“น้ำผึ้ง กานต์ธีรา” : จากเด็กไร้สัญชาติ สู่เพชรเม็ดงามของทีมหัวเมืองเหนือ

“เราอยากจะเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่พร้อมที่จะผลักดันสังคมและอยากจะโชว์ให้เห็นศักยภาพของผู้หญิง ที่สามารถเป็นได้ทั้งผู้นำ แรงบันดาลใจ แล้วก็เป็นตัวอย่างที่ดีในสังคมได้ เรื่องที่สองคือน้ำผึ้งอยากจะผลักดันในเรื่องของการไร้สัญชาติค่ะ ให้เรื่องการไร้สัญชาติเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น”

แรงบันดาลใจ จุดเริ่มต้นในเส้นทางนางงามของ “น้ำผึ้ง กานต์ธีรา เตชะภัทรธนากุล” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เชียงใหม่ 2023 สาวงามผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 ที่ส่งตรงจากทีมหัวเมืองเหนือ หนึ่งในทีมผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนางงามหลายๆ คน

น้ำผึ้ง กานต์ธีรา สาวงามวัย 22 ปี อดีตเด็กไร้สัญชาติ เกิดในครอบครัวกลุ่มชาติพันธุ์ไทยใหญ่ จ.เชียงราย จบการศึกษาคณะเทคนิคการแพทย์ สาขาเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อดีตนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัย คณะเทคนิคการแพทย์ ในปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา น้ำผึ้งได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนพูดคุย ในฐานะบุคคลตัวอย่างผู้สร้างแรงบันดาลใจ ร่วมกับผู้แทน UNHCR รัฐบาลจาก 16 ประเทศ ในการหาแนวทางการช่วยเหลือและแก้ไขบุคคลไร้สัญชาติ ในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นตัวแทนจากประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ Science Project Competition ร่วมกับเยาวชนกว่า 80 ประเทศทั่วโลก คว้ารางวัล Special Award จาก Asaid From the America People ด้านความช่วยเหลือมนุษยชน เป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ให้ได้รับสัญชาติในที่สุด

ก่อนจะเข้าสู่การประกวดเวทีนางงามเต็มตัวกับเวที มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เชียงใหม่ เพื่อต้องการเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็ก เยาวชน และผู้คนที่สูญเสียโอกาสในชีวิตจากการไร้ซึ่งสัญชาติ เฉกเช่นเดียวกับที่เธอเคยผ่านมา

จากอดีตเด็กไร้สัญชาติ สู่นางงามตัวแทนทีมหัวเมืองเหนือ

น้ำผึ้ง : น้ำผึ้งเกิดในประเทศไทย แต่คุณแม่ไม่ได้แจ้งเกิดค่ะ ซึ่ง ณ ตอนนั้น เราก็กล่าวไม่ได้ว่าเพราะเหตุใด พอคุณแม่ไม่ได้แจ้งเกิด น้ำผึ้งก็เลยต้องไร้สัญชาติ เนื่องจากคุณแม่เขาไม่มีสัญชาติ ตัวเด็กเองก็ต้องไม่มีสัญชาติตามคุณแม่ค่ะ เพราะฉะนั้นน้ำผึ้งก็เลยใช้ชีวิตโดยการไม่มีสัญชาติไทยมาประมาณ 18 ปี ค่ะ กรณีของน้ำผึ้งมีการขอสัญชาติตั้งแต่ประถมแล้วค่ะ ซึ่งทางโรงเรียนระดับประถมเขาได้ให้ความช่วยเหลือให้กับนักเรียนที่ไร้สัญชาติ ก็มีการขอเอกสารให้กับนักเรียนนักศึกษา แต่เนื่องด้วยระยะเวลาในการดำเนินงานค่อนข้างนานก็เลยต่อมาจนถึงน้ำผึ้งอยู่ชั้น ม.6 ถึงจะมีการเร่งขึ้นมาขอสัญชาติค่ะ

เคยเกือบพลาดโอกาสครั้งสำคัญในชีวิต นั่นก็คือการเข้าร่วมการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ที่อเมริกา เพราะไร้สัญชาติ

น้ำผึ้ง : ตอนนั้นคือร้องไห้ทุกวันเลยค่ะ โดยเฉพาะยิ่งตอนที่รู้สึกเสียใจก็สุดๆ ก็คือตอนที่เรามีเอกสารพร้อมทุกอย่างและพร้อมมากๆ ที่จะเป็นตัวแทนประเทศไทย แล้วก็ก้าวเข้าสู่ในการสัมภาษณ์เพื่อขอวีซ่า สิ่งที่ทำให้น้ำผึ้งรู้สึกว่า ทำไมเป็นอีกแล้ว ก็คือการขอวีซ่าสองครั้งแล้วก็พลาดทั้งสองครั้งเลย ดังนั้นการที่โดนปฏิเสธ ณ ตอนนั้นมันคือการที่น้ำผึ้งรู้สึกว่า ตัวเรายังไม่พร้อมหรอ หรือว่าเพราะอะไรละ ทำไมเขาถึงยังไม่เปิดโอกาสให้กับเรา

