ตลาด EV เดือดขั้นสุด เมื่อเปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยกับ BYD Seal รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ซีดานระดับพรีเมี่ยม กับราคาเริ่มต้น 1.325 ล้านบาท และรุ่นท็อปสุดที่ 1.59 ล้านบาท เทียบเท่ากับ Tesla Model 3 RWD มาดูกันว่าหากต้องเลือกสักคัน เอาคันไหนดี?

BYD Seal ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบรถยนต์ซีดานสุดพรีเมี่ยมจาก BYD ผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 จากประเทศจีน โดยรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ถูกสร้างขึ้นมาแบบท้าชนกับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลกอย่าง Tesla รุ่น Model 3 แบบตรงๆ

BYD SEAL เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบซีดานขนาดกลาง 4 ประตู ถูกสร้างขึ้นบน e-platform 3.0 ที่มาพร้อมแนวคิดการออกแบบที่เรียกว่า Ocean-X โดยจะเป็นหนึ่งในตระกูล Ocean Series ที่ประกอบไปด้วย BYD Seagull, BYD Dolphin, และ Sea Lion

Tesla Model 3 2022 รถยนต์นั่งแบบซีดาน Tesla Model 3 Highland (2024) มาในดีไซน์ตัวถังที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ ซึ่งทาง Tesla เคลมว่าได้เปลี่ยนชิ้นส่วนต่าง ๆ กว่า 50% ของตัวรถยนต์ ได้ทั้งไฟหน้า กันชนหน้า ไฟท้าย ที่มีความโฉบเฉี่ยวดูดุขึ้นกว่าเดิม ส่วนฝาท้ายก็ได้มีการเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ จากเดิมที่เป็นโลโก้ เปลี่ยนเป็นตัวอักษร Tesla แบบเต็ม ๆ พร้อมเพิ่มสีใหม่ อย่าง สีเทา Stealth Grey และสีแดง Ultra Red

เปรียบเทียบสเปค Seal vs Model 3

เริ่มต้นจากเรื่องสเปคระบบขับเคลื่อนของตัวรถ ฝั่ง BYD Seal Performance ให้สเปคมาได้น่าสนใจกว่าอย่างชัดเจน ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ มอบพละกำลังสูงสุดถึง 523 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายในระยะเวลาเพียง 3.8 วินาทีเท่านั้น

ขนาดแบตเตอรี่ ให้มาใหญ่กว่า Tesla Model 3 Standard Range เป็นอย่างมาก โดยให้มามากกว่าถึง 25.06 kWh เลยทีเดียว เรียกได้ว่าส่วนต่างขนาดแบตเตอรี่ พอๆ กับขนาดแบตที่ใส่ในรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กๆ คันนึงเลยทีเดียว ซึ่งส่งผลต่อระยะทางขับขี่ต่อ 1 การชาร์จด้วย โดยฝั่ง Seal จะทำระยะทางขับขี่ได้ไกลกว่าราวๆ 20 กิโลเมตร ต่อ 1 ชาร์จ

ส่วนฝั่ง Tesla Model 3 Standard Range แม้ว่าจะเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง มีขนาดแบตเตอรี่ที่เล็กกว่าค่อนข้างมาก ทว่าระยะทางขับขี่ทำได้น้อยกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อันเนื่องมาจากอัตราสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าที่ Tesla ทำได้ต่ำกว่านั่นเอง

ส่วนด้านพละกำลัง แม้ว่า 0-100 กม./ชม. ของ BYD Seal จะแรงกว่ามหาศาล แต่ถ้าเอาความเร็วสูงสุดแล้ว Tesla Model 3 ทำได้เร็วกว่าค่อนข้างมากเลยทีเดียว

มาดูกันต่อที่พิกัดตัวรถกันบ้าง ฝั่ง BYD Seal มีขนาดตัวรถใหญ่กว่า Tesla Model 3 ในทุกมิติ ทั้งขนาดตัวถังและระยะฐานล้อ โดยจุดเด่นที่สุดของ BYD Seal นั่นคือเรื่องของช่วงล่างที่ทำมาได้ดีกว่า Tesla Model 3 ในทุกย่านความเร็ว

ในความเร็วต่ำให้ความนุ่มนวลมากกว่า Tesla และในความเร็วให้ความมั่นคงที่ดีกว่า มอบความมั่นใจที่มากกว่า Tesla Model 3 ในทุกมิติ แม้จะใช้ความเร็วสูงสุดที่ 190 กม./ชม. ก็ยังให้ความรู้สึกมั่นใจมากกว่า Tesla Model 3 ในความเร็วเท่ากัน

แต่ถ้าพูดในเชิงใช้งานแล้ว BYD Seal ถือว่าทำช่วงล่าง และการควบคุมมาได้เหนือกว่า Tesla ในทุกมิติ แต่จุดที่ Tesla ทำได้ดีมากกว่า BYD Seal นั่นคือเรื่องระบบช่วยเหลือการขับขี่อย่าง Autopilot ที่ยอมรับว่ามัน “ดีที่สุดแล้วในเวลานี้” เมื่อเปรียบเทียบกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ของ BYD Seal ต้องเรียนตามตรงว่า “ยังมีเรื่องต้องปรับปรุงอีกเยอะมาก” ทั้งเรื่องความนุ่มนวลในการควบคุมพวงมาลัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น รถตัดหน้า, สิ่งแปลกปลอมตัดหน้า, การแจ้งเตือนต่างๆ, การแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ที่ระบบคอมพิวเตอร์ต้องทำ ยังห่างชั้นจาก Tesla ค่อนข้างมาก

ด้านพื้นที่เก็บสัมภาระ ต้องยกความดีความชอบให้กับ Tesla เป็นพิเศษ ด้วยขนาดตัวรถที่เล็กกว่า แต่กลับออกแบบพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากกว่า BYD Seal ทั้งที่เก็บของใต้ฝากระโปรงหน้า และที่เก็บของในฝากระโปรงท้ายรถ

เลือกคันไหนดี? ระหว่าง Seal vs Model 3

ในเมื่อราคาเท่ากัน แต่ต้องเลือกสักคันหนึ่ง จะเอาคันไหนดี? เมื่อเราเปรียบเทียบดูแล้วพบว่ารถทั้ง 2 คันนี้มีจุดเด่น จุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป หากชอบรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความสดใหม่ มีขนาดใหญ่ เน้นการขับขี่แบบนุ่มนวล และมั่นคง ฝั่ง BYD Seal จะทำได้ดีกว่าเป็นอย่างยิ่ง

แต่ถ้าชอบรถยนต์ที่เน้นด้านนวัตกรรม เพียงแค่เอ่ยชื่อก็ร้องอ๋อว่าคืออะไร และชอบรถที่ระบบ Software ดี, ระบบช่วยขับดี Tesla คือคำตอบสำหรับท่าน แต่ต้องแลกกับโฉมหน้าที่เก่ากว่า ซึ่งใช้งานมาอย่างยาวนานมากแล้ว

Straight roads are for fast cars, turns are for fast drivers.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก