ท่ามกลางกระแสรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลกในขณะนี้ ประเทศไทยเองก็ได้มีการเข้ามาทำตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าที่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ปัญหาที่ว่ารถไฟฟ้านั้นเป็นพลังงานสะอาดก็จริง แต่จริงๆแล้วสะอาดทั้งกระบวนการเป็นสิ่งที่จริงหรือไม่
การใช้ลิเทียมไอออนในรถยนต์ไฟฟ้านั้น ลิเทียมไอออนเป็นส่วนประกอบที่ราคาค่อนข้างสูงมากในเวลานี้ รวมถึงภายภาคหน้าของรถไฟฟ้า การนำเหล่าเซลล์ไฟฟ้าที่ไม่สามารถใช้ได้แล้ว มีความจำเป็นต้องถูกทิ้ง ยังไม่มีฝ่ายใดที่เสนอการจัดการกับของเสียที่จะเกิดขึ้นแบบใหม่นี้ ในอนาคตอย่างจริงจัง ซึ่งในวันนี้นอกจากการมีรถยนต์ไฟฟ้า จะดีแค่ไหนหากยังสามารถขับรถน้ำมันคันโปรดคันเดิมและช่วยลดมลภาวะให้โลกได้ด้วย “น้ำมันสะอาด”
ในปีนี้ Porsche และกลุ่มพันธมิตรทางการค้าได้ร่วมกันผลิตน้ำมันสะอาดชนิดใหม่นามว่า e-fuel โดยมีจุดประสงค์ในการแทนที่น้ำเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล์แบบเดิมที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน โดย Porsche ผู้ผลิตรถยนต์ภายใต้เครือ Volkswagen Group ลงทุนสร้างโรงงานผลิตน้ำมันสะอาด e-fuel ที่ประเทศชิลี โดยหวังพัฒนาน้ำมันทางเลือกนี้เข้าสู่ตลาดในอีกครึ่งทศวรรรษที่ถึงนี้ และตั้งเป้าการผลิตน้ำมันนี้กว่าล้านแกลลอน
ปอร์เช่มีแพลนในการนำน้ำมันชนิดนี้เข้าใช้งานในวงการมอเตอร์สปอร์ตเพื่อเป็นการนำร่องก่อน และจะใช้ใน Performance Experience Center ของตัวเอง หลังจากนั้นจึงจะเป็นการใช้งานในจุดประสงค์อื่นในหลายปีต่อไป ซึ่งเป้าหมายสูงสุดของปอร์เช่คือการทำให้น้ำมันสะอาดเหล่านี้ถูกนำไปขายโดยบริษัทน้ำมันและกลุ่มตัวแทนด้านการขายน้ำมันเจ้าต่างๆ
e-fuel คืออะไร
มาทำความรู้จักกับ e fuel ว่ามันสะอาดกว่าน้ำมันทั่วไปรวมถึงไฟฟ้ายังไง
e fuel หรือ electrofuel เป็นน้ำมันสังเคราะห์ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากมลพิษในอากาศ โดยส่วนประกอบของ น้ำ ไฮโดรเจน และ คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งพลังงานสังเคราะห์จะทำหน้าที่เหมือนเชื้อเพลิงฟอสซิล นั่นหมายความว่า ผู้ที่ใช้รถยนต์รุ่นคลาสสิก หรือรถยนต์น้ำมัน ก็สามารถใช้พลังงานชนิดนี้ทดแทนได้
เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่
ปอร์เช่มีการคาดการณ์ตัวเลขที่จะผลิตได้ในช่วงต่างๆไว้ โดยตั้งเป้าในช่วงทดลองการผลิตไว้ที่ 130,000 ลิตร ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้าจะถูกวางแผนและขยายกำลังการผลิตไปที่ราว 55 ล้านลิตร และ 2 ปีต่อจากนั้นไปจะขึ้นไปสูงถึง 550 ล้านลิตร โดยการตั้งเป้าในครั้งนี้มาจากการร่วมลงทุนของปอร์เช่ที่มีขึ้นในช่วงท้ายปี 2020 โดยมีการลงทุนไปกว่า 24 ล้านดอลลาร์ ซึ่งได้มีพาร์ทเนอร์ในโครงการนี้มากมายไม่ว่าจะเป็น ExxonMobil หรือ Siemens Energy
