เทศน์ เฮนรี ไมรอน หรือที่รู้จักกันในนาม ร้อยตำรวจเอก หม่อมหลวง รณจักร จุฑาเทพ จากละครเรื่อง “ใจพิสุทธิ์” หนึ่งในละครชุดฟอร์มยักษ์ “ดวงใจเทวพรหม” ที่ดังทั่วบ้านทั่วเมืองอยู่ใน ณ ขณะนี้

FEED มีโอกาสได้คุยกับ ‘เทศน์’ ถึงเส้นทางการทำงานในวงการบันเทิง รวมถึงการเติบโตที่ผ่านการใช้ชีวิตมาถึง 3 ประเทศ ของเด็กหนุ่มในวัย 20 ปี

แนะนำตัวหน่อยค่ะ

เทศน์: สวัสดีครับผม เทศน์ ไมรอน ครับ

รีวิวชีวิต “เทศน์ ไมรอน” ในวัย 20 ปีหน่อยเป็นไงบ้าง

เทศน์: ก็ค่อนข้างยุ่งครับ ค่อนข้างทำงานหนักอยู่ ออกอีเวนต์ค่อนข้างบ่อย ดีครับ ดีใจ แล้วผมก็ไปฝึกงานด้วยครับ เพราะช่วงนี้เป็นซัมเมอร์ด้วย ซัมเมอร์ของปี 3 เขาอยากให้นักเรียนทุกคนไปฝึกงานที่มหาลัยผม ผมไปฝึกงานด้วยวันจันทร์ถึงพุธ แล้วพฤหัสถึงอาทิตย์ผมก็ทำงาน ก็ดีครับมันเป็นคือยุ่งดีครับไม่ค่อยมีเวลาว่าง แต่ผมส่วนตัวที่ไม่ชอบอยู่บ้าน ไม่ชอบนั่งอยู่นิ่งๆ ผมก็มีความสุขกับมัน แล้วก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดครับ จริงๆ ตอนที่ผมเริ่มฝึกงาน ละครเพิ่งออนคือยังไม่มีใครรู้จัก แล้วพอไปเรื่อยๆ ทุกอาทิตย์มันก็มีคนรู้จักมากขึ้นๆ ตอนนี้ก็มีคนมาขอถ่ายคลิป ขอถ่ายอะไรในที่ทำงาน ซึ่งผมก็ยินดีแหละแต่แบบว่าบางทีผมใส่หูฟังทำงานอยู่ แล้วมีคนมาน้องๆ ถ่ายคลิป ผมได้ครับๆ มันก็เป็นอะไรใหม่แหละ แล้วโดยเฉพาะแบบว่าคือเราทำเอเจนซี่เราก็จะทำพวกพรีเซนต์ของแต่ละแบรนด์เราก็จะดูว่าเขาเลือกใครๆ แต่วันนี้มันมีมุขมาแล้วครับว่าอีเทศน์ไปดิๆ ว่างป่าว เหมือนเราอยู่สองสเปคทีฟ ก็ดีครับผมได้เห็นแบบว่าวงการของเราในหลายๆ มุม มันจะได้เข้าใจว่าแต่ละคนมันทำงานยังไง แล้วพอที่เราจะมาถึงจุดที่ถ้าเราเป็นนักแสดง เรามาถึงจุดที่เป็นถ่ายทำมันต้องผ่านอะไรมาเยอะมาก ก่อนที่เราจะถึงจุดนั้น ซึ่งถ้าผมไม่ได้มาฝึกงานในด้านนั้น ผมก็คงไม่คิดหรอกครับ ว่ามันหลายขั้นตอนมากพี่

การจัดการเวลาชีวิตยากไหม

เทศน์: ก็ไม่ได้ยากมากนะครับ ผมว่าเราแค่นอนให้พอแล้วก็บางเวลา คือถ้าเรานัดเวลาที่มันเรารู้ว่าเราทำได้ มันก็โอเคแล้ว แต่ถ้าเรานัดหลายๆ อย่างภายในวันเดียวกัน มันเริ่มผสมๆ กันมันก็จะไม่ไหว แต่ตอนนี้ก็ได้อยู่ครับ แล้วผมมีป้ากบที่คอยช่วยในด้านดูแลเวลา ดูแลอะไรให้ผมก็โชคดีมากๆ ครับ

เทศน์ ไมรอน
เทศน์ ไมรอน

ไม่มีใครรู้จักตัวเราเท่ากับตัวเองอันนี้จริงไหม

เทศน์: ผมยังไม่รู้เลยครับว่าตัวตนผมเองเป็นยังไง ถ้าใครรู้ฝากบอกผมด้วยนะครับ ผมรู้สึกว่าผมเองก็เป็นคนที่ปรับตัวง่ายครับ แบบว่าพร้อมที่จะฟัง คือกล้าที่จะถามพร้อมที่จะฟังคำตอบ คือเราจะไม่ค่อย เราไม่ค่อยกังวลความคิดเห็นของคนอื่น แต่ในเวลาเดียวกันเราใส่ใจกับงานที่เราทำ แล้วเราอยากให้คนอื่นชื่นชม และชอบในสิ่งที่เราทำแล้วผมรู้ว่ามันไม่มีใครที่เก่งได้คนเดียวมันต้องเป็นทีม มันก็เลยต้องถามคนอื่นว่าโอเคผมทำแบบนี้ได้ไหม ดีไหม คุณมีความรู้สึกยังไงบ้าง ผมว่ามันต้องเป็นทีมเวิร์คเอาทุกอย่างมาผสมกัน แล้วมันก็จะออกมาได้ดี คือเป็นคน open mind ครับ แล้วก็ปรับๆ ตัวง่าย