น้ำผึ้งมองว่าการที่เราขาดโอกาส เพราะข้อจำกัดของคำว่าสัญชาติ น้ำผึ้งไม่เคยมองว่ามันคือปมด้อย แต่น้ำผึ้งจะนำมันมาเป็นแรงผลักดันก็คือเราต้องพัฒนาตัวเองมากกว่าคนอื่นสองเท่า เราต้องมีการวางแผนทุกทางที่เราสามารถวางแผนได้ อย่างตัวของน้ำผึ้งเองต้องบอกว่าเมื่อก่อนมีความตั้งใจมีความฝันว่าอยากจะเข้าเรียนคณะแพทย์ แต่ว่าเนื่องด้วยข้อจำกัดที่เขาบอกว่าต้องมีสัญชาติไทย ดังนั้นน้ำผึ้งก็เลยต้องมีการวางแผนอีกแผนหนึ่ง ต้องเก็บผลงานตั้งแต่ ม.4 เพื่อที่จะสามารถเข้าสู่ในรอบการสมัครเรียนในระดับสายวิทย์สุขภาพ ถ้าเกิดว่าสอบไม่ได้ แล้วมีทางไหนละที่เราสามารถเข้าเรียนได้โดยที่ไม่ต้องสอบ เพราะการต้องใช้สัญชาติไทย ดังนั้นน้ำผึ้งก็เลยมีการวางแผนทั้งการเรียน การเก็บกิจกรรมควบคู่กันมาเรื่อยๆ ก็คือเป็นแรงผลักดันที่จะพัฒนาตัวน้ำผึ้งเองด้วย

น้ำผึ้งเองใฝ่ฝันที่อยากจะทำสักสิ่งหนึ่งที่สามารถพัฒนาศักยภาพตัวเองได้ ทุกอย่างที่เขาหยิบยื่นโอกาสให้หรือทุกอย่างที่เปิดช่องทางให้น้ำผึ้งสามารถพัฒนาศักยภาพ น้ำผึ้งทำหมดเลย เป็นนายกสโมสร เป็นทั้งประธานสาขาวิชาเทคนิคการแพทย์ 4 ปีติดต่อกัน แล้วก็เป็นตัวแทนของคณะเทคนิคการแพทย์ เข้าร่วมการประชุมระดับนานาชาติของผู้นำทางด้านสายวิทย์สุขภาพร่วมกับนักศึกษามหาวิทยาลัยอื่นในต่างประเทศ ประสบการณ์เหล่านั้นมันสั่งสมให้น้ำผึ้งมีศักยภาพตรงนี้ และทำหน้าที่ในเรื่องของการเป็นผู้นำและการตัวแทนของทุกๆ สถาบันได้ดีที่สุดค่ะ

ชีวิตที่ไร้สัญชาติ

น้ำผึ้ง : โห คนละโลกเลยค่ะ ตอนที่เราไม่มีสัญชาติ เหมือนเราตีกรอบอยู่แคบๆ อยู่ในกล่องสีเหลี่ยมห้องเล็กๆ แต่พอเราได้สัญชาติปุ๊บ โอกาสทุกอย่างมันเปิดต้อนรับเราเสมอ อย่างในเรื่องของการศึกษา ณ ตอนนี้พูดได้เต็มปากเลยว่า น้ำผึ้งมีแพลนที่จะเรียนต่อ ทำวิจัย เป็นนักวิจัยเอยอะไรต่างๆ เพิ่มขึ้น แต่ ณ ตอนนั้นที่น้ำผึ้งไม่ได้รับสัญชาติ ขอบเขตของอนาคตของน้ำผึ้งมันแคบมากๆ เป็นได้แค่ไม่กี่อย่างเอง แต่พอน้ำผึ้งได้รับสัญชาติ การที่เราเป็นคนที่พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ มันเลยทำให้เราสามารถมองเห็นอนาคตที่กว้างมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเรียน การทำกิจกรรมเพื่อสังคมค่ะ

