาทุกอย่างที่เราพูด เราก็จะพยายามพูดให้ครอบคลุมแล้วก็เคลียร์มากขึ้น จริงๆ อยากให้ทุกคนเปิดใจ แล้วก็ฟังก่อนที่จะตัดสินคนๆ หนึ่ง ไม่มีใครอยากจะทำให้ใครรู้สึกไม่ดี ไม่มีใครอยากจะพูดอะไรที่ไปกระทบใครหรอกนะคะ

ตลอดระยะเวลาการประกวดนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ยอมรับว่าทุกครั้งที่ขึ้นไปพูดหน้าไมค์ กลัวมาก รู้สึกเหมือนแบบมันจะเกิดขึ้นอีกไหม มันก็จะมีเหตุการณ์ๆ หนึ่งที่สร้างความบอบช้ำทางจิตใจเราพอสมควร แต่ในวันไฟนอล เราก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสุดท้ายแล้วเราก็ทำได้ แล้วก็พูดออกไป โดยเสียงที่มั่นใจและด้วยทัศนคติของเราที่มีต่อคำถามและ คำตอบของเราที่ออกมาอย่างมั่นใจได้ในที่สุด ก็จะพัฒนาตรงนี้ต่อไปนะคะ

เรเน่ เรนิตา ระหว่างตอบคำถามในรอบวันไฟนอล
เรเน่ เรนิตา ระหว่างตอบคำถามในรอบวันไฟนอล

การก้าวผ่านความกลัวในแบบของ “เรเน่” และสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการประกวดนางงามในครั้งนี้

เรเน่ : “อย่างเดียวเลยก็คือ ถ้าเรากลัวอะไร เราต้องพุ่งเข้าหามัน เราต้องกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความกลัว ต้องกล้าที่จะล้มความกลัวนั้นด้วยการเผชิญหน้ากับความกลัว ถ้าเราเผชิญหน้ากับมันมากเท่าไร สุดท้ายแล้วความกลัวมันก็จะค่อยๆ เล็กลงๆ จนมันหายไป สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้เลยจริงๆ คือการอยู่กับปัจจุบันว่ามันสำคัญขนาดไหน การมีปัจจุบันอยู่ในโมเมนต์ของเรา เพราะเราจำรายละเอียด จำความรู้สึก จำทุกอย่างตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เราจำมันได้หมดเลย เพราะเราตั้งใจและมีสติอยู่กับตรงนั้นตลอดเวลา

นี่คือข้อหนึ่งที่ขอบคุณตัวเองมากๆ ที่สนุกกับทุกช่วงเวลา แล้วก็อยากจะฝากให้ทุกคนอย่าลืมสนุกกับทุกช่วงเวลาของชีวิต ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน อยู่ตรงนี้ อยู่ตรงปัจจุบัน ดึงสติตัวเองกลับมาตรงปัจจุบัน แล้วคุณจะรู้ว่าปัจจุบันของเรามันสามารถสอนอะไรเราได้มากขนาดไหน

แม้จะเกิดดราม่าจนพากำลังใจหล่นหายไปพักใหญ่ แต่เรเน่ก็พาตัวเองกลับมาโฟกัสกับการประกวดได้อีกครั้ง พร้อมกับการก้าวข้ามดราม่าและพัฒนาตัวเองใหม่ได้ใหม่ โดยเฉพาะในรอบพรีลิมมินารีและการเดินเปิดตัวรอบชุดราตรีในวันไฟนอล ที่ได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนๆ นางงาม ในฐานะ “คนที่เดินเปิดโชว์รอบชุดราตรีได้ดีที่สุด

ภูมิใจมากๆ ค่ะ (ยิ้ม) ภูมิใจทั้งในตัวเอง ที่สามารถก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ในชาเลนจ์ต่างๆ มาได้จนถึงตอนนี้ เรเน่รู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก รักตัวเองมากๆ แล้วก็ภูมิใจในตัวทีมมากๆ ที่สนับสนุนและให้กำลังใจเรา ให้คำแนะนำเรา เด็กที่ไม่รู้อะไรเลยตั้งแต่ เริ่มตั้งแต่ศูนย์จนมาถึงตอนนี้

รู้สึกภูมิใจมากๆ หลายอย่างไม่ใช่แค่เรื่องการพูดอย่างเดียว ทุกๆ อย่างก็เป็นเรื่องที่เราพัฒนามาโดยตลอด ด้วยเป้าหมายของเราที่เราอยากจะให้ทุกคนมีความสุข เวลาเห็นเราเดินออกมา เราก็พยายามใส่เต็มที่ ใส่สุดในคืนนั้น ผลออกมาก็คือดีเกินคาด รู้สึกดีที่ทำให้ทุกคนมีความสุขค่ะ มันแบบตื้นตันใจมากๆ คือตอนนั้นมันกำลังมีความสุขในทุกๆ สิ่ง แปลกมากไม่ตื่นเต้นเลยคืออินกับเพลงมากๆ I’ve always liked to play with fire จนมาถึงตอนวนกลับแล้วเราหันไปเห็นว่ามีคนยืนขึ้นแล้วก็ปรบมือให้เรา คือรู้สึกมันเติมเต็มแล้วเป้าหมายของเราที่เราอยากจะให้ทุกคนมีความสุข เวลาเห็นเราก็คือ เราทำสำเร็จแล้ว”

เรเน่ เรนิตา ในชุดราตรีจาก  OAT COUTURE  ในการประกวดวันไฟนอล
เรเน่ เรนิตา ในชุดราตรีจาก OAT COUTURE ในการประกวดวันไฟนอล

“ตอนเห็นชุดครั้งแรกคือแบบน้ำตาคลอ มันสวยมาก ชุดนี้จริงๆ ใช้เวลาทำ 800 ชั่วโมงเลยนะคะ พี่ๆ ทีมพี่โอ๊ต กูตูร์ตั้งใจทำมากๆ แล้วก็รู้สึกดีมากๆ ที่สามารถทำให้ชุดนั้นอยู่ในโชว์ที่เป็นไวรัลแล้วก็เป็นโชว์เปิดที่เรียกว่าเป็นตำนานเลย รู้สึกดีที่ทำให้ทั้งชุดและทั้งเราร่วมมือกันออกมาเป็นโชว์ที่ดีมากๆ”

เมื่อถามถึงความกดดันที่มาประกวดในฐานะ “ทีมภูเก็ต” ทีมที่แฟนๆ นางงามต่างพากันคาดหวัง มีความกดดันขนาดไหน เจ้าตัวรีบบอกเลยว่า ไม่ได้รู้สึกกดดัน และพยายามทำตัวเองให้เป็นน้ำครึ่งแก้วเข้าไว้ เพื่อที่จะเรียนรู้และตักตวงความรู้จากพี่ๆ ได้อยู่ตลอดเวลา เธอกล่าวคำขอบคุณทีมภูเก็ตที่เห็นความมุ่งมั่นของเธอ และพาเธอมาได้ไกลถึงวันนี้ได้สำเร็จ

“พี่กบก็คือเชียร์หนักมาก ลุกขึ้นมาเฮหนักมาก ดีใจที่พี่ๆ เห็นความมุ่งมั่นของเรา จริงๆ ไม่รู้สึกกดดันค่ะ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นน้ำครึ่งแก้วมากกว่า คือเราอยากจะเรียนรู้อยากจะตักตวงความรู้ทั้งหมดจากพี่ๆ เพราะเรารู้สึกว่าเหมือนเรากำลังเรียนจากสิ่งที่ดีที่สุด รู้สึกภูมิใจแล้วก็รู้สึกว่ามันคุ้มมากๆ ทุกโมเมนต์ ทุกๆ วินาทีที่ระหว่างการประกวด ทุกอย่างคือเราอยู่ในโมเมนต์ตลอด ย้อนไปสมัยที่ซ้อมเดิน เรเน่เป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยเดินแบบมาก่อนในชีวิต เพิ่งมาเริ่มครั้งแรกไปกับ MUT เลย สมัยนั้นจองห้องซ้อม 4 ทุ่มถึงเที่ยงคืนทุกวันเลย เพื่อให้ตัวเองเดินได้ เหมือนคนที่เขาเดินมาหลายๆ ปี มันก็เลยเป็นความพยายามหลายๆ อย่าง”

ทีมก็คงจะเห็นถึงความมุ่งมั่น ความพยายามของเราที่ทำให้วันนึงเรามาถึงจุดนี้ได้ ก้าวเข้าใกล้ความฝันของเราได้อีกก้าวหนึ่งก็ภูมิใจมากค่ะ

สำหรับใครที่อยากจะเห็นเรเน่กลับมาสร้างตำนานบนเวทีนางงามอีกครั้ง ก็เตรียมตัวไว้เลย เพราะเรเน่ยืนยันว่าอนาคตจะได้เห็นเธอกลับมาทวงมงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์อย่างแน่นอน

เรเน่ เรนิตา กับท่าผีเสื้อ ท่าโพสต์ซิกเนเจอร์ของเจ้าตัว
เรเน่ กับท่าผีเสื้อ ท่าโพสต์ซิกเนเจอร์ของเจ้าตัว

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก