หากถามว่าอะไรคือสิ่งที่แสดงฐานะทางสังคมของคนๆ หนึ่ง อาจจะมีคำตอบที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น ชื่อเสียงโด่งดัง เงินทองล้นฟ้า บ้านหรูอลังการ รถคันงามที่วิ่งไว หรือคอนเนคชั่นรู้จักคนใหญ่คนโต แต่ถ้าย้อนกลับไปในสมัยอยุธยาแล้ว สิ่งที่แสดงฐานะทางสังคมในตอนนั้นกลับเป็นสิ่งที่มีขนาด “เล็ก” และอยู่ใน “ที่ลับ”
บทความจากหนังสือ “มนุษย์อยุธยา ประวัติศาสตร์สังคม จากข้าวปลา หยูกยา ตำรา SEX” ของ “กำพล จำปาพันธ์” ที่รวบรวมเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่เราไม่เคยคิดว่ามี เพื่อศึกษาว่า “มนุษย์อยุธยา” สมัยนั้นดำรงชีวิตอยู่กันอย่างไร มีความเชื่อ ความเป็นอยู่อย่างไร และอะไรบ้างที่ยังคงส่งต่อจนมาถึงปัจจุบัน
เนื้อหาตอนหนึ่งที่ชื่อว่า “ผ่าและฝัง แฟชั่นของคนแมนๆ สมัยอยุธยา” บอกเล่าถึงหนึ่งในสิ่งแสดงสถานภาพของบุรุษเพศสมัยอยุธยาว่า ผู้ชายอยุธยาและอุษาคเนย์มีความเชื่อมาแต่เดิมเกี่ยวกับขนาดและรูปร่างของอวัยวะเพศ ผู้ชายนิยมผ่าตัดฝังวัตถุ เช่น มุก ดีบุก เงิน ทอง และวัตถุขนาดเล็กอย่างอื่นลงในอวัยวะเพศของตน เพื่อกระตุ้นหรือเพิ่มรสให้กับกิจกรรมทางเพศมากขึ้น และยังใช้การดัดแปลงอวัยวะเพศเป็นเครื่องบ่งบอกสถานภาพ พระเจ้าแผ่นดินสามารถใช้วัตถุดังกล่าวเป็นของพระราชทานให้แก่ขุนนางที่จงรักภักดีหรือมีความดีความชอบ
ธรรมเนียมการฝังวัตถุในอวัยวะเพศชายอายุ 20 ปีขึ้นไปนี้ มิใช่เพิ่งมีเมื่อการค้ากับฝั่งตะวันตกรุ่งเรือง หรือมีเมื่อเปิดซ่องโสเภณีกันมากในคริสต์ศตวรรษที่ 16-18 เพราะเรื่องนี้มีปรากฏในเอกสารบันทึกของ “ม้าฮวน” (Ma Haun) ราชทูตจีนราชวงศ์หยวนที่เดินทางเข้ามาตรงกับในสมัยอยุธยาตอนต้น มีเนื้อความตามสำนวนแปลของคุณ “สุพจน์ แจ้งเร็ว” กล่าวไว้ดังต่อไปนี้
“พอชายมีอายุได้ยี่สิบปี พวกเขาจะดึงหนังหุ้มปลายองคชาตออกมา แล้วใช้มีดคมบางรูปร่างอย่างใบหอมกรีดผิว และยัดลูกปัดดีบุกโหลหนึ่งเข้าไปใต้ผิวหนัง ปิดมันไว้ แล้วเยียวยาด้วยสมุนไพร รอกระทั่งแผลหายสนิทดี พวกเขาจึงเดินไปไหนมาไหน (ลูกปัดดีบุกเหล่านั้น) มองๆ ดูก็เหมือนอย่างกับพวงองุ่น มีคนหมู่หนึ่งที่เป็นผู้รับจ้างทำการผ่าตัดเช่นนี้ พวกนี้มีความชำนาญในการฝังและหล่อเชื่อมลูกปัดดีบุกให้กับผู้คน เขาทำกันอย่างถือว่าเป็นอาชีวะอย่างหนึ่งทีเดียว”
นอกจากการฝังมุกที่อวัยวะเพศ ในสมัยอยุธยายังมีอีกสิ่งที่ใช้บ่งบอกสถานะทางสังคมของคนคือ “รอยสัก” ซึ่งเปรียบเสมือนตราประทับความเป็นไพร่ บนร่างกายของไพร่สมัยอยุธยาจะมีการสักประเภทต่างๆ ทั้งสักยันต์ อักขระ เพื่อความอยู่ยงคงกระพัน รอดพ้นจากคมหอก ดาบ ธนู และกระสุน
นอกจากนี้รอยสักยังใช้บ่งบอกถึงสังกัดของไพร่แต่ละคน โดยใช้ร่างกายเป็นพื้นที่สื่อสารว่าเป็นไพร่ของใคร มีหน้าที่อะไร โดยทั่วไปเมื่อไพร่มีอายุ 18 – 20 ปี จะต้องลงทะเบียนขึ้นสังกัดมูลนายด้วยการสักสัญลักษณ์ตามจุดสำคัญของร่างกาย เช่น คอ, ขา และข้อมือ เป็นต้น
แหล่งที่มาข้อมูล
มนุษย์อยุธยา ประวัติศาสตร์สังคม จากข้าวปลา หยูกยา ตำรา SEX โดย “กำพล จำปาพันธ์”
ศิลปวัฒนธรรม :: ชายกรุงศรีอยุธยา กับการ “ฝัง” สิ่งของไว้ใน “เครื่องเพศ” จากเอกสารจีน