ปอร์เช่ได้อะไรจากการลงทุนทดสอบ
จากการลงทุนทดสอบทั้งหมดที่เกิดขึ้นของปอร์เช่ ทางบริษัทได้กล่าวว่า e-fuel สามารถมีคุณสมบัติได้เหมือนน้ำมันแก๊สโซฮอล์ และสามารถที่จะทำให้รถยนต์เครื่องสันดาปเดิมๆ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยสามารถใช้งานกับระบบรถยนต์สันดาปเดิมๆได้เลย และยังสามารถใช้กับโครงสร้างการเติมน้ำมันแบบเดิมได้ ไม่จำเป็นต้องวางระบบโครงสร้างใหม่เหมือนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ที่ต้องลงทุนเป็นพันล้านเพื่อสร้างเครือค่ายการชาร์จของรถยนต์ไฟฟ้า
ไม่ง่ายแต่ถือว่าคุ้มที่จะลอง
แม้ว่าการนำ e-fuel เข้ามาแทนที่น้ำมันฟอสซิลทั้งระบบจะสามารถทำได้ แต่ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่ยากและท้าทายเพราะค่อนข้างใช้งบที่สูง โดยสถิติในปี 2021 น้ำมันกว่า 134.83 พันล้านแกลลอนถูกใช้ไปกับเครื่องยนต์สันดาปของรถยนต์ในสหรัฐฯ ตีเป็นค่าเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 369 ล้านแกลลอนต่อวัน อย่างไรก็ตามการผลิตน้ำมันในครั้งนี้สามารถที่จะทำให้ปอร์เช่สามารถผลิตรถยนต์ระดับตำนานของค่ายอย่างปอร์เช่ 911 ที่เป็นเครื่องยนต์สันดาปมากกว่าการไปสร้างรถยนต์ไฟฟ้าแบบใหม่ที่ให้ประสบการณ์ด้านการขับขี่ที่แตกต่างออกไปจากเครื่องยนต์สันดาปแบบเดิมๆที่เราคุ้นเคย
ล่าสุดปอร์เช่ได้ฉลองให้กับการพัฒนาในครั้งนี้โดยทำการโชว์เติมน้ำมัน e-fuel นี้ไปกับปอร์เช่ 911 ที่โรงงานในประเทศชิลี โดย Michael Steiner หัวฝ่ายออกแบบและพัฒนาของปอร์เช่กล่าวว่า “ e-fuelเป็นน้ำมันที่มีศักยภาพมาก ตอนนี้บนโลกมีรถอยู่ 1.3 พันล้านคัน ที่ยังคงใช้งานเครื่องยนต์สันดาปอยู่ ซึ่งหลายคันก็ยังจะคงถูกใช้งานไปอีกหลาย 10 ปี e-fuel ทำให้คนเหล่านี้ได้มี่ส่วนการช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ ”
อย่างไรก็ตามปอร์เช่ก็ยืนยันว่าการพัฒนาน้ำมันในครั้งนี้ จะไม่มีผลอะไรกับแผนที่บริษัทได้วางเอาไว้ว่าจะขายรถ 80 % ของไลน์อัพเป็นรถไฟฟ้าให้ได้ในปี 2030
แหล่งที่มาและข้อมูล
CNBC: https://www.cnbc.com/2022/12/20/porsche-starts-production-of-e-fuel-that-could-provide-gas-alternative.html
Porsche: https://newsroom.porsche.com/en/2022/company/porsche-highly-innovative-fuels-hif-opening-efuels-pilot-plant-haru-oni-chile-synthetic-fuels-30732.html