จบดราม่า เจ้าของร้านลูกไก่ทองกราบขอโทษสื่อสารผิดพลาด ทุกคนสามารถตั้งชื่อร้านภาษาไทยว่า “ปังชา” ได้ ส่วนภาษาอังกฤษ “Pang Cha” ก็ใช้ได้ ถ้าไม่ก่อให้เกิดความสับสนของร้าน

หลังจากกลายเป็นกระแสร้อนแรงในโลกออนไลน์กับกรณีพ่อค้าคนหนึ่งในจังหวัดเชียงราย ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายรวมเป็นเงิน 102 ล้านบาท เหตุไปละเมิดชื่อทางการค้า และหากเกิน 7 วัน ยังไม่ชำระหรือเพิกเฉยจะบวกค่าปรับอีกวันละ 1 หมื่นบาทต่อ 1 ร้าน

นอกจากนี้ยังพบว่าร้านชา “ทางช้างเผือก” ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ก็ได้รับหนังสือโนติสถูกเรียกค่าเสียหาย 7 แสนบาทด้วยเช่นกัน จนกลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางบนโลกโซเชียล และเกิดกระแสด้านลบกับร้านลูกไก่ทองอย่างหนัก

Lukkaithong - ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant
ปังชา
ภาพจาก : Facebook Lukkaithong – ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant

วันที่ 31 สิงหาคม 2566 “แก้ม กาญจนา ทัตติยกุล” เจ้าของร้านลูกไก่ทอง ให้สัมภาษณ์ในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 โดยยืนยันว่าเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด และทางร้านไม่ได้มีเจตนาจะฟ้องร้องใคร

“แก้ม กาญจนา” กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องกราบขอโทษทุกคน ตอนนี้ก็เศร้ามากที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในการสื่อสารของทางร้าน ทำให้เกิดกระแสสังคมที่หนักทั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบ และทางร้านลูกไก่ทอง

อยากขอโทษร้านปังชา เชียงราย และร้านทางช้างเผือกด้วย หากมีโอกาสอยากติดต่อพูดคุยเพื่อขอโทษด้วยตัวเอง แต่ก็ยังไม่ได้เจอ วันนี้ได้มาออกรายการจึงต้องการขอโทษน้องเจ้าของร้านทั้งสอง และขอโทษประชาชนทุกคน กับความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากการสื่อสารของร้าน

กรณีที่เกิดเรื่องมาจากการที่เพจของร้านมีการโพสต์ภาพที่เกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร โดยมีการใส่รูปภาพ แต่ไม่ได้มีการอธิบายอย่างชัดเจน และการใส่ข้อความนั้นเป็นการสื่อสารที่ผิด ใส่ข้อมูลไม่ครบ และเมื่อเกิดการแชร์ออกไปทำให้เกิดความเข้าใจผิดในประเด็นดังกล่าว

ส่วนสาเหตุที่มีการออกโนติสไปยังร้านต่างๆ คือต้องเรียนตรงๆ ว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะฟ้องใคร และเราไม่สามารถไปฟ้องเขาได้ แต่ในโนติสที่เขียนไปโดยเรียก 102 ล้านบาท เป็นเรื่องของเครื่องหมายการค้าหรือโลโก้ โดยดูแบบอย่างจากแบรนด์ต่างประเทศที่ให้ความสำคัญจากโลโก้

ร้านปังชาเชียงราย

ยกตัวอย่างเช่นก่อนหน้านี้มีแบรนด์ของคนไทยที่เคยถูกต่างชาติเอาไปจดทะเบียน อย่างที่เรารู้กันคือ ศรีราชา ซึ่งตนไปเทียบค่าจากเคสนั้น อันนี้ก็ถือเป็นความผิดพลาดของเราโดยตรง และยอมรับว่าเป็นความผิดของทางร้านเองกับทีมกฎหมาย ถือเป็นความเข้าใจผิดของทั้ง 2 ฝ่าย ที่มองว่ามูลค่าของโลโก้ที่มีเจตนารมณ์ทำไปนั้นโดยเทียบเคียงกับเคสต่างประเทศ จึงระบุยอดเงิน 102 ล้านบาท

แต่ในเจตนาจริงๆ ไม่ได้คิดที่จะฟ้องร้อง หรือต้องการได้รับเงินจากทางร้านปังชาที่เชียงราย ขอยืนยันว่าปังชาทุกคนใช้ได้เลย เพราะร้านไม่ได้จองไว้ใช้คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นคำว่า ปังเย็น ปังน้ำแข็งไส และจะไม่มีการยื่นโนติสใดๆ อีก

จากความผิดพลาดตรงนี้ทำให้เราได้คุยกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา และได้รับข้อมูลชัดเจนร่วมกันสรุปว่าปังชาใครก็สามารถใช้ได้

ส่วนตัวภาชนะที่ใช้แล้วมีลักษณะคล้ายหรือเหมือนของร้านลูกไก่ทอง ส่วนนี้การพิจารณาต้องอยู่ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา แต่ถ้าเกิดเป็นถ้วยที่เหมือนเลย หรือออกแบบให้ถ้วยมีความโค้งเหมือนกับทางร้าน ถือว่าผิดสิทธิบัตร แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเหมือนหรือคล้ายแค่ไหนอย่างไรบ้าง

โดยสรุปที่ฟ้องร้องเป็นเรื่องเครื่องหมายการค้า หรือโลโก้ คำว่าปังชาภาษาไทยสามารถใช้ได้ ส่วนคำว่า “Pang Cha” ภาษาอังกฤษ ต้องใช้โดยไม่ก่อให้เกิดความสับสนของร้าน

Facebook Lukkaithong - ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant
รูปผู้หญิงที่มีคนอ้างว่ามีการลอกเลียนแบบ
ภาพจาก : Facebook Lukkaithong – ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant

ส่วนรูปผู้หญิงที่มีคนออกมาโพสต์ว่าลายเส้นคล้ายกับเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่ง “แก้ม กาญจนา” กล่าวว่า ได้จ้างน้องคนหนึ่งเพื่อวาดลายเส้นขึ้นมา โดยต้องการให้เป็นรูปผู้หญิงใส่ชุดไทย ซึ่งน้องคนนั้นก็แกะลายเส้นขึ้นมา แต่ว่าจะไปลอกเลียนแบบจากที่ไหนมา ต้องสอบถามอีกที

ต้องขอโทษมากๆ ค่ะ แก้มก็แย่มากๆ บอกตรงๆ เลยว่าขอโทษทุกคน เราไม่เคยจับจองอะไรเป็นของเรานะคะ ขอให้ทุกคนให้โอกาสแก้มด้วย และให้อภัยในทุกๆ สิ่งกับทางแบรนด์ด้วย หากมีสิ่งใดที่ทำให้ทุกคนเสียใจหรือผิดหวัง วันนี้แก้มขอน้อมรับและกราบขอโทษค่ะ

กาญจนา ทัตติยกุล เจ้าของร้านลูกไก่ทอง กล่าว
ภาพปังชาต้นเหตุดราม่า
ภาพปังชาต้นเหตุดราม่า
ภาพจาก : Facebook Lukkaithong – ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant

เด็กฝั่งธนฯ ที่บ้านเลี้ยงแมว 2 ตัว เชียร์ทีมชาติไทย ชอบสะสมหุ่นจำลอง แต่ยังไม่ได้แกะออกมาจากกล่องสักที!

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก