“มีบางคนชอบพูดว่าคนนี้ไม่จริงใจกับเมืองไทย ไปเที่ยวจังหวัดนี้ทำไมไม่กินอันนี้ ไม่ไปที่นี่ ตอนนั้นผมรู้สึกเศร้ามากๆ ผมทำไม่ได้หรอกถ้าไม่รักเมืองไทย ผมชอบพูดว่ารักเมืองไทยนะครับ แต่ว่ารู้สึกผิดว่าเรารู้จักเมืองไทยจริงไหม ก็เลยเริ่มทำโปรเจกต์เที่ยว 77 จังหวัด”
อิลฮงมิน (IL Hong Min) หรือ โอปป้าฮง ยูทูบเบอร์ชาวเกาหลี หรือที่รู้จักในชื่อ Bangkokboy ในวัย 32 ปี เล่าชีวิตในวัยเด็กที่ไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ในสัมภาษณ์พิเศษผ่านช่องทาง FEED ว่าทางครอบครัวของเขามีหนี้สินและไม่มีงานทำที่เกาหลีใต้ จึงย้ายไปอยู่ที่จีน แต่โชคดีที่มีบริษัทเรียกตัวคุณพ่อมาทำงานที่จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย ถือเป็นโอกาสของคุณพ่อคุณแม่ จึงย้ายมาอยู่ที่ไทยตั้งแต่ตัวเองยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เมื่อเดินทางมาถึง โอปป้าฮง ก็ได้เรียนรู้ภาษาไทย แต่ก็ถูกเพื่อนๆ แกล้งสอนคำหยาบแทนคำกล่าวทักทาย
“เขาถามผมว่าพูดไทยได้ไหม ผมก็บอกว่าพูดไม่ได้ เขาเลยสอนภาษาไทยให้ และบอกผมว่าพ่อมึงตาย คือสวัสดีครับ ผมก็เชื่อแบบร้อยเปอร์เซ็นต์และไปพูดคำนั้นกับคุณครู”
เมื่อเรียนไปเรื่อยๆ จนถึงระดับมัธยมปลายก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่เมื่อเรียนไปแล้วกลับรู้สึกว่าการเรียนไม่สนุก และความฝันที่อยากเป็นแรปเปอร์ก็ยังดังก้องอยู่ในหัว จึงตัดสินใจฉีกกระดาษข้อสอบและซื้อตั๋วบินกลับไปยังบ้านเกิดเพื่อตามหาความฝัน โดยไม่บอกครอบครัว แต่เมื่อเวลาผ่านไปกว่า 7 ปี เขาก็รู้สึกท้อ เพราะไม่ว่าเขาจะพยายามมากเท่าไหร่แต่ก็ยังหาเงินไม่ได้ และไม่มีชื่อเสียง จึงตัดสินใจยอมแพ้

จุดเริ่มต้นช่อง Oppa Hong
จนกระทั่งปี 2019 ช่วงการระบาดของโควิด ก็ได้รับโอกาสเข้าร่วมรายการ Show Me The Money Thailand 2 จึงคิดว่านี่คือโอกาสสุดท้ายแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดก็ทำให้รายการต้องหยุดการถ่ายทำไปนานกว่า 2 เดือน ตอนนั้นเขารู้สึกโลกทั้งใบเหมือนกำลังพยายามจะลบเขาออกไป แต่คำพูดของพ่อที่แนะนำให้ไปออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักก็ทำให้คิดบางอย่างขึ้นมาได้ จึงตัดสินใจออกกำลังกายลดน้ำหนัก 20 กิโลกรัม จาก 90 กิโลกรัมในตอนนั้น และถ่ายรูปความสำเร็จของตัวเองโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ทำให้มีผู้ติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ จึงตัดสินใจลองเปิดไลฟ์ เพราะอยากรู้ว่าจะมีคนดูกี่คน และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของช่องโอปป้าฮง
กำลังใจตลอด 7 ปี