สิ่งสำคัญที่นำพามาถึง MUT เชียงใหม่ 2023

น้ำผึ้ง : มีอยู่สองพ้อยท์ค่ะ พ้อยท์แรกก็คือในเรื่องของความฝันตั้งแต่เด็กๆ ที่เราอยากจะเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่พร้อมที่จะผลักดันสังคมและอยากจะโชว์ให้เห็นศักยภาพของผู้หญิงที่เขาสามารถเป็นทั้งผู้นำได้เป็นทั้งแรงบันดาลใจ แล้วก็เป็นทั้งในเรื่องตัวอย่างที่ดีในสังคม แล้วก็ในเรื่องที่สองคือน้ำผึ้งอยากจะผลักดันในเรื่องของการไร้สัญชาติค่ะ เพื่อที่จะให้เรื่องการไร้สัญชาติเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น แล้วก็สามารถแก้ไขปัญหาและให้กำลังใจกับผู้คนที่เขาไร้สัญชาติได้ค่ะ

แน่นอนค่ะว่าเส้นทางนางงาม เวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เขาต้องการที่จะโชว์ให้เห็นผู้หญิงที่มีความเป็น Leaderships มีความเป็นแรงบันดาลใจ มีความเป็น empowering woman ซึ่งตัวน้ำผึ้งสั่งสมเก็บประสบการณ์ต่างๆ มันแสดงให้เห็นแล้วว่า น้ำผึ้งเหมาะสมกับเวทีนี้มากๆ ทั้งด้านของการเป็นผู้นำ ทั้งด้านการเป็นนักขับเคลื่อนสังคมที่ดี ดังนั้นการที่น้ำผึ้งจะมาเฉิดฉายบนเวทีนี้มันตรงบริบทเวทีที่เขาต้องการจะพัฒนา และโชว์ศักยภาพของผู้หญิง ให้คนทั่วโลกได้เห็นว่าผู้หญิงเรามีศักยภาพมากๆ ค่ะ เพราะฉะนั้นที่น้ำผึ้งได้สั่งสมและเก็บประสบการณ์มา ทั้งเป็นผู้นำนักศึกษา เป็นตัวแทนของนักศึกษาที่เข้าเป็นผู้นำในเอเชียแปซิฟิก ดังนั้นกิจกรรมเหล่านี้มันคือหลักฐานที่โชว์ให้เห็นว่า ผู้หญิงทุกคนและตัวน้ำผึ้งเองมีความเป็น empowering woman และพร้อมที่จะเป็นผู้นำให้กับผู้นำทั่วโลกได้ค่ะ

การมาประกวดครั้งนี้ ถามว่ากดดันไหม ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าไม่กดดัน เพราะว่าหนึ่งคือเรามาในทีมหัวเมืองเหนือ สองคือทุกคนตั้งตารอมากๆ น้ำผึ้งกดดันเรื่องแรกเลยก็คือเรื่องของการเปลี่ยนลุค แต่ ณ วันนี้ น้ำผึ้งมั่นใจแล้วค่ะเพราะว่าพอเปลี่ยนปุ๊บ พี่ๆ ทุกคนภูมิใจมากว่าหัวเมืองเหนือสวยนะเนี่ย แค่ 10 วัน สามารถเปลี่ยนลุคได้ดีขนาดนี้ เพราะฉะนั้นน้ำผึ้งเลยมองว่าน้ำผึ้งจะเอาความกดดันเหล่านั้น มาเป็นจุดที่เอามาพัฒนาตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม และทำให้ทุกคนภูมิใจ ทำให้ทุกคน รู้สึกว่าเด็กคนนี้สามารถพัฒนาไปได้ไกลนะ เพียงแค่นี้ค่ะ น้ำผึ้งไม่ได้มองอะไรเลยว่ามันจะมากดตัวน้ำผึ้งเองหรือเปล่าแต่น้ำผึ้งมองว่ามันคือแรงผลักดันที่เราจะพัฒนาไปพร้อมกันได้ค่ะ

น้ำผึ้งไม่ได้มองว่ามันเวทีนางงาม หาแค่นางงามที่หน้าสวย หรือเป็นบิวตี้สแตนดาร์ด แต่น้ำผึ้งมองว่าเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์คือการเฟ้นหาหญิงสาวที่พร้อมในทุกๆ ด้าน มีทั้งความสวยงาม แน่นอนอยู่แล้วผู้หญิงทุกคนสวยงามหมดค่ะ ทุกคนมีความสวยงามอยู่ภายใน ทุกคนมีความสวยงามทั้งตัวเราเอง ทั้งใบหน้าทุกอย่างที่เป็นตัวคุณ มันอยู่แค่ว่าคุณจะไชน์มันออกมา จะแสดงมันออกมายังไง ให้เขารู้สึกว่านี่มันคือตัวคุณ เหมาะกับคุณ ความสวยมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าบิวตี้สแตนดาร์ด หน้าต้องเป็นแบบนี้ๆ นะ แต่มันขึ้นอยู่กับว่าเราแสดงมันออกมายังไง ให้มันคือตัวคุณ และมันเห็นได้ชัดเจนว่านี่คือความสวยของคุณ เพราะฉะนั้นเวทีมิสยูนิเวิร์ส มันคือการเฟ้นหาผู้หญิงที่มีความสวยทั้งภายนอกและภายใน และมีศักยภาพมากพอที่จะสามารถขับเคลื่อนสังคม และประเทศชาติให้ก้าวเข้าสู่เวทีโลกได้ค่ะ ไม่ได้มีเพียงแค่ต้องการหาผู้หญิงที่มาเป็นแอมบาสเดอร์ของเวที แต่มันคือการหาคนที่มีศักยภาพคนหนึ่งที่พร้อมจะก้าวเข้ามาพัฒนาสังคมโลกได้ค่ะ

ความฝันหลักของผู้หญิงที่ชื่อ “น้ำผึ้ง กานต์ธีรา”

น้ำผึ้ง : ความฝันหลักหรอคะ ความฝันหลักของน้ำผึ้งไม่มีอะไรยากเลยค่ะ ขอแค่น้ำผึ้งใช้ชีวิตมีความสุขไปในทุกๆ วัน แล้วความฝันของคำว่านางงาม การประกวดนางงามถามว่าเป็นความฝันหลักไหม ไม่ใช่ความฝันหลักค่ะ แต่เป็นหนึ่งในความฝันที่ทำให้น้ำผึ้งมีความสุข เพราะฉะนั้นการที่น้ำผึ้งเข้ามาประกวดนางงามและสามารถทำตามความฝัน หนึ่งในความฝันหลักๆ ของตัวเองได้ ก็คือการสร้างความสุขให้กับตัวน้ำผึ้งเอง ดังนั้นทุกอย่างที่น้ำผึ้งทำ มันก็คือการสร้างความสุขให้กับตัวน้ำผึ้ง และถ้าน้ำผึ้งสามารถทำได้และสามารถสร้างความสุขตรงนี้ให้กับผู้อื่นได้ มันคือจุดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของน้ำผึ้งเองแล้วค่ะ

น้ำผึ้งอยากจะบอกว่า น้ำผึ้งต้องขอบคุณพี่ๆ มากๆ เลยค่ะ ที่หนึ่งคือเห็นศักยภาพในตัวน้ำผึ้ง เห็นความพยายามของน้ำผึ้ง ที่อยากจะเป็นเพชรเม็ดงามของทีมหัวเมืองเหนือ แล้วก็ต้องขอบคุณมากๆ ที่เสียสละเวลาส่วนตัวของตัวเอง เข้ามาพัฒนาน้ำผึ้ง เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาพร้อมจะโชว์ศักยภาพของตัวเอง และพร้อมที่จะเป็นตัวแทนของทีมหัวเมืองเหนือ พัฒนาศักยภาพของน้ำผึ้งจนได้ขนาดนี้ คือทุกคนแทบจะไม่มีเวลานอนเลยค่ะ พี่ๆ คือร่วมจอยกันมาก สุดกันมาก ทั้งแรงใจแรงกาย ทุกคนพร้อมที่จะซัพพอร์ตน้ำผึ้งเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องการถ่ายพอตเทรต การเตรียมตัวหลังบ้าน การลงลุ๊คบุ๊ค หรือว่าปรับเพอร์ฟอร์แมนซ์ของน้ำผึ้ง ทั้งเรื่องการพูดการเดิน ทุกคนเต็มที่มากๆ ซึ่งน้ำผึ้งอยากจะขอบคุณมากๆ ที่เห็นถึงเอ็นดูเด็กคนนี้ ที่พร้อมจะพัฒนาตัวเองไปพร้อมกับพี่ๆ และก็ขอบคุณที่พี่ๆ พร้อมที่จะเดินไปกับน้ำผึ้งค่ะ

อยากจะฝากบอกแฟนๆ ว่า ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่คอยให้กำลังใจน้ำผึ้งมาโดยเสมอ ตั้งแต่น้ำผึ้งเริ่มสมัครเข้ามาประกวด จนน้ำผึ้งได้รับมง MUT เชียงใหม่ และอยากจะขอบคุณทุกคนที่ยังคงคอยสนับสนุนจนน้ำผึ้งเข้ามาถึงวันนี้ และขอบคุณที่จะสนับสนุนน้ำผึ้งไปจนถึงวันที่น้ำผึ้งได้รับมง น้ำผึ้งสัญญาว่า น้ำผึ้งจะทำเต็มที่และน้ำผึ้งจะทำหน้าที่หัวเมืองเหนือให้ดีที่สุด เพื่อที่จะไม่ให้ทุกคนที่คอยเชียร์ผิดหวังแน่นอนค่ะ