Indy Mania  By พอล เฮง คอลัมน์ที่จะพาย้อนกลับไปในช่วงการปะทุและระเบิดของเพลงไทยนอกกระแส ในช่วงทศวรรษที่ 90s

‘เพลงตลาดกระแสหลักทั้งไทยและต่างประเทศต้อง “น้อง ท่าพระจันทร์” ไปพันธุ์ทิพย์หาฮาร์ดร็อกและเมทัลทะลุโสตต้อง “ร้านเจ๊จู โดเรมี สยามฯ” รวมหลากหลายแนวดนตรีครบครันครบเครื่องมีหมดสำหรับนักฟังสายลึก ส่วนวัยรุ่นสยามฯ พลาดไม่ได้ต้องเข้า “ดีเจสยาม” ซื้อเทปกลับบ้านไปฟังจากสยามสแควร์ เด็กจุฬาฯ รู้กันดีเทปมากมีราคามิตรภาพ “ตี๋ จุฬาฯ” ป้ายรถใกล้ร้าน “จีฉ่อย” และอีกหลายแหล่งของร้านเทปร้อยแปดพันเก้าร้านที่มีอยู่ทุกหัวมุมหัวถนน ได้สร้างกลุ่มนักฟังเพลงหลากวัยขึ้นมาในยุคทศวรรษที่ 2520-2550 ของไทย แต่มีเพียงไม่กี่ร้านที่ถูกเล่าขานจนถึงวันนี้’

ในวันเวลาที่ความสุขจากการฟังเพลงเบ่งบาน ด้วยเครื่องเล่นเทปคาสเส็ตต์มีทุกแบบให้เลือก ทั้งเครื่องเสียงหรูหราราคาแพง เครื่องเล่นประจำบ้าน เครื่องเล่นขนาดเล็กในห้อง และเครื่องซาวด์อเบาต์พกพาประจำตัว ด้วยทุกช่วงราคาที่มีให้เลือกสำหรับคนทุกเพศทุกวัย เป็นแรงเร้าให้ตลาดเพลงสมัยนิยมเติบโตอย่างรวดเร็ว

กลุ่มก้อนคนฟัง โดยเฉพาะวัยรุ่นเฝ้าคอยรออัลบั้มใหม่ของนักร้องและคณะดนตรียอดนิยมที่ตัวเองชื่นชอบว่า จะมีอัลบั้มใหม่ออกมาวางแผงพร้อมกันทั่วประเทศในวันไหน ต่างพากันไปจองหรือไปเฝ้าหน้าร้านเทปปากซอยเพื่อจะได้ฟังก่อนใครแล้วนำมาคุยพูดต่ออย่างภูมิใจที่ได้ฟังเพลงทั้งอัลบั้มก่อนใครอื่น สามารถทำนายพยากรณ์ว่าเพลงนั้นเพลงนี้ฮิตแน่ๆ

เมื่อวันเวลาผ่านไป ร้านเทปที่ถูกยกขึ้นหิ้งในระดับตำนานที่ยังเปิดให้บริการขายอยู่อย่างปกติ สามารถฝ่ามรสุมของการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยมาได้ก็มีเหลือน้อยนิดอย่างน่าตระหนกตกใจ 

‘น้อง ท่าพระจันทร์’ ถือได้ว่าเป็นร้านที่เหลือรอดและอยู่มาได้นานถึง 46 ปี ในปี 2568 นี้ แม้จะมีการย้ายที่ทางไปตามสถานการณ์ของการเปลี่ยนในเรื่องเช่าที่ตรงท่าพระจันทร์ แต่ปัจจุบันร้านก็ตั้งอย่างสง่าผ่าเผยตรงที่เดิมของคืนวันเก่าๆ ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ 2 ธันวาคม ปี 2522

ในยุคก่อร่างสร้างตัวร้าน เทปยุคแรกที่วางจำหน่ายในร้านคละกันทั้งเพลงไทยและต่างประเทศ (อเมริกาและอังกฤษ) อย่างเพลงสากลหลักๆ ที่อยู่ในสมัยนิยมและเป็นอัลบั้มหรือเพลงยอดนิยมในยุคนั้นๆ ส่วนใหญ่เป็นเทปที่เรียกกันว่า เทปผี (ช่วงเวลาที่ยังไม่มีกฎหมายลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศมาบังคับใช้ และค่ายเพลงต่างประเทศไม่ได้เข้ามาทำตลาดผลิตอัลบั้มต่างๆ จำหน่ายในประเทศไทย) เทปแบบ Peacock และ 4 Track ที่ผลิตโดยโรงงานคนไทย อัดเองขายเอง ราคาขายม้วนหนึ่งตกอยู่ที่ 40-50 บาท 

