เป็นข่าวที่น่ายินดีสำหรับแวดวงภาพยนตร์ กับภาพยนตร์ไทยทั้ง 6 เรื่องที่ได้ไปฉายในเทศกาล Osaka Asian Film Festival เทศกาลภาพยนตร์ที่มีความสำคัญของญี่ปุ่น และเป็นเทศกาลที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติในฐานะเทศกาลที่มีส่วนช่วยในการผลักดันภาพยนตร์เอเชียให้เป็นที่รู้จักในญี่ปุ่นและในตลาดสากล
โดยนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ ก็ได้โพสต์ข้อความแสดงความยินดีกับภาพยนตร์ไทยทั้ง 6 เรื่องนี้ ระบุว่า ขอแสดงความยินดีกับภาพยนตร์ไทยทั้ง 6 เรื่องที่ได้ไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์ Osaka Asian Film Festival โดยรัฐบาลสนับสนุนจัดโปรแกรมภาพยนตร์ไทยในชื่อ Thai Cinema Kaleidoscope 2024 ภาพยนตร์ทั้ง 6 เรื่อง คือ
1.สัปเหร่อ (The Undertaker) กำกับโดย ต้องเต ธิติ ศรีนวล
เรื่องย่อ : ภาพยนตร์แนวสยองขวัญ-ตลก เป็นภาคแยกจากไทบ้านเดอะซีรีส์ บอกเล่าถึงชีวิต “เจิด” เด็กหนุ่มเรียนจบกฎหมาย แต่ต้องมาช่วยพ่อเป็นสัปเหร่อ ทั้งที่เป็นคนกลัวผีมาก อีกด้านหนึ่ง ก็ได้เล่าเรื่องราวชีวิตของ “เซียง” ชายหนุ่มที่ยังทำใจไม่ได้ เพราะแฟนเก่า “ใบข้าว” เสียชีวิตไป จึงพยายามหาวิธีถอดจิตไปโลกหลังความตาย และได้พ่อของ “เจิด” มาช่วยแต่ “เซียง” ต้องมาช่วย “เจิด” ทำอาชีพสัปเหร่อ จนค้นพบว่าสุดท้ายทุกอย่างมันมีเวลาของมัน
2.เพื่อน(ไม่)สนิท (Not Friends) กำกับโดย อัตตา เหมวดี
เรื่องย่อ : บอกเล่าเรื่องราวของ “เป้” เด็ก ม.6 ที่ถูกพ่อกดดันสอบเข้ามหาวิทยาลัย ได้ทำหนังสั้นส่งประกวด ร่วมกับ “โจ” เพื่อน(ไม่)สนิทที่นั่งโต๊ะติดกัน แต่โชคร้าย “โจ” ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และด้วยความเชื่อที่ว่าทำหนังเกี่ยวกับคนที่จากไป ยังไงแม่งก็ซึ้ง จึงเดินหน้าทำหนังต่อท่ามกลางอุปสรรคและความกดดัน และการถ่ายหนังสั้นทำให้เขาได้ค้นพบความลับอะไรบางอย่างที่ “โจ” ซ่อนไว้
3.ทะเลของฉันมีคลื่นเล็กน้อยถึงปานกลาง (Solids by the Seashore) กำกับโดย ปฏิภาณ บุณฑริก
เรื่องย่อ : บอกเล่าเรื่องราวของ “ชาตี” หญิงสาวชาวมุสลิมซึ่งกำลังเผชิญกับความกดดันจากครอบครัวที่อยากให้แต่งงาน จนได้พบกับ “ฝน” ศิลปินสาวที่เดินทางลงใต้มาเพื่อจัดนิทรรศการศิลปะว่าด้วยเขื่อนหินกันคลื่น ท่ามกลางเสียงคลื่นที่กัดเซาะหาดทราย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้นำพาชาตีไปสู่การตัดสินใจครั้งสำคัญ
4.หุ่นพยนต์ (Hoon Payon) กำกับโดย ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ
เรื่องย่อ : ถูกในคอหนังสยองขวัญ สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่บอกเล่าเรื่องราวของ “ธาม” ชายหนุ่มที่เดินทางมาหาพี่ชาย เพื่อแจ้งข่าวร้ายการจากไปของพ่อแม่ แต่เมื่อเดินทางมาถึงกลับพบข่าวลือว่าพี่ชายของเขาได้หนีหายสาบสูญหลังจากลงมือฆ่าอดีตเจ้าอาวาสจนมรณภาพ และยังพบกับหุ่นปั้นพ่อปู่สิงธรรมที่ดูเหมือนภูติผีมากกว่าเทพที่คอยปกปักรักษา เขาจึงต้องเผชิญหน้ากับเรื่องราวความลึกลับและสิ่งที่มองไม่เห็น
5.แว่วเสียงไฟ (Blazed Away) กำกับโดย น.ส.ศุภามาศ บุญนิล
เรื่องย่อ : บอกเล่าเรื่องราวของ “แวว” หญิงสาวผู้พบว่ากระต่ายที่เธอเลี้ยงไว้ในห้องแฟลตตายแน่นิ่งเพราะเสียงพลุจากเหตุประท้วงคืนก่อน ความโกรธนำพาให้เธอกลับไปพบกับ “เต๋า”เด็กหนุ่มผู้ที่เธอเชื่อว่าเป็นต้นเหตุของเสียงน่ารำคาญเหล่านั้น
6.How We Say Goodbye กำกับโดย น.ส.ธันยชนก อภิสัมโพธิ์กุล
เรื่องย่อ : บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเพื่อนสนิท และการจากลา จากความทรงจำ สังคม ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของชีวิตที่พวกเธอจะต้องก้าวต่อไป
นอกจากนี้ยังพบว่า เพื่อน(ไม่)สนิท (Not Friends) และทะเลของฉันมีคลื่นเล็กน้อยถึงปานกลาง (Solids by the Seashore) ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลใหญ่ของเทศกาล ทั้ง Grand Prix และ Most Promising Talent Award ด้วย
“งานเทศกาลภาพยนตร์คือ โอกาสต่อยอดทางธุรกิจที่สำคัญ เพราะไม่ใช่แค่การฉายภาพยนตร์ แต่เป็นโอกาสที่จะทำให้ต่างชาติได้เห็นศักยภาพในการสร้างภาพยนตร์ของไทย รวมถึงมีโอกาสได้พูดคุยเรื่องการซื้อขายภาพยนตร์ การซื้อขายลิขสิทธิ์ แลกเปลี่ยนข้อมูล และสร้างโอกาสในการทำงานร่วมกันในอนาคตอีกด้วย ความสำเร็จนี้เป็นการทำงานร่วมกันของหลายส่วน ทั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์ ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงการต่างประเทศที่ทำงานกันอย่างเข้มข้น ฝ่าฟันอุปสรรคโดยเฉพาะในเรื่องงบประมาณที่ต้องขออนุมัติเร่งด่วน ผลงานนี้เกิดขึ้นเพราะการทำงานแบบเอกชนเป็นผู้นำ และรัฐบาลเป็นผู้ซัพพอร์ต นี่คือตัวอย่างเพียงเล็กน้อยที่เราได้เปลี่ยนแปลงจากการทำงานในช่วงเริ่มต้น หลังจากนี้ความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ จะเกิดขึ้นอีก และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ขึ้น และใหญ่ขึ้น ซึ่งจะเกิดขึ้นในทุกอุตสาหกรรมที่สร้างซอฟต์พาวเวอร์ อยากให้ทุกท่านติดตามการทำงานของเราต่อไป”
น.ส.แพทองธารระบุ