“สาวมาดแมน-ชายแท้แฝงตัว” กับข้อสงสัยในตัวนักกีฬา พวกเขาเพศอะไรกันแน่?

กลายเป็นเรื่องใหญ่ในวงการกีฬาโลก เมื่อสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (IAAF) ทำการยกเลิกคะแนนสะสมทุกประเภท และลบสถิติการวิ่งที่ผ่านมาของ 2 นักวิ่งสาวชาวจีน คือ เหลี่ยว เหมิงซู กับ ทง เจินหวน เนื่องจากถูกตั้งข้อสงสัยว่าทั้งคู่อาจจะเป็นผู้ชายที่แฝงตัวมาลงแข่งในรายการของผู้หญิง

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2019 เหลี่ยว เหมิงซู กับ ทง เจินหวน ในวัย 24 ปี ได้ลงแข่งรายการ IAAF World Championship ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น โดยทั้งคู่สามารถคว้าเหรียญทองประเภท 4×400 เมตรหญิงมาครองได้สำเร็จ

ไม่เพียงแค่นั้น เหลี่ยว เหมิงซู กับ ทง เจินหวน ยังสามารถคว้าเหรียญทอง และเหรียญเงิน จากประเภทหญิงเดี่ยว 400 เมตรมาครองได้อีกด้วย ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนกีฬาและผู้คนทั่วโลก

เพราะก่อนแข่งหลายฝ่ายก็เริ่มตั้งข้อสงสัยว่าทั้งคู่เป็นเพศอะไรกันแน่ เพราะดูจากรูปลักษณ์ภายนอก เช่น สรีระ หน้าตา ซี่โครง ความคอดของเอว พวกเธอไม่เหมือนกับนักกีฬาผู้หญิงเลย โดยเฉพาะบริเวณเป้าที่มีลักษณะตุงออกมาให้เห็นพอสมควร แต่ฝ่ายจัดการแข่งขันก็ปล่อยให้ทั้งคู่ลงแข่งจนคว้าเหรียญรางวัลกลับบ้านไป

นอกจากนี้ยังมีคลิปสัมภาษณ์หลังแข่งของทั้งคู่เผยแพร่ออกมา ซึ่งหลายคนที่ได้ฟังน้ำเสียงต่างก็ฟันธงว่า พวกเธอไม่ใช่ผู้หญิงอย่างแน่นอน แต่ถึงกระนั้นสื่อแดนมังกรและสมาคมกรีฑาจีนออกมาปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว และยืนยันว่า เหลี่ยว เหมิงซู กับ ทง เจินหวน เป็นผู้หญิงจริงๆ

แม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการว่าทั้งคู่เป็นเพศอะไรกันแน่ แต่ก็มีรายงานข่าวจาก Tencent และ Sohu ซึ่งอ้างว่านักวิ่งทั้ง 2 คน ไม่ได้ถูกลบสถิติ หรือถูกยกเลิกคะแนนสะสมแต่อย่างใด เนื่องจากทั้ง 2 คน ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติแล้ว ปัจจุบัน เหลี่ยว เหมิงซู กลายเป็นคุณแม่ ส่วน ทง เจินหวน ก็เลิกเล่นแล้ว

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สมาคมกรีฑาจีน ได้มีการออกกฎข้อบังคับให้ศูนย์กีฬาในทุกจังหวัดต้องดำเนินการตรวจฮอร์โมนส์เทสโทสเตอโรน หรือ ฮอร์โมนเพศชาย ในนักกีฬาหญิงทุกคน หากนักกีฬามีผลตรวจเกินค่ามาตรฐานก็จะไม่ได้อนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขันในระดับชาติ

ซึ่งเรื่องดังกล่าวยิ่งทำให้คนเกิดข้อสงสัยในตัว เหลี่ยว เหมิงซู กับ ทง เจินหวน มากขึ้นไปอีกว่าสาเหตุที่แท้จริงในการเลิกเล่นของทั้งคู่เป็นเพราะอะไรกันแน่