ในช่วงที่เขากำลังพยายามอย่างหนักเพื่อเดินตามความฝัน สิ่งที่เป็นกำลังใจสำคัญให้เขาเดินทางมาถึงวันนี้ได้คือรักแรก ที่ช่วยประคับประคองกันตั้งแต่ที่เขายังไม่มีชื่อเสียง ไม่มีเงิน แต่สุดท้ายก็เลิกรากันไป ถ้าพูดกับรักแรกได้อีกครั้งก็อยากจะบอกว่าขอบคุณมากครับ
“เขาทำให้ชีวิตผมเปลี่ยน แต่ที่เศร้าก็คือพอมีชื่อเสียงแล้ว มีใบขับขี่มีรถยนต์แล้ว มีเงินซื้อทงคัตสึให้เขาแล้ว พอมีทุกอย่างเขาไม่อยู่แล้ว ผมเลิกกัน แต่ถ้าไม่มีเขาผมอาจจะไม่ได้สัมภาษณ์ในวันนี้แน่นอน”
เที่ยวไทย 77 จังหวัด
อีกหนึ่งโปรเจกต์ที่โอปป้าฮง ทุ่มเทสุดใจ นั่นคือโปรเจกต์เที่ยวไทย 77 จังหวัด ซึ่งใช้เวลาทำเกือบ 2 ปี แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานอกจากเสียงชื่นชมก็มีเสียงตำหนิ ทำให้เขารู้สึกเศร้ามาก แต่มันก็ทำให้เขาโตและแข็งแรงขึ้นเช่นกัน
“มีบางคนชอบพูดว่าคนนี้ไม่จริงใจกับเมืองไทย ไปเที่ยวจังหวัดนี้ทำไมไม่กินอันนี้ ไม่ไปที่นี่ ตอนนั้นผมรู้สึกเศร้ามากๆ ผมทำไม่ได้หรอกถ้าไม่รักเมืองไทย ผมชอบพูดว่ารักเมืองไทยนะครับ แต่ว่ารู้สึกผิดว่าเรารู้จักเมืองไทยจริงไหม ก็เลยเริ่มทำโปรเจกต์เที่ยว 77 จังหวัด

ถ้าใช้คำว่าไม่สนุกเลยอันนี้โอเค เพราะว่าอาจจะไม่สนุกก็ได้ แต่โมโหว่าคนที่บอกว่าไม่ใช่ตัวจริง น่าจะทำเพื่อเงิน ทำเพื่อกระแส ซึ่งผมไม่เคย ช่องโอปป้าฮงก็ไม่ค่อยได้กระแสนะ ยกเว้น EP ที่มีดราม่า และช่องผมไม่ค่อยได้เงิน ถึงจะได้เงินบ้าง แต่ต้องจ่ายค่าตัดต่อผมที่ทำต่อเพราะว่าผมรักเมืองไทยแค่นั้น”
โอปป้าฮง ยังเล่าว่าตัวเขาไม่มีศาสนา แต่จากการเดินทางทำให้มีโอกาสเข้าวัดเยอะมาก เจอหลวงพ่อที่คอยสอนให้ฝึกความอดทน ส่งผลให้มีพลังใจ และทุกครั้งที่นึกถึงพระก็จะรู้สึกสบายใจ ทำให้มีความเชื่อว่าทุกๆ การกระทำมันจะส่งผลกลับมาที่ตัวเราเอง หรือที่คนไทยเรียกว่าเวรกรรมมีจริงนั่นเอง
ส่วนปีศาจที่ทำให้เขารู้สึกกลัวที่สุดคือความโดดเดี่ยว ความกลัวนี้มันแอบอยู่ในใจเหมือนกับแมลงสาบ หากวันใดมันแสดงตัวออกมามันจะทำให้เขารู้สึกขี้เกียจ ไม่อยากทำงาน และอยากตาย แต่โชคดีที่เขามีคนรอบข้างที่คอยซัพพอร์ตช่วงนี้จึงไม่มีเจ้าแมลงสาบแล้ว

เป้าหมายชีวิต
เป้าหมายในชีวิตของโอปป้าฮง เมื่อก่อนเขาเคยอยากมีเงิน 10 ล้าน 100 ล้าน 1,000 ล้าน แต่เมื่อทำโปรเจกต์ 77 จังหวัดเสร็จ ก็ได้เรียนรู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือเรามีความสุขไหม และอยากให้แฟนคลับมีความสุข สุขภาพแข็งแรงมากที่สุด แต่เงินก็ยังคงสำคัญมากอยู่ดีเพราะเงินคือหนทางในการแก้ไขทุกอย่าง “ช่วงนี้พยายามจะขายหล่อบ้างนะทุกคน แต่ว่ามันขนลุก ผมก็จะพยายาม พี่เฟิร์นบอกว่าลูกค้าจะมาติดต่อถ้าขายหล่อบ้าง ผมจะพยายาม และอยากจะบอกว่าขอบคุณที่ติดตามตลอด ช่วงนี้ถ่ายซีรีส์บ้าง ถ่ายหนังบ้าง น่าจะออกในปีนี้แน่นอน เดี๋ยวรอติดตามนะครับทุกคน แล้วก็สามารถติดตามช่องผมได้เลยนะครับ”