“หากมีสิ่งหนึ่งที่ข้าได้เรียนรู้ท่านอาจารย์ นั่นคือการปฏิบัติตามคำสั่งโดยตรง อาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหา”
คำกล่าวของศิษย์ฝึกหัด อาโซก้า ทาโน่ (Ahsoka Tano) ที่ถูกนำตัวมาฝึกวิชาเจได และเรียนรู้วิถีแห่งพลังตั้งแต่เด็ก การเรียนรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ทำให้เธอได้กลายเป็นหนึ่งในเจไดที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากของเรื่องราวสงความแห่งจักรวาล อาโซก้าปรากฎตัวครั้งแรกในภาพยนตร์แอนิเมชัน Star Wars: The Clone Wars ปี 2008 ในฐานะพาดาวานฝึกหัดของ อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ (Anakin Skywalker) ที่สอนให้เธอได้เรียนรู้ถึงวิชาการต่อสู้สุดโหดและแนวคิดสุดห่ามตามสไตล์เจไดหัวรั้น ทำให้เธอเป็นผู้ที่สามารถรับมือได้กับทุกภารกิจและเอาตัวรอดได้จากทุกสถานการณ์จนกลายเป็นที่ไว้วางใจของอัศวินเจไดผู้อาวุโส ในการมอบหมายภารกิจต่าง ๆ พบกับ3 แง่มุมที่ทำให้เธอกลายเป็นนักสู้ที่มีความกล้าหาญและปราดเปรื่องได้ขนาดนี้
พาดาวานของเจไดผู้ยิ่งใหญ่ และมิตรสหายที่ดีแห่งกองร้อย 501
ในช่วงแรกที่อาโซก้าถูกมอบหมายให้เป็นพาดาวานฝึกหัดของอนาคิน ทั้งสองนั้นไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไร เพราะต่างเป็นคนที่มีนิสัยหัวรั้นและมักจะทำอะไรด้วยวิธีของตัวเอง ซึ่งนั่นรวมถึงการตั้งคำถามต่อคำสั่งที่ได้รับด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่อาโซก้ามุ่งมั่นที่จะทำอยู่เสมอคือการเรียนรู้และฝึกฝนแม้จะเป็นการฝึกตามตำราในแบบของเจได หรือการฝึกนอกตำราตามแบบอาจารย์ของเธอก็ตาม ยกตัวอย่าง การฝึกของอนาคินที่ให้อาโซก้าต่อสู้กับทหารโคลนหลายคนพร้อมกันแทนที่จะใช้หุ่นดรอยด์ ก็ถือเป็นความรู้และการสร้างไหวพริบที่สำคัญอย่างมากที่ไม่อาจหาได้จากการฝึกทั่วไปมันทำให้เธอสามารถเอาตัวรอดจากเหตุการณ์กวาดล้างเจไดตามคำสั่งที่ 66 ได้เลยทีเดียว
นอกจากอนาคินแล้ว อาโซก้ายังมีสหายร่วมรบที่คอยติดตามกับเธอในทุกที่ อย่าง กัปตัน เร็กซ์ (Captain Rex) แห่งกองร้อย 501 ที่สอนให้เธอได้เรียนรู้วิธีการวางกลยุทธ์และความเชื่อมั่นต่อมิตรสหายที่เกิดขึ้นจากความผูกพัน อันเป็นสิ่งที่ทำให้เธอมีจิตใจเมตตาต่อมิตรสหาย และทหารในกองร้อยทุกนาย ถึงแม้อาโซก้าจะถือว่ามียศที่สูงกว่าทหารโคลนเหล่านั้น แต่เธอก็ไม่เคยปฏิบัติตัวต่อพวกเขาเหมือนเป็นลูกน้อง หรือผู้ที่ด้อยกว่า
ผู้มีมุมมองกว้างขวางและไม่อยู่ในกรอบเดิมๆ
ถึงแม้จะเป็นพาดาวานหัวรั้นที่ไม่ค่อยฟังคำสั่งของอาจารย์ แต่อาโซก้า ทาโน่ ก็เป็นคนช่างสงสัยใคร่รู้กับสิ่งที่เธอไม่เข้าใจ และพร้อมที่จะเอ่ยปากถามอยู่เสมอ ซึ่งนั่นคือนิสัยที่ทำให้เธอสามารถเข้าถึงมุมมองมากมายของผู้คนที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน รวมถึงมุมมองของสงครามที่เธอได้เรียนรู้จากเหล่าวุฒิสมาชิกคนต่างๆ ระหว่างการเดินทางไปทำภารกิจในระบบดาวมากมาย ว่าแท้จริงแล้วสงครามไม่ได้มีเพียงฝ่ายดี หรือฝ่ายร้ายเสมอไป แต่เบื้องหลังความวุ่นวายในกาแล็กซียังมีคนคอยชักใยที่เป็นต้นเหตุของความวุ่นวาย
เพื่อหาผลประโยชน์อยู่เสมอ อย่างเช่น สองผู้นำจากฝ่ายสาธารณะรัฐและกระบวนการแบ่งแยกต่างมีความต้องการที่จะยุติสงครามและพยายามจัดตั้งการประชุมเพื่อสันติอยู่เสมอ แต่ทุกครั้งที่ทุกอย่างกำลังไปได้ดี ซิธลอร์ด ผู้ใช้พลังมืด อย่าง เคาน์ท ดูกู (Count Dooku) จะคอยลอบโจมตีอย่างลับ ๆ เพื่อให้การเจรจาสันติภาพนั้นล้มเหลวไม่เป็นท่าด้วยมุมมองที่กว้างขวางของเธอ การทำภารกิจในแต่ละครั้งของอาโซก้าจึงไม่ใช่แค่การทำตามคำสั่งที่ได้รับเท่านั้น แต่ยังเป็นการคิดนอกกรอบเพื่อหาคำตอบที่ถูกซ่อนไว้ในภารกิจต่าง ๆ ที่ไม่อาจมีใครคาดถึง
ไม่ใช่แค่สงครามเท่านั้นที่ทำให้เธอได้ตระหนักถึงความจริงความล้มเหลวของภาคีเจไดก็ยังคงเป็นสิ่งที่ทำให้เธอหมดศรัทธาต่อความเชื่อที่เธอเคยมีด้วยเช่นกันอาโซก้าได้ถอนตัวออกจากนิกายเจไดหลังจากการถูกจัดฉากและกล่าวหาว่าเป็นคนร้ายในการก่อเหตุระเบิดสุดอุกอาจ แต่ทว่าเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้เธอยอมละทิ้งบ้านที่เลี้ยงดูเธอมาแสนนานหลังนี้คือการที่เธอได้รู้ว่านอกจากอนาคินแล้ว เธอไม่เคยได้รับความศรัทธาจากเหล่าเจไดผู้อาวุโสอย่างแท้จริงเลย เธอจึงออกเดินทางเพื่อค้นหาคำตอบของตัวเอง โดยไม่เพิ่งคำแนะนำของเจไดอีกต่อไป
พันธมิตรแห่งฝ่ายกบฏ
หลังจากถอนตัวออกจากนิกายเจได อาโซก้าได้ปลีกตัวออกมาและหลบซ่อนอยู่กับผู้คนที่อยู่ห่างไกลจากสงคราม แต่ทว่าอดีตอันโหดร้ายและปฏิบัติการคำสั่งที่ 66 ก็ยังคงหาเธอจนเจอในที่สุด แม้ว่ามันคือสิ่งที่เธอไม่ต้องการ แต่ความโหดร้ายของฝ่ายจักรวรรติก็บีบบังคับให้อาโซก้าต้องหยิบไลท์เซเบอร์กลับมาต่อสู้อีกครั้ง อาโซก้าได้ตอบรับคำขอของผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “บิดาแห่งฝ่ายกบฎ” อย่าง เบล ออร์กาน่า (Bail Organa) ที่จะเข้าร่วมกับกองทัพใต้ดินเหล่านี้เพื่อต่อต้านฝ่ายจักรวรรติที่กำลังคุกคามผู้คนทั่วกาแล็กซี
เส้นทางดังกล่าวทำให้เธอได้โคจรมาพบกับสหายกบฎในแอนิเมชันซีรีส์ Star Wars: Rebels อย่าง เอสร่า บริดเจอร์ (Ezra Bridger) เฮร่า ซินดุลล่า (Hera Syndulla) ซาบีน เร็น (Sabine Wren) และสมาชิกคนอื่น ๆ ที่ได้ช่วยกันปรับมือจนเอาชนะกลุ่มจักรวรรดิที่มี จอมพล ธรอว์น (Grand Admiral Thrawn) เป็นหัวเรือหลักในการกวาดล้างฝ่ายกบฏครั้งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าการเดินทางระหว่างนั้น ทำให้เธอได้เจอกับคุณพ่อเกราะเหล็กอย่าง ดิน จาริน (Din Djarin) และเจ้าหนู โกรกู (Grogu) ใน The Mandalorian ซีซัน 2 ด้วยเช่นกัน แต่ความสงบสุขของกาแล็กซีอันไกลโพ้นนี้กำลังจะสั่นคลอน เพราะ จอมพล ธรอว์น ได้กลับมา ถึงเวลาที่อาโซก้าทาโน่จะพาทุกคนไปปกป้องกาแล็กซีอีกครั้ง
ใน Star Wars: Ahsoka การต่อสู้ครั้งใหม่ของอาโซก้า ทาโน่ ที่จะต้องสืบหาต้นตอและต่อสู้กับภัยร้ายจากฝ่ายจักรวรรติที่หวนคืนอีกครั้งโดย จอมพล ธรอว์น และด้านมืดของพลังที่กำลังคุกคามผู้คนในกาแล็กซีอันเปราะบาง แต่ว่าเธอนั้นไม่ได้มาเพียงคนเดียว เพราะในครั้งนี้เธอจะได้พบกับสหายจากฝ่ายกบฎที่แฟนๆ ต่างคิดถึงอย่าง เฮร่า ซินดุลล่า ซาบีน เร็น รวมถึงเจ้าดรอยด์สุดแสบอย่างช๊อปเปอร์ ที่ทางนักแสดงโรซาริโอ ดอว์สัน (Rosario Dawson) ผู้รับบทนักสู้สาวผู้นี้ได้ขนานนามซีรีส์เรื่องนี้ว่าเป็นเหมือนกับซีซันที่ 5 ของ Star Wars: Rebels เลยทีเดียว
หลังจากเปิดตัว Star Wars: Ahsoka ออริจินัลซีรีส์จากลูคัสฟีล์ม ทำให้ Part One: Master and Apprentice อีพีแรกขึ้นแท่นซีรีส์ที่ถูกสตรีมมากที่สุดของสัปดาห์และกลายเป็นซีรีส์อันดับหนึ่งทั่วโลกโดยมีผู้เข้าชมมากถึง 14 ล้านวิว “อาโซก้า ทาโน่ กลายเป็นตัวละครที่แฟนๆ และเหล่าสาวกทุกเพศทุกวัยชื่นชอบมันเป็นเรื่องที่สุดยอดมากๆ ที่ได้เห็นตัวละครนี้อีกครั้งในซีรีส์ของตัวเธอเอง” *ยอดวิวคำนวณจากสัดส่วนระยะเวลาการสตรีมทั้งหมดหารด้วยระยะเวลาของซีรีส์
แคธลีนเคเนดี้ ประธานของลูคัสฟีล์มกล่าว “เราขอยกย่องฝีมืออันสุดยอดของทีมครีเอทีฟซึ่งนำโดยเดฟ ฟิโลนี และจอน ฟาฟโรว์ นักแสดงนำอย่าง โรซาริโอ้ ดอว์สันรวมไปถึงทีมนักแสดงและทีมงานทุกคน ในนามของลูคัสฟีล์มและทีมงาน เราขอขอบคุณแฟนๆ จากใจจริง ที่อยู่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางทุกเส้นทางของอาโซก้า ทาโน่ รวมทั้งผู้ชมที่เริ่มรู้จักเธอจากออริจินัลซีรีส์บน Disney+ Hotstar เรื่องนี้”
ไลท์เซเบอร์ของคุณพร้อมหรือยัง เข้าสู่วิถีแห่งพลังอีกครั้งในการผจญภัยครั้งใหม่ของอาโซก้า ทาโน่ ใน Star Wars: Ahsoka สตรีมได้แล้ววันนี้ และสตรีมตอนใหม่ทุกวันพุธ บน Disney+ Hotstar