สวัสดีครับผม พี่คิมนะครับ ธีระศักดิ์ ผลงาม ทีมภูเก็ตครับผม
สวัสดีครับ กบ-ธนพัฒน์ นวลสกุล ทีมภูเก็ตครับ
คำกล่าวแนะนำตัวเองสั้นๆ ของ “คิม-ธีระศักดิ์ ผลงาม” และ “กบ-ธนพัฒน์ นวลสกุล” สองพี่ใหญ่แห่งทีมพี่เลี้ยงนางงามภูเก็ต ที่มานั่งพูดคุยกับ FEED ถึงเส้นทางการผันตัวทำหน้าที่พี่เลี้ยง และส่งนางงามในทีมของตนไปประกวด การันตีคุณภาพด้วยรางวัลมงกุฎในเวทีระดับประเทศมาอย่างต่อเนื่อง จนแฟนนางงามยกให้เป็นทีมพี่เลี้ยงนางงามที่แกร่งและเก่งที่สุดในยุคนี้
คิม ธีระศักดิ์ : จุดเริ่มต้นก็จะต้องกล่าวไปถึงทีมของน้องโบ้ น้องปอนด์ (เมคอัพอาร์ตทิส) นะครับ เมื่อก่อนเขาเป็นอาร์ตทิสในเรื่องของการแต่งหน้าอยู่ที่ภูเก็ต แล้วเขาได้รับลิขสิทธิ์จัดมิสแกรนด์ภูเก็ตที่เป็นรอบการจัดแบ่งภาคครั้งแรก น้องๆ เขาก็มาปรึกษาว่าจะทำยังไง อันนั้นก็เป็นจุดแรกที่เข้ามาทำตั้งแต่ปี 2016 ครับผม
นางงามคนแรกของทีม และการเฟ้นหาสาวงามในแบบฉบับทีมภูเก็ต
คิม ธีระศักดิ์ : คนแรกที่เราส่งเป็นมิสแกรนด์ภูเก็ต เป็นเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ได้น้อง “อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม” เป็นมิสแกรนด์ภูเก็ตคนแรกปี 2016
กบ ธนพัฒน์ : ตอนนั้นได้โปรเจ็กต์มิสแกรนด์ภูเก็ตมา แล้วผมเป็นคนที่ติดตามการประกวดตั้งแต่ผมอายุ 13 ปี ก็เลยจะจำหน้านางงามได้ว่าคนนี้เคยเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015 แต่เสียดายทำไมไม่เข้ารอบ แล้วน้องอแมนด้าเป็นคนภูเก็ต วันนั้นเขามากินข้าวที่ร้านตู้กับข้าวที่เราทำกันอยู่
คิม ธีระศักดิ์ : ก็เลยเกิดการทาบทามขึ้น น้องก็ไม่รับปาก แต่วันรับสมัครวันสุดท้าย น้องก็มาสมัคร
กบ ธนพัฒน์ : อแมนด้า เรามองเห็นความเป็นสตาร์ในตัวน้องโดดออกมาเลย มากกว่าการเป็นนางงาม เรามีความคิดตั้งแต่แรกๆ ว่านางงามในรูปแบบของเราต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง มีคาแรกเตอร์ชัด
คิม ธีระศักดิ์ : จริงๆ ทีมภูเก็ตเวลาเรามองนางงาม เราจะมองในลักษณะของตัวบุคคล เรามองน้องข้ามช็อตว่าน้องเขามีความสามารถมากกว่านี้ จะบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ มันหนักกว่าที่เราคิดแต่ว่าทุกอย่างมันก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ก็ถือว่าจากปี 2016 ถึงปัจจุบัน ทีมภูเก็ตก็ประสบความสำเร็จมาตลอด ด้วยการที่เราคิดว่าทีมอย่างน้องปอนด์ น้องโบ้ พี่กบ (เมคอัพอาร์ตทิส) เอง เขาก็ทำงานหนักในเรื่องของการครีเอท ว่าเราได้นางงามมาหนึ่งคน มันยากที่เราจะปั้นต่อ เพื่อจะเข้าเวทีใหญ่
เริ่มต้นจากปี 2016 มาจนถึงตอนนี้ กับผลงานความสำเร็จ คว้ามงกุฎ 5 เวทีใหญ่ได้สำเร็จ
กบ ธนพัฒน์ : ตั้งแต่ปี 2016 ที่ได้มงใหญ่ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ก็มี อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสไทยแลนด์เวิลด์ก็มี “วัลเณซ่า ณฉัตร เมืองโคตร” นางสาวไทยก็มี “มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์” ปีล่าสุด มิสซูปราเนชันแนลไทยแลนด์ มี “น้องควีน เบญจรัตน์ อัครวณิชศิลป์” แล้วก็มิสแกรนด์ไทยแลนด์ “น้องมอส น้ำอ้อย ชนะพาล” ครับ เราได้นางงามมาหนึ่งคน เราก็มานั่งวิเคราะห์ก่อน ข้อดีข้อเสียของเขาคืออะไร จุดแข็งของเขาคืออะไร
กบ ธนพัฒน์ : ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ก็มี “ทารีน่า โบเทส” รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2021, “อมันดา อแมนด้า เจนเซ่น” รองอันดับ 1 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 และล่าสุดกับน้อง “เรเน่ เรนิตา เวโรนิก้า ปากาโน” ที่เพิ่งได้รองอันดับ 4 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 มา
คิม ธีระศักดิ์ : พี่ว่าการมองนางงามหรือการทำนางงาม สมัยใหม่มันเปลี่ยน เปลี่ยนจากยุคก่อนๆ นะครับ เราเห็นมาทุกยุคตั้งแต่เราจำความได้ การพัฒนานางงามมันพัฒนาไปเรื่อยๆ นางงามเมื่อก่อนสวยต๊ะต่อนยอนอะไรทุกอย่างได้หมด แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ เดี๋ยวนี้นางงามต้องเป็นนางงามพร้อมใช้จริงๆ
การคัดเลือกเด็กเข้าไปร่วมทีมเพื่อส่งประกวด เห็นชัดว่าที่ผ่านมาทีมภูเก็ตส่งแต่นางงามลูกครึ่งเข้าประกวดทั้งนั้นเลย ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
คิม ธีระศักดิ์ : อันนี้เป็นคำถามที่หลายท่านถามทำไมภูเก็ตถึงได้ลูกครึ่งเยอะ อันนี้ก็อยู่ที่เด็กมาสมัคร จริงๆ หน้าไทยนี่ชอบมาก อย่างน้อง “น้ำตาล ชาลิตา ส่วนเสน่ห์” พี่กับพี่กบก็บินไปดูที่ฟิลิปปินส์ ชอบมาก สตั๊นท์มาก แล้วก็มีความรู้สึกว่าหน้าไทยนี่สวยจริงๆ นะ แล้วพอมาอยู่ในเวทีอินเตอร์มันเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วมีเสน่ห์
กบ ธนพัฒน์ : มันอยู่ที่ว่าคนที่เข้ามาที่เราเจอตอนนั้น คนที่คลิกแล้วเป็นตัวของตัวเอง ส่วนใหญ่มาเป็นลูกครึ่งอย่างนี้ดีกว่า