“แมงกาแนง” อดีตนักวอลเลย์บอลเป็นชายแท้

นอกจากเหตุการณ์ 2 นักวิ่งหญิงชาวจีนที่ได้นำเสนอไปข้างต้นแล้ว ยังมีกรณีของอดีตนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติอินโดนีเซีย ซึ่งนับว่าเป็นข่าวดังที่สุดในวงการวอลเลย์บอลอาเซียน เมื่อกองทัพอินโดนีเซียออกแถลงการณ์ยืนยันว่า เอพริล แมงกาแนง อดีตมือตบตัวเก่งแท้จริงแล้วเป็นผู้ชาย หลังจากที่เข้าตรวจร่างกายอย่างละเอียด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021

ทางการอินโดฯ เปิดเผยผลตรวจที่พบว่า ระบบ hypospadias หรือ ระบบทางเดินปัสสาวะมีความผิดปกติ คือ รูเปิดของท่อปัสสาวะ ไม่ได้เปิดที่ปลายสุดของอวัยวะเพศ แต่มาเปิดค่อนไปทางด้านล่างของอวัยวะเพศ

รวมถึงการตรวจฮอร์โมนพบว่า มีฮอร์โมนเพศชายที่มากกว่า จากการตรวจทางรังสีวิทยา และเจ้าตัวได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “เอพริลิโอ เปอร์คาซา แมงกาแนง”

ที่ผ่านมา แมงกาแนง คือตัวหลักของทีมชาติอินโดฯ มาตลอด และมักจะสร้างความหนักใจให้กับทีมนักตบลูกยางสาวไทยทุกครั้งที่พบกัน แต่การออกมาเปิดเผยว่า แมงกาแนง เป็นผู้ชาย ก็ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์อะไรมากมายสำหรับแฟนวอลเลย์บอลไทย เพราะถ้าหากดูจากฝีมือและน้ำหนักในการตบที่ผ่านๆ มา หลายคนก็มองว่านี่มันผู้ชายชัดๆ

จนกระทั่งเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2022 แมงกาแนง ได้จูงมือแฟนสาวเข้าพิธีวิวาห์อย่างชื่นมื่น หลังจากทั้งคู่หมั้นหมายกันมาตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปี

“แซม เคอร์” ปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อเล่นฟุตบอล

แซม เคอร์ นักเตะหญิงของเชลซี เคยปลอมตัวเป็นผู้ชาย เพื่อลงเล่นฟุตบอลสมัยเป็นเด็ก เนื่องจากไม่อยากได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากคนอื่น เพราะตัวเองเป็นเด็กผู้หญิง นอกจากนี้เธอยังบอกว่า มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งถึงกับร้องไห้ออกมา เมื่อได้รู้ความจริงว่าเป็นผู้หญิง

“แม้ฉันจะรักการลงเล่น แต่ด้วยความแตกต่างทางสภาพร่างกายระหว่างผู้ชายกับตัวฉัน มันเริ่มชัดเจนและยากลำบากที่จะเล่นต่อไป มีอยู่วันหนึ่ง ฉันกลับบ้านมาด้วยสภาพตาเขียวและปากแตก นั่นคือเหตุผลที่พ่อและพี่ชายของฉันบอกว่า ไม่เอาแล้ว มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก”

“ฉันโดนอัดน่วมตอนอยู่ในสนาม และนั่นมันเริ่มเป็นปัญหาใหญ่ พ่อและโค้ชของฉันมาจับเข่าคุย และบอกว่ามันเริ่มอันตรายสำหรับฉันที่จะลงเล่นต่อไป พวกเขาบอกว่าเสียใจ แต่ฉันจะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงเล่นอีกต่อไปแล้ว”

“ฉันเข้าใจถึงเหตุผล แต่ฉันเสียใจมากจริงๆ ในตอนนั้น ไม่มีทีมเด็กผู้หญิงในระแวกนั้นให้ฉันไปร่วมทีมด้วย และการได้รู้ว่าฉันจะไม่ได้เล่นกีฬาที่ฉันรักอีกครั้ง มันสิ้นหวังมากๆ” แซม เคอร์ กล่าวกับโกลดอทคอม

นักวิ่งระยะกลางหญิงแอฟริกาใต้ไม่มีมดลูก

อีกหนึ่งคนที่เคยตกเป็นข่าวดัง คือ คาสเตอร์ ซีเมนย่า (Caster Semenya) นักวิ่งหญิงระยะกลาง ชาวแอฟริกาใต้ เจ้าของ 2 เหรียญทองวิ่ง 800 เมตร กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ปี 2012, 2016 และแชมป์โลกวิ่ง 800 เมตร 3 สมัย ในปี 2009, 2011 และ 2017

ซีเมนย่า ในวัย 18 ปี เคยถูกคนตั้งข้อสงสัยว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่ เพราะสรีระภายนอกของเธอดูแมนกว่าผู้หญิงปกติทั่วไป และหลังจากที่เธอคว้าเหรียญทองวิ่ง 800 เมตร ในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลก ปี 2009 สหพันธ์กรีฑาโลกจึงขอตรวจเพศ วัดระดับฮอร์โมนเพศชาย ตรวจภายใน และทำอัลตราซาวด์

แม้จะไม่มีผลการตรวจร่างกายเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่มีข่าวเล็ดลอดออกมาว่า ร่างกายของเธอผลิตฮอร์โมนเพศชายมากกว่าผู้หญิงทั่วไปถึง 3 เท่า รวมทั้งไม่มีมดลูกและรังไข่ ซึ่งเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ โดยที่เธอไม่ได้ฉีดฮอร์โมน หรือผ่าตัดเอามดลูกออกแต่อย่างใด

ในปี 2015 ซีเมนย่า แต่งงานกับแฟนสาว ไวโอเล็ต เรสโบย่า (Violet Raseboya) หลังจากทั้งคู่คบหาดูใจกันมานานกว่า 10 ปี และอีก 4 ปีต่อมามีข่าวว่าแฟนสาวของเธอได้คลอดลูกสาว โดยที่ไม่มีรายงานเกี่ยวกับเรื่องการตั้งครรภ์ของ ไวโอเล็ต

แอบอ้างชื่อเป็นนักกีฬากรีฑาโซมาเลียลงแข่งขัน

เรื่องสุดท้ายอาจจะไม่ได้เกี่ยวกับเพศโดยตรง แต่เชื่อมโยงกับ 2 นักวิ่งหญิงชาวจีน เป็นเหตุการณ์สุดอื้อฉาวในกีฬามหาวิทยาลัยโลก 2023 ที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน เมื่อเดือนสิงหาคม เมื่อมีการเปิดเผยว่า ประเทศโซมาเลียส่งผู้หญิงที่ไม่ใช่นักกีฬาจริงๆ เข้ามาทำการแข่งขันวิ่ง 100 เมตรหญิง

คลิปการแข่งขันที่มีการเผยแพร่ออกมาได้สร้างความแปลกใจให้กับแฟนกีฬาทั้งโลก เพราะตัวแทนนักกีฬาจากโซมาเลียวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนสุดท้ายในรอบคัดเลือก ด้วยเวลา 21.81 วินาที ห่างจากนักกีฬาที่เข้าเส้นชัยอันดับ 1 ถึง 10 วินาที

The Ministry of Youth and Sports should step down. It's disheartening to witness such an incompetent government. How could they select an untrained girl to represent Somalia in running? It's truly shocking and reflects poorly on our country internationally. pic.twitter.com/vMkBUA5JSL

— Elham Garaad ✍︎ (@EGaraad_) August 1, 2023

ในเวลาต่อมา คาดิโจ อาเดน ดาเฮียร์ ประธานสหพันธ์กรีฑาของโซมาเลีย ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากโดนกล่าวหาว่าใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบทำให้ประเทศชาติเสื่อมเสียชื่อเสียง

ขณะที่ โมฮาเหม็ด บาร์เร โมฮามุด รัฐมนตรีกีฬาของโซมาเลีย กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องน่าละอายอย่างมาก ต้องขอโทษชาวโซมาเลียทุกคน โดยกระทรวงกีฬาจะฟ้องร้องทั้งอาเดน ดาเฮียร์ และสหพันธ์กรีฑาของประเทศ

รวมถึงองค์กรที่เกี่ยวข้อง ในข้อหาปลอมแปลงองค์กรกีฬา เนื่องจากการสอบสวนพบว่ามีการแอบอ้างองค์กรชื่อ สมาคมกีฬามหาวิทยาลัยแห่งโซมาเลียขึ้นมา