เรื่องบางอย่างทำให้สูญเสียความเป็นตัวตนของเราไหม

เทศน์: ผมไม่เคยมีความรู้สึกว่าไม่อยากทำ มันก็มีบางอย่างแหละที่ไม่ทำโอเค ถ้าคือไม่ทำก็คือไม่ทำเลย แต่มันก็จะมีเหตุผลของมัน แล้วส่วนใหญ่มันก็เป็นอะไรที่คนเขาไม่ควรทำกัน แต่พอมันเป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ อะไรใหม่ๆ ผมก็กล้าที่จะทำ กล้าที่จะลองดู ถ้าชอบก็ชอบ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ชอบ แล้วก็ไม่ได้ดูถูกคนที่ชอบสิ่งที่เราไม่ชอบอะไรแบบนี้ 

ไลฟ์สไตล์ของ ‘เทศน์’ เป็นยังไง

เทศน์: ผมเป็นคนไม่ค่อยอยู่นิ่งๆ ไม่ชอบอยู่ในบ้าน จะชอบอยู่กับคน อยู่กับเพื่อนๆ อยู่กับครอบครัว ชอบทำกิจกรรมหลายๆ อย่าง ชอบเล่นกีฬา ชอบไปเที่ยวอะไรแบบนี้ โควิดสำหรับผมคือเป็นช่วงเวลาที่ยากมาก ผมแบบโห คือไม่รู้ทำอะไรไม่ได้พี่ แล้วผมไม่ชอบเรียนออนไลน์ด้วย ผมชอบแบบไปอยู่ในห้องเรียนแล้วเจอคน แล้วพอมันต้องตื่นขึ้นมาเปิดคอมจ้องหน้าตัวเอง แล้วปิดคอมมันรู้สึกเศร้ามากพี่ ตอนโควิดผมเริ่มเล่นเปียโน เพราะว่าบ้านผมมีเปียโนอยู่แล้ว แล้วผมก็มีมานานอยู่ แล้วผมก็ไม่ได้เล่นมาประมาณ 3 ปี มีวันนึงผมก็นั่งจ้องเปียโนอยู่ จ้องมาเป็นปีแล้วลองเปิดดู ลองเล่นดูไหมก็ลองเล่นดู แล้วก็เราก็มีเวลาเป็นปี เพราะโควิดก็ค่อนข้างนานอยู่ เราก็มีเวลาเป็นปีได้ฝึกทุกวัน ได้เป็นกิจกรรมใหม่ๆ สำหรับผม ที่ทำให้ผมไม่เบื่อ

เทศน์ ไมรอน
เทศน์ ไมรอน

ย้อนกลับไปชีวิตวัยเด็กเป็นไงบ้าง

เทศน์: ผมซนมากครับ ตอนเด็กๆ ผมซนมากๆ โดนแม่ดุบ่อยมาก โดนพ่อดุเหมือนกัน โดนน้องสาวดุเหมือนกัน ผมว่าจริงๆ คุณแม่ผมเขาเป็นคน ดุครับ คุณแม่ผมเขาเป็นคนดุ คุณแม่ผมเป็นคนจีนไทย เขาเป็นคนกรุงเทพแต่คือครอบครัวเขามาจากเมืองจีน เขาก็เป็นคนเข้มงวดอยู่ครับ เขาก็ผมจำได้เลยว่าตอนผม 16 ผมยังต้องนอน 2 ทุ่มทุกคืน 2 ทุ่มครึ่ง แล้วแม่ก็ห้ามให้ผมเอาโทรศัพท์เข้าไปในห้องนอนแต่ผมก็หาวิธีนะครับ แต่เขาก็ห้าม ผมว่าการที่เขาเข้มงวดมาก มันก็ทำให้ผมเป็นคนสร้างสรรค์ดีครับ คิดวิธีอ้อมที่ๆ เขาตั้งไว้ขึ้นมา ผมว่าถ้าฟรีไปมันก็จะง่ายไปเนอะ มันก็ไม่ต้องใช้ความคิดอะไร แต่การที่มีกรอบทำให้ผมแบบกล้าทำ กล้าคิดขึ้นมา มีวิธีของตัวเองอะไรแบบนี้ครับ แต่ก็ดีถ้าผมไม่ได้นอนเร็วผมก็คงไม่สูงแบบนี้หรอกครับ