คิม ธีระศักดิ์ : คือลูกครึ่งหรือหน้าไทยจริงๆ เรารับหมดนะครับ ขอให้มีความสามารถ ทำไมเราถึงได้แต่ลูกครึ่ง ทีมภูเก็ตไม่เปลี่ยนบ้างหรอ เอาหน้าไทยบ้าง ก็อยากจะเปลี่ยนนะครับ แต่ว่าคนที่มาสมัครกับเรา เรายังไม่เห็นถึงความสามารถที่เราจะทะลุทะลวงเข้าไปถึง เพราะฉะนั้นเราก็มองความสามารถ หนึ่งแน่นอนในเรื่องของรูปลักษณ์หน้าตา แต่ที่สำคัญที่สุด อินเนอร์และความคิด
เมื่อถามถึงการปั้นนางงามที่ผ่านมือมาในหลายๆ ปี คิดว่า “จุดแข็ง” ของทีมและตัวนางงามคืออะไร และ “จุดอ่อน” อะไรบ้างที่ทีมภูเก็ตยังก้าวข้ามไม่สำเร็จบ้าง คิม ธีระศักดิ์ เผยว่าจุดแข็งของทีมคือความเป็นทีมเวิร์ค ส่วน กบ ธนพัฒน์ มองว่าการคัดเลือกนางงามต้องเป็นคนที่พร้อมใช้พร้อมประกวดจริงๆ ส่วนจุดอ่อนที่ยังต้องเร่งพัฒนาและผ่านไปให้ได้ ทั้งสองพูดเป็นเสียงเดียวกันคือเรื่องการตอบคำถาม
คิม ธีระศักดิ์ : จุดแข็งของทีมภูเก็ต ถ้าพี่มองนะครับ พี่จะมองถึงทีมเวิร์ค เราจะเปิดใจในการทำงาน พี่ถือว่าความแข็งแกร่งก็คือการเปิดใจในการทำงานของทีม เพราะพี่ถือว่าแต่ละคนมีหน้าที่มีความถนัดต่างกัน ฉะนั้นเมื่อเรามารวมกันแน่นอนบางทีคุยกันอาจจะไม่ถูกใจกันในเรื่องบางเรื่อง หรืออาจจะไม่เห็นต้องตรงกันทุกเรื่อง แต่เราจำเป็นจะต้องเปิดใจแล้วมาคุย แล้วเอาสิ่งที่ดีที่สุดใส่ไปในทีม นั่นพี่ว่ามันจะเป็นความแข็งแกร่งมากกว่า แล้วก็เราทำด้วยใจ จะบอกว่าแต่ละคนมาทำในทีมภูเก็ต เราไม่ได้มีเงินเดือนนะครับ เราทำเราชอบในสิ่งที่เรารักเหมือนกัน
กบ ธนพัฒน์ : ตัวนางงามของทีมเราพูดได้ว่าเป็นนางงามพร้อมใช้ หนึ่งเลยคือแต่งหน้าทำผมเองต้องเป็น ฉุกเฉินไม่มีช่างก็ต้องทำได้ และต้องมีไหวพริบ
คิม ธีระศักดิ์ : ต้องมีสติ อันนี้คือความสามารถของนางงามที่เราเทรนมาแล้วก็เราฝึกน้องมา แล้วก็สอนให้น้องทำ เพราะเราถือว่าเมื่อไรที่น้องไปคนเดียวแล้วทีมไม่ได้ไป หนูต้องรอด ไม่ใช่หนูจะต้องมาพึ่งทีมตลอด ไม่ใช่ ชีวิตจริงที่หนูไป หนูจะต้องอยู่คนเดียว เพราะฉะนั้นหนูต้องทำเองให้เป็น
กบ ธนพัฒน์ : ก่อนหน้านี้เคยมีจุดอ่อนด้านการเดินที่เรายังไม่คล่อง แล้วก็การตอบคำถามที่ยังไม่สุด เราก็พยายามพัฒนาสิ่งเหล่านี้มาเรื่อยๆ มีการจ้างอาจารย์ที่เก่งๆ มาสอน หรือไม่ก็เลือกนางงามที่เก่งๆ มาเลย