ส่วนเพลงไทยก็เป็นยุคที่เรียกว่า เพลงสตริง เป็นหลัก แต่ก็ยังมีเพลงลูกกรุง สุนทราภรณ์ และเพลงลูกทุ่งอยู่ในกระแสหลักเช่นกัน ก็มีระบบยี่ปั๊ว ซาปั๊ว คอยดูแลกระบวนการจัดจำหน่ายสู่ร้านเทปต่างๆ ทั่วประเทศกันอยู่แล้ว เพื่อส่งให้ถึงมือถึงหูคนฟัง 

ช่วงเปิดร้านแรกๆ ร้านน้อง ท่าพระจันทร์ ใช้ชื่อว่า I’m Sound  ซึ่งหมายถึงว่า เสียงเพลงอันเป็นที่รัก แต่คนซื้อกลับเรียกร้านน้องจนติดปาก รวมถึงมีที่ตั้งคือ ท่าพระจันทร์ ตามติดเป็นสร้อยห้อยมา ก็เลยปล่อยเลยตามเลยจนกลายเป็นชื่อและแบรนด์ที่เข้มแข็งในระดับตำนานจนถึงวันนี้

แน่นอน ด้วยเซอร์วิส มายด์ ที่เป็นกันเอง ยิ้มแย้มเอาใจใส่ลูกค้าที่มาซื้อเทปที่ร้าน ไม่ใช่แค่คนขายเทปกับลูกค้า กลายเป็นปัจจัยอะไรที่ดึงดูดผู้คนที่ซื้อแล้วให้กลับมาที่นี่ไม่ขาดสาย ที่สำคัญคือการสร้างชุมชนคนฟังเพลง ด้วยการไม่พยายามยัดเยียดขายของ แต่เลือกแนะนำสินค้าที่เหมาะกับรสนิยมของแต่ละคน เปิดให้ทดลองฟังก่อนซื้อ รวมทั้งยังมีระบบรับประกันกรณีสินค้าชำรุดหรือเสียหาย

ที่สำคัญสำหรับคอเพลงใต้ดินหรือเพลงนอกกระแสในวันเวลาที่ยังไม่มีคำว่าอินดี้ หรือมีกระแส อินดี้ ตามมาในยุคหลัง ร้านน้อง ท่าพระจันทร์ คือแหล่งรวมหรือศูนย์จัดจำหน่ายรับฝากขายอัลบั้มของทั้งนักร้องและคณะดนตรีที่ไม่อยู่ในระบบจำหน่ายในธุรกิจเพลงปกติ เพราะมียอดผลิตและยอดขายน้อย ที่นี่จึงกลายเป็นที่พึ่งในการกระจายสินค้าสู่คนฟัง เป็นศูนย์กลางที่บรรดาคอเพลงรู้และบอกต่อกันว่า หาอัลบั้มไหนในท้องตลาดทั่วไปไม่ได้ ที่นี่มี มาแล้วไม่ผิดหวัง ได้อัลบั้มที่ตามหากลับไปค่อนข้างแน่ แต่ถ้าไม่มีทางร้านจะจัดหาเตรียมไว้ให้เพื่อมารับในครั้งหน้าที่นัดไว้

ด้วยความเชื่อเรื่องโอกาส นักร้องและคณะดนตรีที่มีฝีมือ มีความสามารถ แต่ปราศจากพื้นที่เผยแพร่ผลงาน ร้านน้อง ท่าพระจันทร์ จึงกลายเป็นสื่อกลางสนับสนุนให้พวกเขาเหล่านั้นได้ทำตามฝันให้เป็นจริง หรือช่วงที่กระแสอินดี้รุ่งเรือง (Indy Mania) ช่วงปลายยุคทศวรรษที่ 2530 เกิดผลงานแนว Bedroom Studio มากมาย ร้านน้องฯ ยังรับหน้าที่เป็นสื่อกลางนำเพลงต่างๆ ไปสู่ผู้ฟัง โดยพี่เปิดแผนกจัดจำหน่าย (Distributor) หรือสายส่งกระจายผลงานเพลงหลายแนวไปสู่ร้านค้าต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 

การก้าวขึ้นเป็นชุมชนหรือชุมทางของคนฟังเพลงและรักเสียงเพลง ไม่จำเพาะการขายเทป แนะนำเพลงและอัลบั้มตามรสนิยมของลูกค้าเท่านั้น การขายบัตรคอนเสิร์ตในยุค 2.0 ที่มีเพียงโทรศัพท์ในการติดต่อเพียงเท่านั้น ยุคนั้นที่โด่งดังเป็นที่รู้จักกันก็คือ ร้านหนังสือดวงกมล สยามสแควร์ / ร้านหนังสือดอกหญ้า สาขาท่าพระจันทร์ และร้านน้อง ท่าพระจันทร์ หลักๆ เพียง 3 ร้านที่มาแล้ว ซื้อได้แน่นอน ไม่ว่าคอนเสิร์ตเล็กกลางใหญ่มีพร้อมจำหน่าย ด้วยความรู้สึกว่า เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างร้านกับลูกค้า ที่เมื่อลูกค้าอยากได้ความสะดวกก็เพียงอำนวยให้เพราะไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรง

ปรากฏการณ์ที่ถูกพูดถึงที่ร้านน้อง ท่าพระจันทร์ ก็คือ คอนเสิร์ตของ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ซึ่งแสดงที่หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ ในยุคนั้นแฟนเพลงต่อคิวยาวจากหน้าร้านจนถึงหน้าประตูมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กระทั่งบัตร 2,500 ใบ หมดเกลี้ยงภายใน 1 ชั่วโมง

ลูกค้าที่เป็นรากฐานสำคัญของร้านน้อง ท่าพระจันทร์ ก็คือ นิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ เพราะที่นี่สนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของนักศึกษา เช่น ละครเวที ทั้งช่วยประชาสัมพันธ์ เปิดพื้นที่จำหน่ายบัตร เทปหรือซีดีเพลงประกอบ รวมถึงของที่ระลึก หลายๆ ครั้งโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หรือหักรายได้แต่อย่างใด นี่คือความยั่งยืนที่ทำให้ร้านอยู่มายาวนาน คือการไม่ได้มองในเชิงธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่มองในมุมธุรกิจเพื่อสังคมในเชิงเสียงเพลงและดนตรีด้วยส่วนหนึ่ง

การที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านขายเทป หากยังเคยเป็นทั้งสถานที่ที่แฟนเพลงและนักร้องกับคณะดนตรีได้มามีกิจกรรมร่วมกัน ไม่ว่าจะแจกลายเซ็น มินิคอนเสิร์ต ขายบัตรคอนเสิร์ต เป็นพื้นที่พบปะของคนฟังเพลงที่เป็นฟันเฟืองในธุรกิจดนตรี การเปิดและให้พื้นที่และสนับสนุนให้เกิดการสร้างสรรค์งานเพื่อโอบอุ้มวงจรธุรกิจเอาไว้

นอกจากร้านน้อง ท่าพระจันทร์ ยุคทองที่วงการเพลงของไทยฟูเฟื่องเรืองรุ่งแบบสุดๆ นั้น คนฟังมีเพลงให้เลือกฟังหลากหลาย ทั้งแนวเพลงกระแสหลักจากค่ายยักษ์ใหญ่ และการเริ่มต้นของค่ายเพลงเล็กๆ หรืออินดี้ ในสยามแควร์ก็มีร้านขัวญใจวัยรุ่นแถวนั้นและจากที่อื่นๆ ที่เที่ยวย่านสยามสแควร์ และสร้างยอดนักขายแห่งร้านเทปให้เป็นที่รู้จักของคนฟังเพลงและวัยรุ่นสยามนั่นคือ ‘เปี๊ยก ดีเจสยาม’ ธนโชติ เพียรเสมา เจ้าของร้าน DJ Siam ที่สืบทอดธุรกิจครอบครัวจากแผงเทปเล็กๆ หน้าร้านโดนัทเฟรนไชส์ชื่อดัง จนย้ายมาอยู่ใกล้เซ็นเตอร์พอยท์ และดังแบบสุดๆ ของร้านเทปย่านนั้น 

เปี๊ยกเคยให้สัมภาษณ์ว่า การขายเทปในยุคนั้น คนขายจะคุยกับลูกค้า ดูหน้าจำได้เลยใครชอบแนวไหน เป็นสายสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว คนขายจะเอนเตอร์เทนเชียร์ลูกค้า 

นั่นคือจุดแข็งของร้าน DJ Siam ที่เปี๊ยก คนเชียร์เทปจะมาแนวโหวกเหวก โวยวาย บางทีก็ยืนเต้น ชวนลูกค้าคุย ลูกน้อง 5 คนก็ไปแนวเดียวกัน ความรู้เรื่องเพลงไม่เก่งมาก แต่รู้จักกับลูกค้าวัยรุ่น คุยได้หมด บางทีก็ยืนเต้นเลย เอาให้ขำจนชนะใจลูกค้าที่แวะเวียนผ่านมา และกลายเป็นร้านเทปขวัญใจเด็กแนวในยุคทศวรรษที่ 2540-2550 ไปในที่สุด เคยมีลูกค้าวัยรุ่นผู้ชายให้สัมภาษณ์ว่า ชอบมาร้านเทป DJ Siam ไม่ว่าจะซื้อหรือเทปหรือไม่ซื้อก็ตาม แต่ต้องมาเพราะหญิงเพียบ

ร้านเทปที่เป็นชุมชนคนฟังเพลง หรือกลุ่มคนที่มีความชื่นชอบในแนวเพลงหรือนักร้องและคณะดนตรีเดียวกันมารวมตัวกันเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับดนตรีที่พวกเขาสนใจก็มีอีกหลายร้าน แยกกันไปในที่ต่างๆ ของกรุงเทพมหานครและในหัวเมืองรวมถึงจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย

สำหรับในกรุงเทพฯ เอง นอกจากร้านน้อง ท่าพระจันทร์ ร้านดีเจสยาม แล้ว ก็มีร้าน J.U. พันธุ์ทิพย์พลาซ่า  ร้านเจ๊จู ตำนานของคนฟังสายร็อกและเมทัล เจ๊มีความรู้ทางดนตรีแน่นปึ๊ก ใครอยากฝากของไว้ขาย  รวมทั้งจะโปรโมตเพลง เจ๊เค้าช่วยหมด ร้านเป็นพันธมิตรกับนิตยสารดนตรี Quiet Strom ทำให้มีนิตยสารเล่มนี้ขายทั้งฉบับปัจจุบันและย้อนหลัง รวมทั้งเป็นแหล่งรวมโน้ตแท็บกีตาร์มากมายจำหน่าย

ร้าน โด.เร.มี. สยามสแควร์ ร้านพี่น้องของเจ๊จูที่โดดเด่นไม่แพ้กัน แต่มีอัลบั้มของแนวดนตรีทุกแนวจัดจำหน่าย โดยเฉพาะเพลงสากลมีครบทุกชุดทุกอัลบั้มที่ต้องการ พร้อมมีตลับเทปเปล่าที่มีปกให้อ่านดูทุกอัลบั้มวางไว้ในการตัดสินใจซื้อ เจ้าของร้านความรู้เรื่องดนตรีทั้งกว้างและลึกเป็นที่พึ่งของคนฟังได้อย่างมาก เรียกว่าหัวก้าวหน้าและเปิดกว้างในการเปิดโสตให้กับคนฟังหน้าใหม่ๆ

ความจริงยังมีอีกหลายร้านที่จะหยิบยกมากล่าวถึงในการเล่าขานของการสร้างชุมชนทางเสียงเพลงของคนฟังเพลงที่เป็นมากกว่าร้านขายเทป แต่เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนสังสันทน์ทางดนตรีและเสียงเพลง มีกิจกรรมมากมาย เป็นที่พบปะของผู้คนในวงการเพลงมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ยังอาจมีการจัดกิจกรรมร่วมกันของคอเพลง เช่น การนัดเจอกันเพื่อไปดูคอนเสิร์ต ไปเที่ยว หรือจัดปาร์ตี้ฟังเพลง ซึ่งช่วยให้ความสัมพันธ์ในชุมชนแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ทั้งหมดเป็นภาพอดีตที่ยากจะหวนคืนในยุคดิจิทัล ออนไลน์ สตรีมมิ่ง ซึ่งชุมชนคนฟังเพลงและรักเสียงเพลงเปลี่ยนไปอยู่บนโลกเสมือนและโซเชียลมีเดียเป็นหลักใหญ่ แต่วันชื่นคืนสุขของชาวเทปคาสเส็ตต์ยังกรุ่นอวลกลิ่นอายเต้นระริกอยู่ในความทรงจำ….

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก