“กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี่” ถือเป็นอีกหนึ่งยอดมวยของประเทศ เขาเกิดและเติบโตที่จังหวัดหนองบัวลำภู เคยผ่านสังเวียนมาหลายสนามทั้งมวยไทย มวยไทยสมัครเล่นและมวยสากลสมัครเล่น ดีกรีอดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต ก่อนจะถูก “ฮิโรกิ อากิโมโตะ” ผู้ท้าชิงจากแดนซามูไรกระชากเข็มขัดปลิวไปต่อหน้าต่อตาในศึก ONE X
ชีวิตนอกสังเวียนของกัปปิตัน เขาเป็นตัวอย่างที่ดีให้นักมวยไทยคนอื่นๆ ได้เดินตามรอย เพราะเจ้าตัวลงทุนทำธุรกิจเลี้ยงไก่ชน และทำฟาร์มวัว โดยหวังว่าจะเป็นอาชีพหลัก หลังจากเลิกชกมวยแล้ว ไปทำความรู้จักนักชกเจ้าของฉายา “ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง” ให้มากขึ้นกันดีกว่า
ช่วยแนะนำตัวให้ทุกคนรู้จักหน่อย
กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี่ : สวัสดีครับ ผมนายอนึ่ง คัฒมารศรี อยู่จังหวัดหนองบัวลำภู ชื่อชกมวย กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี่
ทำไมถึงได้ฉายาว่า “ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง”
กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี่ : เมื่อก่อนตัดผมบ๊อบ ไว้บ๊อบหน้าม้า กะลาครอบประมาณนี้ แต่ก็ดีครับ มีคนตั้งฉายาให้
ช่วยเล่าจุดเริ่มต้นของการเป็นนักมวยไทยให้ฟังหน่อย
กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี่ : ผมเริ่มหัดมวยตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ผมมีพี่น้องด้วยกัน 2 คน ผมเป็นคนเล็กและมีพี่สาว 1 คน ส่วนฐานะทางบ้านก็ค่อนข้างยากจน พ่อแม่ทำสวนทำไร่ทำนา จำความได้ก็ไปดูมวยกับพ่อในทีวีในหมู่บ้าน พอดีมีครูมวยมาเปิดค่ายใหม่ในหมู่บ้าน ก็เริ่มชวนเพื่อนในหมู่บ้านไปหัดมวย ไปซ้อมมวยด้วยกัน ซ้อมประมาณ 1 เดือน มีงานประจำปีแถวบ้านพวกงานบุญบั้งไฟ
ผมขึ้นไปชกครั้งแรก แพ้น็อก แต่ไม่ท้อ และแพ้ติดต่อกันถึง 6 ไฟต์ จนพ่อแม่บอกให้เลิก ก็ไม่ยอมเลิก ผมยังอยากชกอยู่ ก็เลยขอพ่อแม่ชกต่อ จากนั้นไฟต์ที่ 7 ก็เสมอ ไฟต์ที่ 8 ถึงมาชนะได้
ชีวิตหลังจากนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ทราบว่าต้องย้ายเข้ามาอยู่ที่กรุงเทพฯ
กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี่ : จุดเริ่มต้นคือมีน้าที่ทำงานที่กรุงเทพฯ พอดีน้าอยู่ใกล้ค่ายมวย คือค่ายมวยเพชรศิริยิม แล้วก็มีอาจารย์คนหนึ่งเป็นครูมวยอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่บ้านเขาอยู่ที่หนองบัวลำภูเหมือนกัน พอดีเขาพามวยจากที่กรุงเทพฯ ลงไปชกที่หนองบัวลำภู วันนั้นผมก็ชกด้วย เขาเห็นแววก็เลยชวนผมมาอยู่ที่กรุงเทพฯ
ผมมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ตอนเรียน ป.5 รู้สึกลำบาก ต้องเดินทางไปโรงเรียนเอง รีดเสื้อผ้าเอง ชกมวยหาเงินไปเรียนเองตั้งแต่เด็ก เคยชนะเดิมพันเยอะที่สุดต่อยที่โคราช ชนะเพชรสกล เอฟ.เอ.กรุ๊ป เดิมพัน 4 แสนบาท พิกัดน้ำหนัก 30 กิโลกรัม ตอนนั้นก็เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้นในนาม “ดีเซลเล็ก เพชรศิริยิม” เป็นดาวรุ่งขึ้นมา
หลังจากนั้นผมหายไปจากวงการมวย เพราะหัวหน้าค่ายปล่อยทิ้ง ไม่มีคนสนับสนุน ผมต้องต่อยตามเวทีภูธร หาคนจัดเอง หารายการเอง ไปต่อยเองคนเดียว จนผมก็ได้เข้าไปถามหัวหน้าค่ายเก่าว่าผมจะซื้อตัวผมคืนจากหัวหน้าค่ายเก่า อยากใช้สิทธิคืน ถ้าเขาไม่ดูแล ไม่สนับสนุนแล้ว เพราะเขาไม่ทำมวยและปิดค่ายไปแล้ว ผมก็ได้เข้าไปคุย แล้วก็ซื้อตัวเองออกมาจากค่ายเก่า
จากนั้นก็มาอยู่ที่ค่ายเพชรยินดีใช่ไหม
กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี่ : ผมมาอยู่กับเสี่ยโบ๊ท (ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์) มาอยู่กับเพชรยินดี มันมีกำลังใจที่จะซ้อมต่อ เสี่ยเป็นคนที่รักนักมวยมาก คือให้กำลังใจ เรามีกำลังใจที่จะสู้ต่อ ก็รู้สึกดี เรื่องการกิน การดูแลดี คือมีกำลังใจซ้อม ไม่มีดุ ไม่มีด่า
มองอนาคตของตัวเองไว้อย่างไรบ้าง
กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี่ : ผมอยากมาชกรายการ วัน แชมเปียนชิพ อยากมีค่าตัวหลายๆ ล้าน อยากโชว์ฝีมือที่เรามี อยากพัฒนาให้คนอื่นเห็น ให้คนอื่นได้รู้ในสิ่งที่เรามี ส่วนจุดเด่นของผมคือเป็นคนที่ออกอาวุธได้เร็ว แล้วก็เลือกอาวุธที่จะใช้ เพื่อทำให้คู่ชกเจ็บ
ทราบว่ากัปปิตันวางแผนทำธุรกิจด้วย หลังจากเลิกชกมวยแล้ว
กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี่ : ตอนนี้เลี้ยงไก่ชนเป็นอาชีพเสริม แล้วก็เริ่มเปลี่ยนมาทำฟาร์มวัว ตอนนี้คือชกมวยเสร็จ ก็ลงทุนไปที่ฟาร์มวัว คือลงทุนซื้อวัวเข้าฟาร์ม ก็น่าจะมีหลักล้าน ผมมองไว้เป็นอาชีพหลักเลยตอนนี้ คือทุกอย่างทำไว้ตรงนั้นหมด ถ้าเลิกชกไปก็คิดว่าจะไปทำตรงนั้น
“ผมขอขอบคุณที่ช่วยติดตามเชียร์ผลงานของผม ผมก็จะพยายามพัฒนาฝีมือตัวเองให้ดีขึ้นไป คือจะแก้ไขจุดที่เสียทุกๆ ครั้ง แล้วก็พัฒนาให้มันดีขึ้นทุกๆ ครั้ง”
กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี่ กล่าวทิ้งท้าย