คิม ธีระศักดิ์ : อย่างพี่บอกว่าเทรนด์นางงามมันเปลี่ยน ตอนนี้จะสวยอย่างเดียวไม่ได้ สมองก็ต้องมี เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้ต้องมาเสริมในเรื่องของการตอบคำถาม ถ้าเราได้ติดตามเวทีนางงามของบ้านเรา เราก็พัฒนาไปไกลมากแล้ว นางงามเดี๋ยวนี้จะต้องสมาร์ท ต้องฉลาดในเรื่องของการตอบ โอเคไม่จำเป็นที่จะต้องฉลาดเหมือนได้เกียรตินิยม แต่น้องจะต้องแก้ไขสถานการณ์ ณ ตอนนั้นได้ คำถามคำตอบน้องจะต้องแหลมคมไม่ใช่วนเป็นอ่างอยู่ตรงนั้น ทีมภูเก็ตเราก็พยายามพัฒนาส่วนนี้ ปกติเราจะไปเน้นในด้านเพอร์ฟอร์แมนซ์ แต่ตอนนี้เพอร์ฟอร์แมนซ์อย่างเดียวไม่รอด จะต้องเอาความสามารถในสมอง การตอบคำถาม การมีไหวพริบ ออกมาให้มากขึ้น
กบ ธนพัฒน์ : เรารู้สึกว่าภายนอกทุกคนสวยเหมือนกัน สิ่งที่แตกต่างคือภายใน ความคิด การพูด ฉลาดคิดฉลาดพูดไม่พอ ต้องมีสติด้วย เพราะบางทีพออยู่ต่อหน้างาน หน้ากล้องจริงๆ ต่อหน้ากรรมการ ตื่นเต้นถ่ายทอดสิ่งที่รู้ออกมาได้ไม่หมด ข้อนี้คือที่เราจะต้องไปฝึกเหมือนกัน คือเรื่องการมีสติ ในการทำงานทุกอย่าง
คิม ธีระศักดิ์ : การเทรนการตอบคำถามเราจะมีน้องปอนด์เป็นคนสกรีนคำถามจากอดีตถึงปัจจุบัน คัดมาแล้วก็สุ่มแล้วก็ให้น้องลองตอบ ปัจจุบันเราบอกน้องว่าด้วยการเป็นประชาธิปไตย หนูสามารถพูดในสิ่งที่หนูอยากพูดได้ พูดในสาธารณะมันไม่ผิด แต่อย่าสุ่มเสี่ยงในเรื่องบางคำหรือชื่อบุคคลที่มันสุ่มเสี่ยงก็หลีกเลี่ยง เดี๋ยวนี้นางงามจะต้องเป็นกระบอกเสียง ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว เพราะฉะนั้นนางงามก็จะเป็นเหมือนคนๆ หนึ่งที่หาเสียง หนูจะหาเสียงยังไงให้ทุกคนมาฟังหนูพูด เชื่อหนู หนูจะโน้มน้าวจิตใจเขายังไงเพื่อที่จะให้เขาเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้สามารถนำพาเขาได้
กบ ธนพัฒน์ : เราพยายามให้เด็กของเรากล้าที่จะพูดมากขึ้น แต่ต้องเข้าใจว่าเด็กไทยขี้เกรงใจ กลัวพูดแล้วกระทบความรู้สึกใคร แต่นางงามรุ่นใหม่ต้องกล้าที่จะพูด ถ้าคุณอยากจะเป็นกระบอกเสียงให้กับคนรุ่นใหม่ อันนี้เราก็เลยมานั่งปรับว่า เธอต้องกล้านะ เธอว่าเธอไหวไหมพูดเรื่องแบบนี้ ก็ต้องมานั่งคุยกัน ปรับความเข้าใจกัน
ด้วยจำนวนมงกุฎที่การันตีถึงความสำเร็จในการปั้นนางงาม ทำให้แฟนนางงามยกทีมภูเก็ตขึ้นเป็นทีมตัวเต็ง อย่างน้อยต้องไปถึงท็อป 5 หรือรอบจับมือได้อย่างแน่นอน ความหวังของแฟนๆ ที่มาพร้อมกับความกดดัน เมื่อต้องส่งนางงามเข้าประกวดครั้งต่อไป
กบ ธนพัฒน์ : เราเริ่มต้นจากทำด้วยใจรัก แล้วก็ไม่ได้คิดว่าต้องเป็นทีมตัวเต็ง พูดตรงๆ มีคิดบ้างว่าเขาจับตามองเราขนาดนั้นเลยเหรอ เราอาจจะไม่ได้มงทุกปีหรอก มันเป็นไปไม่ได้ แต่เราพยายามส่งผู้เข้าประกวดที่ดีที่สุดในแต่ละเวทีอย่างนี้ดีกว่า
คิม ธีระศักดิ์ : เมื่อก่อนเราทำกันแบบสนุกๆ เราทุ่มเทความรู้ความสามารถของแต่ละคนเข้าด้วยกัน แล้วก็โชคดีที่ผลลัพธ์ออกมามันตอบรับกับการทำงานของเรา พอเรามาอยู่ในสปอตไลท์ก็มีความรู้สึกว่าเราต้องระวังมากขึ้น ระวังของพี่หมายความว่าเราจะทำอะไร คัดเลือกอะไรต่างๆ ต้องเข้มข้นมากขึ้น คัดสรรน้องด้วยความสามารถจริงๆ จะบอกว่าภูเก็ตทำมาทุกปีเราไม่เคยล็อกใครเลยนะครับ
กบ ธนพัฒน์ : อยู่ที่เจ้าของเวที อยู่ที่การเก็บตัวต่างๆ น้องต้องพิสูจน์ระหว่างทางตอนเก็บตัวให้ได้ว่าน้องเหมาะสม ที่จะได้รับตำแหน่งที่วางไว้หรือเปล่า
ในฐานะคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนางงามในทีม ผ่านมาหลายเวที เห็นวิวัฒนาการนางงามของบ้านเรายังไงบ้าง
กบ ธนพัฒน์ : เวทีนางงามสมัยนี้ จะมีความเป็นแฟนคลับ มีด้อม มีโอเพนแชทเป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้นคือนางงามยุคนี้จะต้องมีความเป็นซูเปอร์สตาร์ ต้องหาคนที่พร้อมใช้ ทำอะไรหลายๆ อย่างได้ เป็นกระบอกเสียงให้คนอื่นได้ วิธีการดูนางงามและวิธีการเลือกนางงามปีหลังๆ นี่จะสนุกมากขึ้น จะมีความเป็นเอนเตอร์เทนมากขึ้น
คิม ธีระศักดิ์ : พี่มองว่าเดี๋ยวนี้นางงามจะต้องมีอินเนอร์ มีแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น เมื่อก่อนนางงามแค่ความสวยอย่างที่พี่บอก แต่เดี๋ยวนี้นางงามเปลี่ยนไปแล้ว นางงามปัจจุบันจะต้องเอาทุกอย่างอยู่ ต้องมีความรู้ความสามารถมากขึ้น อันนี้มันก็จะย้อนกลับไปที่ตัวน้องๆ นางงามที่จะมาประกวดที่จะต้องฝึกฝนกันมากขึ้น ไม่ใช่เอาแค่ความสวยอย่างเดียวอีกต่อไป เดี๋ยวนี้น้องนางงามจะต้องเดินไปหากล้อง จะต้องหาซีนหาสปอร์ตหาแสงให้ตัวเอง
กบ ธนพัฒน์ : เหมือนดาราครับ เหมือนเรารู้ตัวว่ายังไม่ดัง เราก็ต้องหาซีนหาแสงให้ตัวเอง วงการนางงามก็เหมือนกัน ตั้งแต่เป็นผู้เข้าประกวดก็ต้องหาซีนหาแสงให้ตัวเอง การแข่งขันเริ่มตั้งแต่อยู่ในกองแล้วครับ เพราะฉะนั้นคนที่ได้ที่ 1 เลยต้องเข้มแข็งมาก
คิม ธีระศักดิ์ : อีกอย่างคือเดี๋ยวนี้โซเชียลสำคัญที่สุดนะครับ ใครมีแฟนคลับมากที่สุดอันนั้นถือว่าโชคดี เพราะฉะนั้นเนี่ยมันก็เลยทำให้การประกวดปัจจุบันเปลี่ยนไป
