เชื่อว่าหลาย ๆ คนเวลามีบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างรอยถลอก แมลงกัด มีดบาด หรือแผลจากของมีคม ก็คงไม่ได้รู้สึกกังวลและดูแลอะไรเป็นพิเศษ ด้วยคิดว่าปล่อยไว้ไม่นานก็คงหายเอง แต่จริง ๆ แล้วการไม่ดูแลแผลให้สะอาด อาจทำให้เชื้อโรคเข้าไปในแผลจนเกิดอาการปวด บวมแดง และเกิดความผิดปกติรอบบาดแผล ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายของ “โรคแบคทีเรียกินเนื้อคน” ภาวะที่เนื้อเยื่ออ่อนมีการติดเชื้อรุนแรง และถ้าไม่รีบรักษา ก็อาจโชคร้ายจนถึงขั้นติดเชื้อในกระแสเลือดและเสียชีวิตได้ วันนี้ นพ.รัชตะ ฉัตราติชาต หัวหน้าศูนย์ศัลยกรรม รพ.วิมุต จะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคแบคทีเรียกินเนื้อคน เราจะได้เข้าใจว่าการดูแลแผลอย่างถูกวิธีสำคัญแค่ไหน

นพ.รัชตะ ฉัตราติชาต หัวหน้าศูนย์ศัลยกรรม รพ.วิมุต
นพ.รัชตะ ฉัตราติชาต หัวหน้าศูนย์ศัลยกรรม รพ.วิมุต

โรคแบคทีเรียกินเนื้อคน” อันตรายที่มากับแผลสกปรก

โรคแบคทีเรียกินเนื้อคน (Necrotizing Fasciitis) เป็นภาวะติดเชื้อรุนแรงในเนื้อเยื่ออ่อน เกิดในบริเวณผิวหนังกำพร้า ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง และกล้ามเนื้อ มักพบในแผลเปิด ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย นพ.รัชตะ ฉัตราติชาต อธิบายต่อว่า “เชื้อที่ทำให้เกิดภาวะแบคทีเรียกินเนื้อคนแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม เชื้อโรคผสม (Mixed Organisms) เป็นกลุ่มที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหลายชนิดพร้อมกัน มักพบในแผลทั่วไปที่สัมผัสกับสิ่งสกปรก กลุ่มต่อมาคือ Streptococcus ชนิด A ที่เกิดได้จาก เชื้อ Species Streptococcus หรือ Staphylococcus พบรองลงมาจากกลุ่มแรก ลุกลามเร็วและมีอาการรุนแรงกว่า ที่พบได้ทั่วไปบนผิวหนัง มักเกิดจากหัตถการที่ไม่สะอาด เช่น การเจาะเลือด การฉีดยา รวมถึงการฉีดยาของกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติด กลุ่มสุดท้ายคือ Gas Gangrene พบในแผลที่มีเนื้อตายอยู่ก่อน เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่สร้างสามารถแก๊ส เมื่อคลำที่แผลจะรู้สึกถึงฟองอากาศคล้ายบับเบิ้ลกันกระแทก”

แผลปวดร้อน-บวมแดง รีบพบแพทย์

การติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคนเกิดได้กับทุกคน โดยมีความเสี่ยงจากการไม่รักษาความสะอาดของแผลให้ดี ซึ่งอาการจะรุนแรงขึ้นในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ไตวายเรื้อรัง ภาวะตับแข็ง โรคอ้วน และผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วย HIV หรือคนไข้ที่ได้รับยากดภูมิ “อาการเริ่มต้นของโรคคือการปวด บวมแดง หรือร้อนบริเวณบาดแผล บางคนอาจมีลักษณะผิดปกติบริเวณบาดแผล ผิวหนังมีสีดำคล้ำ มีเนื้อตาย มีหนองปริมาณมาก มีตุ่มน้ำ มีอาการพอง หากติดเชื้อแล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เกิดอาการรุนแรง เริ่มมีไข้สูง ครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย ตัวเย็น มึนงง ซึมลง และช็อกจากการติดเชื้อในกระแสเลือด นำไปสู่การสูญเสียอวัยวะหรือเสียชีวิตได้” นพ.รัชตะ ฉัตราติชาต อธิบายเสริม

“โรคแบคทีเรียกินเนื้อคน” ยิ่งปล่อยไว้ยิ่งอันตราย

การติดเชื้อที่ผิวหนังไม่ได้นำไปสู่ภาวะแบคทีเรียกินเนื้อคนเสมอไปแต่หากเป็นแผลก็ควรรักษาความสะอาดให้ดีเพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยแนะนำให้ใช้น้ำเกลือ 1-2 ลิตร หรือน้ำดื่มเพื่อทำความสะอาด และไม่ควรใช้น้ำประปา หากดูแลแผลเบื้องต้นแล้วยังปวด บวมแดง หรือพบลักษณะผิดปกติที่เข้าข่ายภาวะแบคทีเรียกินเนื้อคน ควรรีบมาพบแพทย์ทันที นพ.รัชตะ ฉัตราติชาต เล่าถึงการรักษาว่า การวินิจฉัยโรคนี้มีหลายวิธี ซึ่งวิธีที่น่าเชื่อถือที่สุดคือการตรวจบริเวณบาดแผล หากยังไม่ชัดเจน แพทย์อาจตรวจเพิ่มเติมด้วยการผ่าตัดกรีดขยายบริเวณบาดแผล ใช้การตรวจพิเศษ MRI, CT Scan, หรือ X-Ray เพื่อตรวจดูชั้นเนื้อเยื่ออย่างละเอียด ส่วนการรักษา แพทย์จะพิจารณาตามอาการ มีตั้งแต่การใช้ยาฆ่าเชื้อ ผ่าตัดระบายหนองและของเหลว ผ่าตัดเนื้อเยื่อที่ตายออก ในกรณีที่เนื้อตายลุกลามไปยังอวัยวะอื่นอาจต้องตัดอวัยวะที่ติดเชื้อ ในบางกรณีอาจต้องปลูกถ่ายผิวหนังเพื่อปิดแผลร่วมด้วย”

โรคแบคทีเรียกินเนื้อคนแม้จะอันตรายแต่ก็ป้องกันได้ โดยถ้าเป็นแผลก็ควรล้างให้สะอาดด้วยน้ำเกลือหรือน้ำดื่ม แล้วปิดแผลด้วยผ้าสะอาดหรือปลาสเตอร์ให้มิดชิดเพื่อป้องกันเชื้อโรค อยากให้เข้าใจว่า เวลาเป็นแผลหรือเมื่อคนใกล้ตัวเป็นแผล ให้สังเกตลักษณะและการเปลี่ยนแปลงของแผลให้ดี ถ้ามีสัญญาณไม่ดีดั่งที่กล่าวไป ต้องรีบมาพบแพทย์ เพราะยิ่งรักษาเร็ว โอกาสหายก็จะยิ่งเยอะ นอกจากนี้ ก็อยากให้ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี เมื่อมีเกราะป้องกันที่ดี โรคร้ายก็มารบกวนชีวิตเราได้ยากขึ้นนพ.รัชตะ ฉัตราติชาต กล่าวทิ้งท้าย

ผู้ที่สนใจปรึกษาแพทย์โรงพยาบาลวิมุต สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ศัลยกรรม ชั้น 4 หรือโทรนัดหมาย 02-079-0040 เวลา 8.00-20.00 น. หรือใช้บริการ Telemedicine ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ผ่าน ViMUT App คลิก https://bit.ly/372qexX

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก