BYD เป็นอีกหนึ่งค่ายที่ขนกองทัพรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาจัดแสดงในงานนี้ ซึ่งในงาน Motor Show 2023 ในปีนี้ทาง BYD ยังคงจัดเต็มให้กับตลาดประเทศไทยเช่นเดิม โดยหนึ่งในรถที่น่าจับตามองก็คงจะหนีไม่พ้นรถตู้ MPV สุดหรูหราอย่างเจ้า BYD Denza D9 ที่มาเป็นคู่ต่อกรของทาง Toyota Alphard
ทาง Rêver Automotive ผู้นำเข้ารถยนต์จากเมืองจีน ได้เตรียมเผยโฉมจริงของ BYD Denza D9 EV รถยนต์ไฟฟ้าที่มาในรูปแบบรถตู้หรือรถ MPV สุดหรู พร้อมดูการตอบรับจากลูกค้าชาวไทย ว่ามีความสนใจรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบนี้มากน้อยเพียงใด ก่อนที่จะตัดสินใจทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้ในประเทศไทย
BYD Denza D9 EV เป็น รถยนต์ MPV สุดหรูรุ่นล่าสุดจากทางแบรนด์ Denza จากประเทศจีน ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง BYD และ Mercedes-Benz จะมีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% และแบบ Plug-in hybrid รวมถึงจะมีทั้งแบบ 4 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง
งานดีไซน์การออกแบบของ BYD Denza D9
ด้านงานออกแบบตัวรถถูกสร้างขึ้นบน e-platform 3.0 สำหรับรุ่น EV และ DM-i platform สำหรับรุ่น Plug-in Hybrid เน้นความหรูหรา มาพร้อมการออกแบบที่เรียกว่า Into the Meteor Arrow
ด้านหน้าโดดเด่นด้วยชุดกระจังหน้าขนาดใหญ่แบบ Matrix ที่เป็นวัสดุโครเมียมดีไซน์วางยาวเป็นเส้นตรง โดยในรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์ PHEV จะดูคล้ายรถตู้ยอดนิยมอย่าง Alphard ขณะที่ในรุ่น EV กระจังหน้าจะเป็นแบบปิดทึบ มาพร้อมโลโก้ตรงกลางที่เป็นพื้นสีฟ้า ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้า LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว พร้อมรอบกรอบในส่วนกระจังและชุดไฟหน้าโครเมียม
ด้านข้างตัวรถออกแบบด้วยเส้นสายที่ราบเรียบ ประตูข้างเปิดแบบบานสไลด์ทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียมที่กรอบหน้าต่าง และบริเวณเสา D เพิ่มความหรูด้วยล้ออัลลอยลายก้านซี่ ขนาด 19 นิ้ว
ขณะที่ด้านท้ายตัวรถมากับชุดไฟท้าย LED แบบพาดยาวเต็มพื้นที่ พร้อมติดตั้งสปอยเลอร์หลังคา และไฟเบรกดวงที่สาม
การตกแต่งห้องโดยสารสุดหรูหรา
ภายในห้องโดยสารจัดเต็มด้วยความหรูหรา และสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน เบาะที่นั่งมีทั้งแบบ 4 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง (2+2+3) หุ้มด้วยหนัง Nappa มาพร้อมระบบอุ่น และระบบระบายความร้อน เบาะแถวที่ 2 ที่เป็นเบาะแบบกัปตันซีทที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการนวดแบบ 10 จุด
ตกแต่งภายในด้วยลายไม้วีเนียร์ และวัสดุสีดำ Piano Black ในส่วนแผงแดชบอร์ดติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Full LED ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจอ HUD และหน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว มาพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงแบบ Denza Link และรองรับการอัปเกรดแบบ OTA
นอกจากนี้ยังติดตั้งหน้าจอที่หลังเบาะคู่หน้า โดยสามารถสั่งงานฟังก์ชั่นต่างๆ ได้จากจอที่เหมือนสมาร์ตโฟน ที่วางอยู่บนที่เท้าแขนตรงเบาะนั่งแถวที่ 2 นอกจากนั้นยังติดตั้งตู้เย็นที่ติดตั้งระหว่างเบาะแถวที่ 2 และที่ชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายที่ติดตั้งแยก และ Wireless Charger ถึง 3 จุด ชุดไฟ Ambient Light ที่สามารถปรับได้ 148 เฉดสี ปิดท้ายด้วยหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาขนาดใหญ่
ขุมพลังที่มาให้เลือก ตามการใช้งาน
ด้านพละกำลังจะมีทั้งในรุ่นเครื่องยนต์ Plug-in hybrid จะมากับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Turbocharger กำลังสูงสุด 138 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 231 นิวตันเมตร ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยให้กำลังรวม 300 / 345 และ 406 แรงม้า มาพร้อมแบตเตอรี่ที่มีความจุ 10.06 – 40.06 kWh ซึ่งถ้าวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าเพียว ๆ จะให้ระยะทางสูงสุดที่ 190 กม. มาตรฐาน NEDC มาพร้อมระบบชาร์จเร็วขนาด 80 kW
ส่วนในรุ่น EV จะมีทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่วางอยู่ที่คู่ล้อหน้าให้กำลัง 312 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว วางอยู่ทั้งคู่ล้อหน้า และหลัง ให้กำลังรวมอยู่ที่ 374 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ในด้านแบตเตอรี่จะมีขนาดความจุอยู่ที่ 103.36 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทางไกล 600 กม. ตามมาตรฐาน CLTC รองรับการชาร์จสูงสุด 166 kW
ในด้านระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่จะติดตั้งระบบขับขี่อัตโนมัติเลเวล 2 มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ของทาง Denza Pilot รวมถึงถุงลมนิรภัยรอบคัน 9 จุด
สำหรับราคาของ BYD Denza D9 รถ MPV หรูจากประเทศจีน ในรุ่น Plug-in hybrid จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 335,000 – 445,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.71 -2.27 ล้านบาท
ส่วนในรุ่น EV จะมีราคาจำหน่ายเริ่มที่ 390,000-460,000 หยวน ตีเป็นเงินไทยอยู่ที่ราวๆ 1.99 – 2.36 ล้านบาท และรุ่นสูงสุด 4 ที่นั่ง จะมีราคาจำหน่าย 660,000 หยวน หรือเป็นเงินไทยประมาณ 3.38 ล้านบาท
แหล่งที่มาและข้อมูล : Carnewschina
ติดตามข่าวสารเทคโนโลยีและยานยนต์ได้ที่ FEE:D