ที่ผ่านมาแม้ว่าทีมภูเก็ตจะประสบความสำเร็จในการส่งนางงามไปคว้ามงกุฎเวทีในประเทศได้เกือบครบทุกเวที แต่ความสำเร็จก็มาพร้อมกับกระแสวิจารณ์เสมอ เรื่องนี้ทั้ง คิม ธีระศักดิ์ และ กบ ธนพัฒน์ ยืนยันว่าทีมน้อมรับทุกคำวิจารณ์จากแฟนๆ นางงามด้วยความยินดีเสมอ เพราะถือเป็นเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนานางงามในทีม
คิม ธีระศักดิ์ : อันนี้ชอบมาก อย่าชมเราเยอะ ติเราบ้าง ติเราได้เลย เพราะว่าทีมชอบคำติมากกว่า เพื่อที่จะเอามาพัฒนาให้กับน้องๆ หรือทีม บางครั้งเรามองในกลุ่มว่ามันครบถ้วนแล้ว แต่ว่าสู้กับคนข้างนอกเขามองเราไม่ได้ เขาก็จะบอกว่าพี่เสริมจุดนี้ๆ เราก็มาลิสต์ดูว่าอันนี้จริง อันนี้ได้ แล้วเอาไปปรับเปลี่ยนแก้ไข สำคัญที่สุดติชมเรามาได้เลย เราชอบนะครับ ชอบมาก บางครั้งบางจุดเราคิดว่ามันโอเค แต่เขามองแล้วมันไม่ได้เราก็แก้ไขทันที
กบ ธนพัฒน์ : ขอบคุณมากนะครับที่สนับสนุนทีมภูเก็ตมาตลอด ทีมเราก็เป็นทีมเล็กๆ ที่เรามีใจรัก มีความฝันที่อยากจะพัฒนาผู้หญิงคนหนึ่งให้ไปได้ไกลที่สุด เป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของตัวเขาเอง เราก็รู้สึกดีไปด้วย ในระหว่างทางที่น้องเดินบนเวที พวกเราและทีมก็เดินไปกับเขาด้วย ก็อยากให้แฟนนางงามเรียนรู้พวกเรา เรียนรู้จากนางงามของเราว่าเราพยายามเลือกคนที่ดี ให้ดูเด็กของเราว่าเด็กเรามีวินัย มีความตั้งใจขนาดไหน แล้วก็จะทำให้ดีที่สุดในทุกหน้าที่อย่างนี้ต่อไปครับ
คิม ธีระศักดิ์ : สำหรับพี่คิมนะครับ ก็ขอบคุณแฟนๆ ทีมภูเก็ตทุกท่านนะครับ แล้วก็แฟนๆ นางงามในทีมภูเก็ต ก็ดีใจที่แฟนๆ ได้ติดตามเรา แล้วก็สัญญานะครับว่าเราจะพัฒนาแล้วก็ทำงานอย่างสุดความสามารถและตรงไปตรงมานะครับ ทุกอย่างอยู่ที่ศักยภาพของนางงามที่เราได้มา เชื่อครับว่าทุกคนอยากให้น้องนางงามของทีมภูเก็ตไปได้ดีที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ฝากว่าติชมน้องๆ ได้ แต่ขอให้อยู่ในขอบในเกณฑ์ คือน้องก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สานความฝัน ทีมเป็นกลไกตัวหนึ่ง ที่ช่วยส่งเสริมน้องให้ไปถึงฝัน แฟนคลับก็เป็นกลไกส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันน้อง เพราะฉะนั้นเรามาช่วยกันในสิ่งที่ดีๆ นะครับ ทีมสัญญาว่าคำติชมทุกคำ เราจะเอามาพัฒนาเพื่อเราจะก้าวเดินไปด้วยกัน เพื่อที่จะได้ส่งน้องให้ไปสู่จุดหมายที่น้องหวัง ก็ขอบคุณอีกครั้งนะครับ สำหรับแฟนๆ ทีมภูเก็ตและทีมนางงามภูเก็ต ขอบคุณมากครับ