เติบโตมาถึง 3 ประเทศด้วยกัน การใช้ชีวิตยากไหม

เทศน์: ก็หลายวัฒนธรรม หลายภาษา หลายชาติ หลายอาหาร หลายฤดู มันเยอะครับ แต่ก็มันทำให้ผมเป็นคนที่ปรับตัวง่าย แล้วก็มันก็ทำให้ผมเข้าใจคนได้หลายคนมากครับ เพราะว่ามันอยู่ในวัฒนธรรมหลายแบบ มันก็เลยเข้าใจว่าโอเคคนนี้เขาชอบแบบนี้นะ แล้วทำไมเขาถึงชอบ คนนี้เขาไม่ชอบแบบนี้ ทำไมเขาถึงชอบมันเป็นวัฒนธรรมของเขา มันก็ไม่ใช่ว่าง่ายนะ แต่มันก็ไม่ได้ยากมากๆ คือจริงๆ ผมก็โชคดีเหมือนกัน เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่ผมเขาก็เห็นใจผมนิดนึง เขาก็ส่งผมไปเรียนอินเตอร์ซึ่งผมโตที่อังกฤษมันก็จะเป็นแบบพูดภาษาอังกฤษ แล้วพอไปฮ่องกงก็เรียนอินเตอร์ ก็พูดภาษาอังกฤษเหมือนกัน แล้วไทยก็เรียนอินเตอร์ภาษาอังกฤษเหมือนกัน ก็คือมันก็จะมีตรงนี้ที่มันยังไม่ต้องปรับอะไรมากขนาดนั้น ผมว่าถ้าปรับตัวหนักที่สุดก็คือพอมา พอออกจากโรงเรียนอินเตอร์พอมาเริ่มทำงาน เจอวัฒนธรรมไทยจริงๆ เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ มันก็เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับผมด้วย แต่ผมได้มีโอกาสมาทำงานตรงนี้ผมก็อยากจะทำมันให้ดี แล้วก็การที่แบบคนไทยจะยอมรับเรา เราก็ต้องยอมรับวัฒนธรรมของคนไทยด้วย ซึ่งก็เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ครับผม ผมว่าหลักๆ ก็คือภาษา ภาษาเป็นปัญหาหลักเลย จริงๆ คุณแม่ผมเขาพูดกับผมเป็นภาษาไทยตั้งแต่เกิดนะครับ แต่ผมไม่เคยตอบเป็นภาษาไทย เพราะว่าผมไม่เห็นว่าทำไมผมต้องพูดภาษาไทย ผมก็แค่เห็นภาษาไทยเป็นภาษาที่แม่ชอบพูดให้ผมฟัง เพราะว่ามันก็ไม่ได้เจอคนไทย มันไม่ได้มีใครเลยที่จะพูดกับเรา แล้วพ่อผมก็พูดไทยไม่ได้ ก็ไม่ต้องพูด แล้วตอนนี้โอโหถ้าผมกลับไปได้ ผมจะบอกตัวเองว่าพูดเถอะ พูดเถอะมันต้องใช้เว้ย แล้วพอมาเล่นละครก็เจอภาษาไทยเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมก็ช็อกอยู่ครับ แล้วไปเจอเป็นละครพีเรียดด้วย เจอเป็นหม่อมหลวงด้วย เจอแบบว่าเจอมุขไทยด้วย เปิดทวิตมาก็เจอภาษาไทยอีกแบบนึงที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ก็ฝึกเยอะอยู่ครับทำการบ้านเยอะอยู่

ความยากของภาษาไทย กับภาษาอังกฤษ ต่างกันเยอะไหม

เทศน์: จริงๆ นะ ภาษาอังกฤษง่ายมากทุกคนครับ ผมบอกเลยภาอังกฤษง่ายจริงๆ ถ้าเทียบกับภาษาไทย ภาษาไทยนี่มีแบบเสียงสูง เสียงต่ำ เสียงกลาง มีห.หีบ มีไม้เอก ไม้โท ไม้ตรี มีอะไรเยอะมาก แล้วก็มีแบบเหมือนภาษาไทยเขาแกล้งเราเขาใช้คำว่าไกล กับใกล้ ทำไมเสียงมันต้องใกล้เคียงกัน แล้วความหมายคือคนละอย่างเลย คือถ้าเราพูดผิดมันก็คือคนละอย่างเลยนะ แล้วก็มีม้า กับหมา ซึ่งผมงงอยู่ ยากครับ ยากจริง แล้วภาษาไทยก็จะมีแบบว่าวิธีเรียกคนอื่นหลายๆ แบบ เราจะมีวิธีพูดถึงตัวเองหลายๆ แบบ ซึ่งภาษาอังกฤษไม่ค่อยมี He She Me I แต่ภาษาไทยมีแบบคุณ เธอ ฉัน พวกเรา พวกเธอ พวกแก พี่ น้อง ยาย อะไรแบบนี้มันเยอะมาก

เทศน์ ไมรอน
เทศน์ ไมรอน

ก่อนมาประเทศไทยได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับประเทศไทยไหม

เทศน์: ก็ได้เรียนรู้ครับ จริงๆ คุณแม่ก็จะพาผมมาเมืองไทยทุกซัมเมอร์เจอครอบครัว แล้วผมจำได้ว่าตอนเด็กๆ แม่ผมก็เคยส่งผมไปเรียน Summer School โรงเรียนไทยเลยแบบนั่งสมาธิทุกเช้า แล้วก็ดื่มแบบนม ซอยมิลค์ นมอะไรอ่ะ (นมถั่วเหลือง) ผมไม่ชอบเลย นมถั่วเหลืองนี่ แล้วก็ต้องเคารพธงชาติอะไรแบบนี้ครับ ผมก็ได้เรียนรู้บ้างแต่คือซัมเมอร์มันแค่เดือนกว่าเอง ก็ไม่ใช้ภาษาไทย แล้วก็ไม่ได้ฝึกกินอาการเผ็ดเท่าไหร่ แต่รู้เลยว่าเมืองไทยมีสงกรานต์ แล้วก็รู้ว่าคุณแม่เป็นคนไทย แล้วก็การที่มอไซค์เยอะมาก ที่อังกฤษไม่มีแบบนี้ แล้วก็ตุ๊กตุ๊กก็ไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วก็มีคนดื่มน้ำออกจากถุงพลาสติกที่มีน้ำแข็งอยู่ในนั้น ไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วก็มีคนขี่มอไซค์แล้วก็ขายโรตีบนมอไซค์ไม่เคยเห็นนะ มันช็อกทุกอย่างอ่ะพี่ แล้วก็สายไฟที่มันอยู่ข้างบนถนนผมก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ทุกอย่างพี่จริงๆ มันไม่เหมือนที่นู่นเลยครับ แต่ดีครับ ผมชอบกรุงเทพ ชอบเมืองไทยมากๆ แล้วก็คนไทยนิสัยดีมากๆ

การทำความเข้าใจยากไหม

เทศน์: ตอนแรกก็รู้สึกนะครับ ตอนที่เราเด็กๆ เราอาจจะต้องการอะไรที่สม่ำเสมอ จะต้องการอะไรที่แบบว่าที่ชัดเจนว่าโอเคเราเป็นคนจากประเทศนี้ แต่พอเราโตขึ้นมาแล้วเราเห็นโอเคจริงๆ เราเป็นลูกครึ่งเราก็ควรจะทำความเข้าใจกับสองครึ่งของผมให้มันเท่ากัน อันนั้นก็คือจุดเป้าหมายของผมในชีวิตอย่างนึงก็คืออยากจะเป็นลูกครึ่งที่สมบูรณ์แบบ เข้าใจทั้งสองฝ่ายร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วก็ให้คุณค่ากับทั้งสองฝ่ายให้เท่าเทียมกัน เพราะว่าในสุดท้ายผมก็เป็นคนอังกฤษแล้วก็เป็นคนไทย

จุดเริ่มต้นของงานในวงการบันเทิง

เทศน์: จริงๆ คุณแม่ผมก่อนที่เขาย้ายไปหลงรักกับพ่อผม เขาทำงานที่ไทยทำงานที่เอเจนซี่แล้วเขาก็เป็นนางแบบ เขาเป็นนางเอกโฆษณามาก่อน คือเหมือนตอนแรกแม่ผม กับพ่อผม เจอกันที่นู่นใช่ป้ะ แล้วแม่ผมก็เลยหลงรักคุณพ่อผมมาก แล้วก็ตัดสินใจโอเคฉันจะอยู่กับคุณเขาก็เลยย้ายมา ย้ายไปอยู่ที่นู่นกับพ่ออยู่กันประมาณ ประมาณก็ครึ่งชีวิตของผม อยู่นอกเมืองไทย แล้วคุณแม่ผมพอมีลูกคนที่ 3 ก็บอกโอเค ฉันอยากจะกลับบ้าน เราแบ่งเวลากันหน่อยครึ่งๆ เราเหมือนแฟร์ๆ กันระหว่างเขากับคุณพ่อผม คุณพ่อโอเคบอกว่าได้ๆ แล้วเขาก็ย้ายกลับไปอยู่ไทย แล้วคุณพ่อผมก็หางานที่นี่ทำได้ แล้วพอมาที่ไทยก็โตพอที่จะเริ่มทำงานก็เริ่มถ่ายโฆษณา ตอนผม 14 ผมก็ถ่ายโฆษณาน้ำอัดลม แล้วก็ได้ทำโฆษณาหลายๆ เรื่อง แล้วก็ได้เดินแบบ จริงๆ ไม่ได้ย้ายมาเพื่อเข้าวงการ แต่พอย้ายมามันก็ได้มีโอกาสเข้าวงการ ถ้าเราเดินแบบเราเป็นแค่ไม้แขวนเสื้อ แต่พอเรามาเป็นนักแสดงเราก็ต้องเป็นคนที่ทุกคนเอ็นดู แล้วก็รักแล้วก็ชอบ แล้วก็ต้องเป็นคนที่สามารถสื่ออารมณ์ออกมาให้คนดูได้รู้สึก มันก็ชอบทั้งสองอย่างแหละ ผมพร้อมรับงานทุกงานนะครับทุกคนครับ แต่มันก็มีข้อดีข้อเสียของแต่ละอันครับต่างกัน ในมุมการแสดงชอบมากๆ เลยครับ ชอบมากๆ พอได้เป็นตัวละครอันนั้นแล้วพอมันได้มีสมาธิในฉาก แล้วพอมันได้เหมือนเราได้ลืมตัวเองอ่ะครับ มันเป็นอะไรที่งานอื่นมันคงไม่ให้เราทำ แล้วผมรู้ว่าเราโชคดีมากๆ ครับที่ได้มาทำงานนี้  ต้องเรียนรู้เยอะมากครับ ต้องทำการบ้านเยอะมาก แต่มันคุ้มครับพอมันออกมาแล้วมันเห็นว่าคนดูชอบ แล้วเราก็ได้เห็นหน้าตัวเองบน Netflix ครั้งแรก มันรู้สึกว้าวทำได้ เราทำได้ แต่ก็อยากจะพัฒนาไปเรื่อยๆ แล้วก็จะทำการบ้านให้มากขึ้นไปเรื่อยๆ ครับ มันจะได้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ

ก่อนหน้านี้มีความชอบเกี่ยวกับวงการบันเทิงไหม

เทศน์: มีนะครับ เพราะว่าที่โรงเรียนผมก็เล่นละครเวทีมาตลอด คือเป็นเด็กที่ชอบการแสดง เป็นเด็กที่ชอบพรีเซนต์ ในงานกลุ่มแต่ละอย่างผมก็จะชอบเป็นคนพรีเซนต์งาน ชอบเป็นคนแสดงอะไรแบบนี้ครับ แล้วก็ได้เล่นละครเวที ได้กำกับละครเวทีที่โรงเรียนด้วย แล้วพอได้มีโอกาสทำเป็นงานจริงๆ ผมก็พุ่งไปกับมันเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ คือมันเป็นสิ่งที่อยากจะทำอยู่แล้วครับ

เทศน์ ไมรอน
เทศน์ ไมรอน

งานวงการบันเทิงแลกมาด้วยอะไรหลายๆ อย่าง

เทศน์: ก็เสียความเป็นส่วนตัว แล้วก็ไม่ค่อยมีเวลาให้กับตัวเอง เพื่อนก็อาจจะไม่ค่อยเจอ เราทำงานเราก็มีเพื่อนที่ทำงานด้วยมันก็ไม่ได้แย่ครับ อย่างเดียวก็คืออาจจะนอนไม่ค่อยเยอะ ตื่นเช้า เลิกงานดึกอะไรแบบนี้ครับ แต่มันคุ้มครับ มันคุ้ม แล้วมันเป็นอะไรที่คนหลายๆ คน อยากจะมีโอกาสได้ทำ ผมก็เลยพยายามมองว่าเป็นสิ่งที่ดี แล้วมันเป็นโอกาสที่ดีมากๆ

กังวลไหมกับการใช้ชีวิตท่ามกลางแสงสปอร์ตไลท์

เทศน์: จริงๆ แล้วเราต้องมองว่ามันโชว์ให้เห็นว่าเรากำลังประสบความสำเร็จอยู่ เพราะว่าถ้าไม่มีใครมาถ่ายรูปกับผม แล้วผมมาทำงานแบบนี้มันก็จะมองไปอีกแบบนึง ผมก็เลยยิ้มไว้แล้วก็ยินดีที่จะถ่ายรูปกับทุกคน แต่ผมขำมากเลยบางทีเหมือนคนเห็นผมแล้วแบบว่าไม่แน่ใจว่าใช่ผมหรือเปล่า เขาก็จะจ้องผม แล้วผมก็จะจ้องเขากลับ เราก็ยืนจ้องกัน แล้วผมก็ครับ เขาก็รณจักร ครับผม อ้อถ่ายรูปด้วย ผมก็ได้ๆ มันก็น่ารักดีครับ แต่ถ้าคือใครเห็นผมที่ไหนก็เดินเข้ามาทักได้ครับ ถ้าผมคุยโทรศัพท์อยู่ก็ไม่ต้องทัก คือจริงๆ แล้ว ถ้ามีเวลาเราก็จะอยู่กับเขา แต่บางทีมันไม่มีจริงๆ บางที่มันสาย บางทีมันต้องไปทำงาน ก็หวังว่าทุกคนจะเข้าใจครับ

มีความระมัดระวังตัวขึ้นเยอะไหม

เทศน์: ตอนแรกผมก็จะ ผมอยู่คอนโดผมก็เดินลงมาใส่กางเกงขาสั้น ไม่ใส่ถุงเท้าผมไปซื้อข้าวกิน ตอนนี้ไม่ได้แล้วตอนนี้ต้องใส่ถุงเท้าแล้ว ก็จะมีแบบว่าไม่ใช่เป็นห่วงลุคตัวเอง แต่แค่แบบว่าใส่ใจกับมันอีกนิดนึง เพราะว่าเดี๋ยวคนดูเขาอาจจะรู้สึกผิดหวังครับ ถ้าเขาเห็นผมในจอแล้วพอเขาหันมาแล้วผมไม่ใส่ถุงเท้าแบบนี้ แล้วเห็นขี้เล็บของผมมันไม่ได้เนอะ มันก็จะไม่ดีสำหรับเขาผมก็ไม่อยากทำให้เขาผิดหวัง ผมก็พยายามอาบน้ำทุกวันอะไรแบบนึ้ครับ เพราะว่าคนเขาเห็นเราเป็นความสุขของเขา ผมก็อยากจะให้เขามีความสุข

เทศน์ ไมรอน
เทศน์ ไมรอน

มุมมองความคิดที่เปลี่ยนไปสำหรับวงการบันเทิง

เทศน์: จริงๆ ตอนมาไทยแรกๆ คือโฆษณาที่เมืองไทย กับโฆษณาที่โน่นมันคนละแบบ โฆษณาเมืองไทยคือยิ่งใหญ่มากพี่ โอโหยิ้มหวาน สุดยอด น้ำอะไรแบบนี้ แล้วผมก็จะเห็นแบบหน้าหล่อๆ สวยๆ ของดาราทุกคนบนบิวบอร์ดใหญ่ๆ ที่มันมีตามทางด่วนที่เมืองไทย ผมก็จะมองว่ามันดูเป็นวงการที่มีความสุขดี แล้วก็คนไทยหน้าตาดีเยอะ แต่พอมาเข้าวงการจริงๆ ก็ได้รู้ว่ามันข้างหลังความสุขอันนั้นมันมีหลายขั้นตอน แล้วมันมีความพยายาม แล้วมันมีความสมาธิมันมีเสียสละอะไรหลายๆ อย่างเยอะอยู่ แต่ผมมองว่ามันคุ้ม แล้วผมก็มองว่ามันเป็นวงการที่ทำไปแล้วมีความสุขครับ ถ้าเรารักมันจริงๆ เร็จะมีความสุขกับมันจริงๆ ผมมีความฝัน มีความฝันว่าแบบจะเห็นหน้าตัวเองบนบิวบอร์ดใหญ่ๆ ในทางด่วนครับ ที่มันใหญ่ๆ ตอนนี้มันน่าจะหน้าแบบณเดชน์ หรือว่าเจฟ เห็นหน้าเจฟอยู่ ผมก็อยากจะอยู่ตรงนั้นเหมือนกัน (ไม่กี่วันนี้แหละ) วันเลยหรอขอสักเป็นปี ไม่กี่ปี แต่ได้ๆ ก็อยากทำให้มันให้มันเกิดขึ้นครับ แล้วก็จะพยายาม

จัดการกับปัญหาอุปสรรคยังไง

เทศน์: พยายามไม่ใจร้อนครับ คือเรารู้ว่าเราเราก็จะคือถ้าเราเจออะไรที่เราไม่ค่อยชอบ หรือว่าเราไม่ค่อยถูกใจ รีแอคชั่นแรกของผม ของทุกคนก็คือความแบบอะไร คือมันจะใจร้อนขึ้นมาทันที แต่ผมก็พยายามรับรู้มันเอาไว้ แล้วไม่ใจร้อน แล้วก็พยายามถอยหลังก้าวนึง แล้วก็มองมันแบบกว้างๆ โอเคเราจะแก้ปัญหานี้ได้ไง ถ้ามันแก้ไม่ได้ก็ปล่อยมันไปอะไรแบบนี้ครับ เพราะว่าบางทีโดยเฉพาะตอนที่เราทำงานในวงการบันเทิง มันก็ทำให้เรารู้ว่าบางสิ่งถ้าเราคอนโทรลมันไม่ได้ เราก็ไม่ต้องคิดเพราะว่าอย่างเช่นแบบความคิดเห็นของทุกคน ความแบบว่าผิดหวังของทุกคนคือมันมีเยอะ เพราะว่าคนมองเราเยอะ แล้วมันไม่มีทางที่เราจะทำให้ทุกคนพอใจได้ มันก็ต้องเลือกครับ ว่าเราจะรับรู้อะไร แล้วก็ทิ้งอะไรไป

ความสุขในวัย 20 ปี

เทศน์: ความสุขของผมก็ตอนนี้มีความสุขกับงานครับ จริงๆ มีความสุขได้เจอกับแฟนๆ ได้เจอ ได้ทำการแสดง ได้เจออะไรใหม่ๆ ทุกวัน แล้วก็มีความสุขกับเพื่อนด้วยครับ เพื่อที่มหาลัยผมมีเพื่อนที่ดี แล้วก็มีเพื่อที่เข้าใจว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ แล้วเขาก็ซัพพอร์ตผมด้วย แล้วก็มีทีมรอบตัวผมที่ดีมาก แล้วก็กับทุกๆ วันครับ ก็คือช่วงนี้ทำงานหนักอยู่ก็จะตอบว่ามีความสุขกับทำงาน แต่ถ้าไม่ทำงานก็มีความสุขกับเพื่อน มีความสุขกับเรียน มีความสุขกับไม่รู้อ่ะพี่เรื่อยๆ ครับผมว่า

เทศน์ ไมรอน
เทศน์ ไมรอน

‘ใจพิสุทธิ์’ ประตูบานแรกสำหรับโอกาส

เทศน์: จริงๆ ก่อนหน้านี้ผมไม่รู้เลยนะว่าสุภาพบุรุษจุฑาเทพคืออะไร ผมไม่รู้ ผมไม่ดูละครไทย ผมดูทำไม ผมดูไปก็ไม่เข้าใจ แต่พอมาทำงานพอมาทำการเข้าใจกับมัน พอมาทำการบ้าน พอไปดูคุณรณพีร์เล่น มันก็เข้าใจว่ามันเป็นตำนานจริงๆ ของคนไทย แล้วงการบันเทิงละครไทย มันเป็นเรื่องที่มีแฟนคลับเยอะอยู่แล้ว ซึ่งดีมากกับนักแสดงใหม่ เพราะว่าเหมือนเราได้มีการันตีว่าโอเคอย่างน้อยมันจะมีคนดูเรื่องเราใช่ไหมครับ มันเป็นโอกาสทองจริงๆ ครับ คือสำหรับนักแสดงใหม่ที่เดินเข้ามาแล้วได้บทแบบนี้กับเรื่องที่มีพื้นฐานซัพพอร์ตแบบนี้ มันดีมากพี่ ตอนแรกคืองงครับ งงมากว่าได้ยังไงแต่หลังจากนั้นดีใจมากๆ แล้วก็ดีใจไปเรื่อยๆ แล้วพอมันใกล้ถึงวันเปิดกล้องความเครียดมันก็ค่อยๆ ไหลเข้ามา แล้วความกดดันก็ค่อยๆ มาด้วย แล้วพอมันยิ่งเข้าว่าโอเคเรื่องนี้มันตำนานมาก มันก็ยิ่งมีความกดดันครับ เราก็ไม่อยากให้คนดูผิดหวัง และเราก็เห็นผู้กำกับ ผู้จัด อะไรทุกๆ คนเขาใส่ใจกับมันมากๆ แล้วก็ใส่ใจกับตัวผมมากแล้วพยายามทนกับความงงๆ ความเข้าใจของผม ก็อยากจะทำมันออกมาให้ดีเขาจะได้ไม่รู้สึกว่าเขาเสียเวลา รู้ว่าเรามีอุปสรรคอะไรบ้าง เราอาจจะไม่เก่งเท่าคนอื่นยังไงบ้าง ผมก็ไม่ได้ให้มันทำให้ผมรู้สึกนอยด์อะไร ผมก็แค่พยายามทำให้มันดีที่สุดที่ผมจะทำได้ในโมเมนต์นั้น ซึ่งเขาก็ชอบกัน แล้วเขาก็บอกว่าเด็กคนนี้เขาพร้อมที่จะเรียนรู้ เขาบอกว่าแบบเราทำได้ พี่นกชาย พี่นกหญิง พี่เหมี่ยว คือสุดยอดเลย คือเขากล้าที่จะเลือกผม แล้วผมก็กล้าที่จะฟังคำสั่งสอนของเขาใช่ครับ จริงๆ ช่วงแรกๆ ผมถามเขาเยอะมากเลยนะ ว่าแบบมันทำยังไงๆ การแสดงคืออะไร มันต้องทำยังไง แล้วเขาไม่ยอมบอกผมเลยอ่ะ เขาแค่พูดแค่นี้เลยครับเขาพูดว่าแสดงตามที่เรารู้สึกแค่นั้น เขาพูดแค่นี้กับผมเลย ผมถามคำถามลึกซึ้งหลายด้าน ถามมุมมองของตัวละคร เขาไม่ตอบเขาบอกว่าแสดงเท่าที่เรารู้สึกอย่างเดียว ถ้าเราไม่รู้สึกเราไม่ต้องแสดงออกมาแค่นั้น แล้วเขาก็บอกมองให้เห็นฟังจริงๆ แค่นั้น แค่นั้นครับ แล้วตอนนั้นผมก็หงุดหงิดนิดนึง เพราะว่าทำไมอ่ะ ให้ผมมากกว่านี้สิ ผมต้องการผมขอร้อง แต่พอมันโตขึ้นแล้วพอมันได้มีชั่วโมงบินมากขึ้น แล้วพอมันได้คิดย้อนกลับไปคิดว่าเขาความหมายของเขาจริงๆ มันคือแค่นั้นนะการแสดง แต่กว่ามันจะถึงจุดนั้น กว่ามันจะทำได้คือโคตรยากพี่

เทศน์ ไมรอน
เทศน์ ไมรอน

การทำงานกับ “อุ้ม อิษยา” เป็นยังไงบ้าง

เทศน์: อุ้ม อิษยา ผมชมพี่อุ้มทุกรายการเลยครับ คือเขาจริงๆ เขาเก่งมากๆ จริงๆ แล้วเขาอยู่ข้างๆ ผม ทุกโมเมนต์ คือถ้าไม่มีเขาผมทำไม่ได้พี่จริงๆ ถ้าพี่อยู่ในกองวันแรกพี่ก็จะเข้าใจ แล้วพี่ก็จะพูดเหมือนผมแหละ คือมันไม่ได้เลยพี่ มันไม่เข้าใจอะไรเลย มันทำอะไรไม่ได้เลย แล้วถ้าเขาไม่ใจเย็นขนาดนั้นแล้วถ้าเขาไม่ซัพพอร์ตผมขนาดนั้น ถ้าเขาไม่ยิ้มแล้วก็มีความสุขขนาดนั้นมันก็จะทำให้ผมกดดัน ทำให้ผมเครียด มันก็ทำให้ผมไม่กล้าที่จะพัฒนาตัวเอง ซึ่งการที่เขารู้ว่าเราเป็นเด็กใหม่ เป็นฝรั่งเราอะไรแบบนี้ คือเขาไม่ได้ดูถูกเลย เขาแค่แบบว่าค่อยๆ ช่วยกัน แล้วเขาเป็นนักแสดงที่เก่งมากๆ คืออินเนอร์ของเขามีเยอะมากๆ แล้วเขาอยู่กับผมเขาไม่เคยทิ้งผมในฉาก เขาอยู่กับผม แล้วเขาค่อยๆ ส่งอารมณ์ให้ผม คือจริงๆ เขาเอาตัวเองให้รอดได้นะ คือเขาไม่ต้องมาดูแลผมก็ได้ มันไม่ใช่หน้าที่ของเขา แต่เพราะว่าเขาเป็นคนดี เขาเป็นคนนิสัยดีมาก เขาก็เลยยอมที่จะช่วยผม ผมก็เลยบอกว่าถ้าเราไม่มีเขามันทำไม่ได้จริงๆ มันก็เป็นทีมเวิร์คไป ผมว่าผมรับได้ แต่ส่งยังไม่ได้ ยังไม่มีพลังพอที่จะส่งให้คนอื่น แต่พอคนเขาส่งมาให้ผม ผมรับได้นะ แต่ส่งคืนโดยเฉพาะในช่วงแรกๆ มันยังไม่ได้ ซึ่งก็น่าจะยากสำหรับพี่อุ้มแต่เขาทำได้ คือเขาสร้างเองได้ รวมถึงพี่จ๊อบ พี่หลิงหลิง พี่ทุกคน ทุกๆ คน นักแสดงทุกคน โดยเฉพาะน้องต้นข้าว โหเก่งมากพี่ เขาก็คอยส่งให้ผมด้วย คือผมบอกได้เลยว่าช่วงแรกๆ ผมไม่ได้ส่งอะไรให้ใครเลย ผมแค่รับๆ อย่างเดียว คือมันส่งไม่ได้ส่งไม่เป็นอ่ะ พอช่วงหลังๆ ก็เริ่มดีขึ้นเริ่มส่งได้แล้ว

เทศน์ ไมรอน - อุ้ม อิษยา
เทศน์ ไมรอน – อุ้ม อิษยา

การซัพพอร์ตของแฟนๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เทศน์: ตื่นเต้นครับ บางทีผมก็ไม่รู้ว่าจะพูดกับเขายังไงดี ผมก็ขอบคุณๆ ไปเรื่อยๆแต่มันขอบคุณหลายรอบไม่ค่อยได้ มันก็จะแห้งๆ พี่ แต่ผมก็โบกมือ ฮัลโหลอะไรกัน แล้วอีกอย่างที่ผมชอบแฟนๆ ของผม เขาจะชอบมีมุขไทยมาเล่นกับผม แล้วผมชอบมากเลย เพราะมันเป็นวิธีนึงที่ผมสามารถฝึกภาษาไทยได้ คือนอกจากเขาได้จีบผม ผมได้คำใหม่เป็นภาษาไทยด้วย มีอันนึงเขาบอกจับหนูหน่อยๆ ผมก็จับทำไม จับยังไง ผมก็เดินไปแปะมือของแต่ละคน ผมนึกว่าจับแบบนี้ แต่ไม่ใช่คือผมเล่นเป็นตำรวจ เขาบอกจับหนูหน่อยแบบนี้ ผมก็ออ แล้วมีคนบอกหนูเล่นไพ่ๆ อะไรแล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม แล้วผมก็เพิ่งเข้าใจ ผมยังรู้สึกว่าหูผมแดงทุกครั้งเลยครับ คือตอนแรกมันอาจจะเขินแบบทั้งหน้า ตอนนี้มันเขินแค่หูแล้ว เริ่มชินมากขึ้น แต่มันเป็นอะไรที่ผมว่า ผมไม่รู้ว่าผมจะมีวันที่ชินกับมันหรือเปล่า แต่อันนี้พูดในแง่ดีมันเป็นอะไรที่แบบว่า สนุก แล้วก็ทำให้ผมก็เขินอยู่ครับ ดีครับแฟนๆ ก็จะเริ่มมีแบบรูปของผมแปะอยู่บนโทรศัพท์ แล้วก็จะมีป้ายเล็กๆ น้อยๆ Edit หน้าผม ซึ่งผมชอบมากน่ารักดี แล้วเขาจะให้ผมเซ็นต์ มีคนนึงอยากให้ผมเซ็นต์หน้าผาก ผมก็ผมจะทำนะ แล้วเขาก็บอกอย่าเลยน้อง เริ่มมีมุขภาษาอังกฤษด้วย มีแฟนคลับชอบให้ผมพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งผมประมาณ 2 ปี ในวงการ ผมพยายามไม่พูดภาษาอังกฤษ มันจะได้พัฒนาภาษาไทยได้ แล้วพอได้เจอแฟนคลับทุกคน เขาไม่อยากให้ผมพูดภาษาไทย เขาอยากให้ผมพูดภาษาอังกฤษ ผมก็แบบเอาไงดี ภาษาอะไรดี แต่มันก็เป็นโมเมนต์น่ารักๆ ระหว่างเรา ผมก็เลยอยากจะคิดชื่อแฟนด้อมขึ้นมาให้มันดีๆ พี่

สเต็ปต่อไปในวงการบันเทิง

เทศน์: จริงๆ กรกฎาคมก็จะมีเรื่องละครเรื่องนึงที่จะออนชื่อว่าโลกหมุนรอบเธอ แล้วผมก็ได้รับบทเป็นเด็กที่น่าสนใจมากๆ ครับ ทุกคนต้องไปดูจริงๆ แล้วก็ตอนนี้ก็กำลังจะเริ่มเปิดกล้องละครเรื่องใหม่ชื่อเรื่องยังไม่รู้ครับ แล้วก็ผมบอกได้เลยว่าผมเล่นกับพี่อุ้ม ผมบอกได้แค่นี้ครับ แต่มันสนุกครับแล้วก็ช่วงนี้ก็คือช่วงที่เราเริ่มเวิร์คช็อปกัน เริ่มเจอนักแสดงคนอื่นกัน ก็สนุกมากแล้วก็ทีมผู้จัด ผู้กำกับทุกคนคือดีมากๆ ครับ ผมยังไม่ถึงจุดที่ผมเลือกได้ครับพี่ ผมยังเป็นนักแสดงหน้าใหม่สดใสมีความสุขครับ ผมยังเลือกไม่ได้ครับ คุณส่งอะไรมาให้ผมผมก็ทำหมดครับผมพร้อมชาเลนจ์กับทุกบทบาทจริงๆ ครับผม ส่งมาเลยครับอะไรที่ท้าทาย อะไรที่แตกต่างผมอยากทำหมดเลยครับผม ก็ขอบคุณที่กล้าที่จะทำมันออกมาขอบคุณที่กล้าที่จะลองอะไรใหม่ๆ ใช่ แล้วหวังว่าคุณจะมีความกล้านี้ไปตลอด ตลอดไป เพราะว่ามันทำให้เราได้เจออะไรใหม่ๆ เยอะมากๆ ใช่ แล้วก็ขอบคุณคุณด้วยครับ ที่คอยซัพพอร์ตแล้วก็ดูผมหวังว่าคุณมีความสุขนะครับ ครับ ขอบคุณครับ

เทศน์ ไมรอน - อุ้ม อิษยา
เทศน์ ไมรอน

ตลอดการสัมภาษณ์ ‘เทศน์’ ขอบคุณทุกคน แล้วอยากขอบคุณตัวเองบ้างไหม

เทศน์: ขอบคุณตัวเองก็ได้ครับ แต่ก็ไปเรื่อยๆ ครับ มันยังเรายังไม่ถึงจุดที่เรา ไม่ใช่ว่าไม่พอใจนะแต่เรายังอยากไปเรื่อยๆ อยากไปมากกว่านี้ อยากจะทำงานให้ดีกว่านี้ แล้วเรายังเห็นว่าเรายังเห็นว่าเราต้องพัฒนาหลายๆ อย่าง ซึ่งเราก็มองกลับไปเราก็เห็นตัวเองว่าเราดีขึ้นในหลายๆ อย่าง เราก็ยอมรับมัน แต่ผมยังไม่อยากจะขอบคุณตัวเองมากขนาดนั้นเพราะว่าเรายังต้องไปต่อครับใช่

ขอบคุณที่กล้าที่จะทำมันออกมาขอบคุณ ที่กล้าที่จะลองอะไรใหม่ๆ แล้วหวังว่าคุณจะมีความกล้านี้ไปตลอด เพราะว่ามันทำให้เราได้เจออะไรใหม่ๆ เยอะมากๆ แล้วก็ขอบคุณคุณด้วยครับ ที่คอยซัพพอร์ตแล้วก็ดูผมหวังว่าคุณมีความสุขนะครับ ครับ ขอบคุณครับ

สั่งชาเขียวหวานน้อย ทำไมได้น้ำเปล่ากลับมา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก