โดดเด่นบนเวทีนางสาวไทยประจำปี พ.ศ. 2566 แบบไม่เป็นสองรองใคร แน่นอนว่าชื่อของ “อุ้ม กัญญาวีร์ หนูแก้ว” นางสาวไทยอุทัยธานี ที่พ่วงตำแหน่งนักร้อง ย่อมติดอันดับผู้เข้าประกวดที่น่าจับตาอยู่ในน้อย ยิ่งขึ้นชื่อว่าเป็นน้องสาว “อาย กัญญาลักษณ์ หนูแก้ว“ ดีกรีรองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2565 อีกด้วย ยิ่งทำให้ อุ้ม กัญญาวีร์ ถูกจับตา ว่ามีโอกาสความเป็นไปได้สูงกับการคว้ามงกุฎบนเวทีนางสาวไทยปีนี้
FEED มีโอกาสได้พูดคุยกับอุ้ม กัญญาวีร์ ถึงจุดเริ่มต้นเส้นทางนางงามของเธอ จนมาถึงวันนี้ที่เธอกลับมาตามหาความฝันบนเวทีนางงามอีกครั้ง โดยมีพี่สาวเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้กับเธอ
จุดเริ่มต้นเส้นทางนางงาม
อุ้ม กัญญาวีร์ : แรกๆ เลยแบบไม่โกหกนะคะ เริ่มจากที่พี่สาวไปประกวดนางงาม แล้วคุณแม่ด้วยความเป็นห่วงลูก ก็จะให้หนูไปนั่งเฝ้าพี่แล้วหนูเป็นเด็กที่ซุกซน มันไม่ได้ดั่งใจ ขี้เกียจรอ ก็เลยขอขึ้นประกวดด้วยได้ไหม ไปๆ มาๆ เราก็รู้สึกว่าชอบ ชอบที่ได้แต่งตัวสวยๆ แล้วได้ตังค์ด้วย อันนี้คือจุดเริ่มต้นค่ะ
เวทีแรกแรกของหนู เป็นเวทีนางงามเดินสายเลยค่ะ ตอนนั้นก็แอบปลอมชื่อปลอมอายุไปประกวด ด้วยความที่เราอายุยังน้อยมาก แต่ว่าความสูงและดูโตตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยใช้ชื่อนามสกุลปลอมเพื่อจะขึ้นประกวด เดินสายประกวดอยู่ประมาณ 2 ปีประกวดมาประมาณ 7-8 เวทีแล้วก็เพิ่งมาได้ตำแหน่งค่ะ
ความท้าทายครั้งใหม่ กับการมาเวที “นางสาวไทย” ท่ามกลางเสียงวิจารณ์
อุ้ม กัญญาวีร์ : บอกตรงๆ เลยว่าตอนแรกอุ้มอยากพอแล้วตอนค่ะ เพราะเรามองว่าอาจจะเสียเวลาหรือเปล่าหรือว่ามันไม่ใช่ทางของเรา ทางของเราอาจจะเป็นทางร้องเพลงก็ได้นะ พอมาปีนี้อุ้มรู้สึกว่าอุ้มโตขึ้น แล้วอุ้มมีพี่สาวที่เขาได้ตำแหน่ง เขาสามารถเทรนให้เราได้ เป็นกำลังใจให้เราได้ แล้วอุ้มรู้สึกโชคดีมากที่ปีนี้มีแต่คนเอ็นดูแล้วก็คอยสนับสนุนให้กำลังใจเสมอ อุ้มก็เลยรู้สึกว่า ฉันอยากทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง ฉันอยากเป็นอะไรที่ดีมากกว่านี้ แล้วมองว่าตัวเองอายุยังน้อยอยู่ ยังมีไฟที่จะอยากทำอะไรที่มันท้าทายความสามารถของตัวเอง ก็เลยอยากมาประกวดนางสาวไทย
ตอนเปิดตัวมา บางคนก็มองว่าอุ้มคือคือตัวอย่างของคนที่ไม่ตรงบริบทนางสาวไทย หนูก็บอกว่านางสาวไทยต้องเป็นแบบไหน นางสาวไทยก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่เขามีความสวย มีความเป็นไทย แล้วหนูรู้สึกว่าหนูทำได้ ก็เลยไม่ได้สนใจกับสิ่งที่เขาเมนต์มา ที่ผ่านมาหลายๆ ปี ที่อุ้มพักการประกวดไปก็เพราะว่าอยากจะมาเวทีนี้ อุ้มรู้สึกว่าประสบการณ์ที่อุ้มหล่อหลอมมาจนถึงวันนี้ สามารถที่จะใช้กับเวทีนี้ได้ แล้วการร้องเพลงกับการเป็นนางงาม มันเข้ากันได้ การเป็นนางงามไม่ใช่แค่ความสวย อุ้มว่าการร้องเพลงมันสื่อถึงอะไรได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การประชาสัมพันธ์ การให้กำลังใจ บรรเทาทุกข์ นี่คือบริบทใหม่ของนางงามที่ต้องมีด้วยซ้ำ อุ้มก็เลยมองว่านี่อาจจะเป็นทาเลนจ์ใหม่ก็ได้ที่เวทีนางงามเปิดกว้างขึ้น
น้ำหนักความฝัน ระหว่าง “นางงาม” และ “นักร้อง”
อุ้ม กัญญาวีร์ : นางงามค่ะ การมาประกวดนางงามก็คือต้องมีความฝันเป็นนางงามเลย แต่เราแค่ใส่ความเป็นตัวเองที่เรามีความสามารถ ก็คือการร้องเพลงแค่นั้น หนึ่งเลยเวทีนางสาวไทย เฟ้นหาผู้หญิงที่มีความสามารถ แล้วก็มีความเป็นไทย อุ้มก็เป็นคนไทยแท้ๆ ร้อยเปอร์เซนต์ค่ะ แล้วก็สามารถที่จะร้องเพลงไทยได้ทุกแนวของการเป็นไทยที่บ่งบอกว่านี่คือความเป็นไทย หน้าผมเป็นไทย ทุกๆ อย่างค่ะความเป็นไทยที่แสดงออกมา นี่คือบริบทของเวทีที่อุ้มมี
ความกดดันกับตำแหน่ง “น้องสาวอาย กัญญาลักษณ์” ห้อยท้ายชื่อ
อุ้ม กัญญาวีร์ : จริงๆ ตอนแรกเลยที่มาประกวด มีคนพูดว่า เธอจะไปประกวดทำไม เธอก็รู้ว่าพี่สาวเธอดังขนาดนั้น ปีนี้มันเป็นปีของอาย มันดังอยู่ เธอจะไปแย่งกระแสพี่สาวหรอ อะไรอย่างนี้ มันเลยมีความคิดอยู่แว้บนึงว่า มันจะดีไหม? แต่อุ้มกับพี่อายเป็นคนที่คุยกันทุกเรื่อง เราก็เลยลองคุยกันว่ามันเป็นแบบนี้ แบบที่คนพูดหรือเปล่านะ เราจัดการความรู้สึกตรงนี้ยังไงดี ด้วยความที่พี่อายเขาผ่านประสบการณ์มาก่อน เขาก็บอกว่าไม่นะอุ้ม เราไม่เหมือนกันเลยนะ เราต่างมีสิ่งที่เป็นซิกเนเจอร์ที่ต่างกัน อุ้มลองทำให้เขาลองเปิดใจ พี่เชื่อว่าอุ้มทำได้ ลองเวทีนี้ดูนะพี่คอยซัพพอร์ตเสมอ มันเลยเป็นแรงบันดาลใจที่ว่า ใช่ เรามีแรงบันดาลใจเป็นพี่สาว แล้วก็เลยไม่รู้สึกกดดัน
“อย่างในรอบห้องดำ แม่ปุ้ย (ปิยาภรณ์ แสนโกศิก) บอกว่าไม่มีใครกดดันเธอเลยนะ มีแต่เธอนี่แหละที่เป็นคนกดดันตัวเองว่าทุกคนจะต้องคิดเรื่องนี้ อุ้มก็เลยกลับมามองตัวเองว่าที่จริงแล้ว บางทีเราไปคิดแทนคนอื่นมากเกินไป อาจจะมีเสียงเดียวที่เขาพูด ที่เหลือเขาก็มองที่เราเป็นเรา ก็อยากจะขอให้ทุกคนเปิดใจแล้วก็มองว่าอุ้มเป็นอุ้ม ไม่ใช่อุ้มที่เป็นน้องพี่อาย กัญค่ะ”
อุ้ม กัญญาวีร์ หนูแก้ว
พี่สาวแนะนำอะไรบ้าง
อุ้ม กัญญาวีร์ : เขาสอนในเรื่องของการทำงานกับผู้ใหญ่ค่ะ กับการพัฒนาตัวเอง ว่าเราจะต้องดีกว่าทุกๆ ครั้งที่ทุกๆ คนเห็น อย่าทำให้ตัวเองผิดหวัง เราไม่ต้องทำเพื่อใครแต่เราต้องทำเพื่อตัวเอง วันนึงเราย้อนกลับมามองเราจะได้เห็นตัวเองว่าเราพัฒนาจาก 1 ไป 2 ไป 3
ความหวังกับเวทีนี้
อุ้ม กัญญาวีร์ : มาเพื่อมงเท่านั้นค่ะ ถ้าไม่มงก็ไม่เป็นไร หนูก็คงไปทำอย่างอื่น ด้วยความที่เราเป็นคนแบบ ถ้ามองว่ามันไม่ใช่ เราก็จะไม่ฝืน ไว้ไปทำอะไรอย่างอื่นที่เป็นตัวเรา อุ้มเป็นคนที่ชอบหาทาเลนจ์อะไรใหม่ๆ ทำเสมอค่ะ อย่างน้อยเราก็จะได้ตัดสิ่งที่เราไม่ถนัดออก สิ่งที่มันทำแล้วไม่ใช่ออก แล้วสักวันมันก็จะเป็นวันของเรา แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นอุ้มก็จะสู้ให้ถึงที่สุดก่อน เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าอุ้มโตขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่ได้ขึ้นมาก็อาจจะต้องไปทำในสิ่งที่เราถนัดต่อไป แต่ว่าสมมติว่าวันดีคืนดีอุ้มมีไฟขึ้นมาแล้วอุ้มรู้สึกว่า เวทีนี้มันตัวเรามากๆ อุ้มก็จะไปค่ะ
ก็ฝากทุกท่านนะคะ ช่วยเป็นแรงเชียร์แรงใจ เป็นกำลังใจให้อุ้มด้วยนะคะ อุ้มสัญญาว่าอุ้มจะทำให้ดีที่สุด แล้วก็จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง และทุกครั้งทุกๆ วัน ทุกคนจะได้เห็นว่าอุ้มทำดีขึ้น และอุ้มพัฒนาเสมอ แล้วก็มีอะไรก็ทักทายกันได้ ติชมกันได้ อุ้มพร้อมรับฟังแล้วก็อยากจะบอกว่าขอบคุณทุกคนมากค่ะที่เปิดใจกับอุ้มอีกครั้ง และอุ้มก็จะทำมันให้ดีที่สุดค่ะ ขอบคุณค่ะ