ตลาดรถยนต์ออนไลน์ Bring a Trailer ผู้ให้บริการประมูลและจัดหารถจากสหรัฐอเมริกา โดยทางเว็บรับหารถที่น่าใช้งานรวมไปถึงรถหายากที่น่าเก็บสะสม คาดว่าจะปิดปีนี้ด้วยยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.35 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากนักสะสมรุ่นใหม่เข้าสู่ระบบเพื่อซื้อรถคลาสสิกและรถมือสองมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทจากซานฟรานซิสโกรายนี้ ได้ทำเว็บไซต์จัดหารถที่เข้าใจง่ายและใช้งานได้อย่างสะดวก ดึงดูดเหล่านักแลกเปลี่ยนรถ รวมถึงเหล่านักสะสมรถรุ่นใหม่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยยังมีคำถามต่อไปว่า ความคึกคักในการสะสมรถหายากเหล่านี้ยังจะอยู่ต่อไปไหม

Randy Nonnenberg ประธานกรรมการบริษัท Bring a Trailer ให้ความเห็นว่าทางทีมงาน ยังไม่เห็นอะไรที่สามารถจะทำให้ธุรกิจชะลอตัวได้ แม้ว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ตาม โดยปัจจุบันทางบริษัทมีขายตั้งแต่ Ferrari Classic ที่มีราคา 7 หลัก (หน่วยดอลลาร์นะครับ) ไปจนถึงรถยนต์ใช้งานคลาสสิกอย่าง Saabs ราคา 15,000 ดอลลาร์

ตลาดรถยนต์ออนไลน์

เมื่อทำความรู้จัก Bring a Trailer จะทราบได้ว่าเป็นบริษัท ตลาดรถยนต์ออนไลน์ ซึ่งซื้อกิจการโดย Hearst Autos ในปี 2020 ได้พลิกโฉมธุรกิจการซื้อและขายรถสะสมแบบดั้งเดิม บริษัทประมูลรถคลาสสิกแบบดั้งเดิม โดยมีรูปแบบโมเดลการทำธุรกิจที่มีต้นทุนต่ำ ใช้งานและเข้าใจง่าย รวมไปถึงมีประสิทธิภาพในการซื้อและขาย โดยผู้ที่ต้องการนำรถมาขายเพียงแค่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมคงที่ ที่ราคา 99 ดอลลาร์ ส่วนผู้ซื้อต้องจ่ายเงินให้กับบริษัท 5% ของราคาสุดท้ายโดยมีขอบเขตราคาสูงสุดอยู่ที่ 5,000 ดอลลาร์  ซึ่งนับว่าเป็นการจ่ายเงินของผู้ที่นำรถมาประมูลและผู้ที่มาประมูลที่ถูกกว่าการประมูลแบบเดิมๆที่เคยมีมา  Nonnenberg ได้กล่าวว่า หากผู้ซื้อได้รถไปครอบครองแล้ว 3-4 ปี อยากจะมีการขยับปรับเปลี่ยนรถที่มี หรือแม้แต่มีปัญหาทางด้านการเงินด่วน มีความจำเป็นต้องนำรถที่มีอยู่มาประมูล ก็ยังนับว่าเป็นโมเดลธุรกิจที่ดีสำหรับบริษัท

ผลประกอบการของ Bring a Trailer ในปีนี้ นับว่าสูงกว่าปีก่อนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นปริมาณรถที่เข้ามาประมูลในตลาด ราคาของรถที่มาร่วมประมูล โดยประมูลรถไปแล้วกว่า 700 คันในแต่ละสัปดาห์ มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 54,495 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 47,500 ดอลลาร์ในปี 2021 และในปีนี้มีรถที่ขายด้วยราคาที่มากกว่า 500,000 ดอลลาร์ถึง 145 คัน ยอดเพิ่มขึ้นถึง 172 % จากปีที่แล้ว แสดงให้เห็นถึงการดึงดูดผู้ซื้อผู้ขายที่มีกำลังซื้อกำลังขายได้เป็นอย่างดี ซึ่งปีนี้ได้มี “2017 Ferrari LaFerrari Aperta” ที่ถูกประมูลไปในราคาสูงที่สุดด้วยราคา 5.36 ล้านดอลลาร์

การตั้งเป้าสำหรับปี 2023 Bring a Trailer มีแผนจะขยายการเข้าถึงกลุ่มลูกค้ากว่าอีก 9 แสนคน และผู้เข้าประมูลอีกกว่า 4 แสนคน แถมด้วยการเพิ่มการเยี่ยมชมรถแบบส่วนตัวรวมไปถึงการมี Partner ในตลาดท้องถิ่น เพื่อให้การบริการดูแลหลังการขายแก่ลูกค้าที่ซื้อรถไปอีกด้วย

Nonnenberg ได้กล่าวว่า สิ่งที่ทางบริษัทเองอยากพัฒนามากที่สุดคือ การนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมประสิทธิภาพ โดยนำมาลดเวลาการรอในระบบลงขายรถ ที่ปัจจุบันมีการรอเฉลี่ยอยู่ที่ 26 วัน ระหว่างส่งข้อมูลเข้าระบบและเริ่มประมูล โดยทางทีมงานอยากจะให้ทั้งหมดลดเวลาลงเหลือ 10 วันเท่านั้น เป็นเป้าหมายหลัก

แหล่งที่มาและข้อมูล : CNBC
ติดตามข่าวสารธุรกิจและวงการยานยนต์ได้ที่นี่

Straight roads are for fast cars, turns are for fast drivers.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก