แม้จะพลาดตำแหน่งนางสาวไทย ประจำปี พ.ศ. 2566 ตามที่หลายคนคาดหวังอยากให้มงลง แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นก้าวแรกในเส้นทางนางงามที่ประสบความสำเร็จอยู่ไม่น้อย สำหรับ “เบลล่า อะราเบล่า สิตานัน เกรโกรี่” เจ้าของตำแหน่งรองอันดับ 2 นางสาวไทย 2566
“เบลรู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้เป็นครอบครัวของนางสาวไทยประจำปีนี้ แล้วก็ดีใจมากๆ ที่ได้ร่วมกับเพื่อนๆ แชร์ข่าวสารข้อมูลจากทุกจังหวัด ทำให้เบลได้รู้จักประเทศไทยมากขึ้นค่ะ” ความในใจของเบลล่า อะราเบล่า หลังได้รับตำแหน่งรองอันดับ 2 ในระหว่างให้สัมภาษณ์กับทีมงาน FEED
“พรีลิม” ความกดดันมากกว่า “ไฟนอล”
เบลล่า : จะบอกว่ารอบพรีลิมแอบกดดันนิดนึง เพราะรู้สึกว่าเกร็งมากๆ แล้วมันออกทางสีหน้าด้วย แต่ว่าพอรอบไฟนอล ก็คือปล่อย มีความสุข เพราะมันเป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว ก็ปล่อยไปตามธรรมชาติตามความสุขตัวเองเลยค่ะ
วันไฟนอลเบลไม่กดดัน ไม่มีความกลัว ไม่มีอะไรเลย วันนั้นตอนที่ทุกคนรออยู่หลังเวที เบลรู้สึกว่าอยากออกไปแล้ว อยากเต้นมาก อยากโชว์พลังนู่นนี่นั่น คือรู้สึกว่าตัวเองมีพลังแข็งแรงมาก ก็เลยรู้สึกว่าพรีลิมกดดันกว่าไฟนอลค่ะ
คิดว่าตัวเองพลาดจุดไหน?
เบลล่า : ถ้าเริ่มจากรอบพรีลิมเบลรู้สึกว่าสปีชที่เบลพูด เบลตั้งใจที่จะพูดภาษาไทยเกินไป พอเบลท่องคำแล้วจำแบบไปท่องเกินไป แล้วพอจำคำนึงไม่ได้ มันมั่วหมดเลยค่ะ (ยิ้ม) วันนั้นเบลจำคำนึงไม่ได้ เบลก็เลยพูดออกมาจากใจเลย ซึ่งอาจจะเป็นพูดคำที่อาจจะดูเด็กไปหน่อยนึง
วันนั้นสิ่งที่เบลตั้งใจจะพูดคือ เบลทำงานตั้งแต่อายุ 13 ปี แคสงานมา 4 ปี แล้ว 4 ปีนั้นเบลได้งานน้อยมาก แทบจะไม่ได้เลยค่ะ แล้วเบลรู้สึกว่าการแคสงานโดยที่เราไม่รู้ว่าเราจะได้งานหรือเปล่า เบลก็ยังอดทน ยังสู้ ไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง พอผ่านจุดนั้นมาได้ตอนนี้ก็ได้งานแล้ว เลยอยากจะส่งพลังดีๆ ให้ทุกคน ที่กำลังท้อว่า อย่าเพิ่งท้อ บางทีมันอาจจะไม่ใช่เวลาของเรา ยังอยากให้ทุกคนสู้ต่อไป แต่ว่าเบลก็พูดอะไรออกไปก็ไม่รู้ (หัวเราะ)
“เบลเป็นคนชอบคิดมากเรื่องสปีชเรื่องการพูด เพราะว่าเป็นคนที่โดนติมาโดยตลอดเรื่องการพูด แล้วพอเป็นภาษาไทยปุ๊บมันเลยยิ่งกดดัน เบลเคยพูดภาษาอังกฤษมาแล้ว พอมารอบพรีลิมเบลเลยอยากจะโชว์บ้างว่าเบลก็พูดภาษาไทยได้เหมือนกัน แต่ว่าพอพูดไปก็อาจจะสลับหน้าถอยหลังไปนิดนึง แต่หลายคนก็ยังเข้าใจได้อยู่ก็ถือว่าโอเคค่ะ (ยิ้ม) ถามว่าวันนั้นเสียดายไหม วันนั้นเบลไม่ได้เสียดายนะ เบลรู้สึกว่าเบลยังพูดรู้เรื่องอยู่ แต่ถ้าให้ทำอีกรอบหนึ่งก็คิดว่าทำได้ดีกว่านี้ค่ะ”
เบลล่า อะราเบล่า สิตานัน เกรโกรี่
“ไม่เสียใจ” ที่ไปไม่ถึงฝัน
เบลล่า : ตอนที่ประกาศได้รองอันดับ 2 ถามว่าเสียใจไหมมันก็ผิดหวังนิดนึง เพราะว่าทั้งเบลทั้งพี่เลี้ยงทุกคนก็หวังให้เบลชนะ แต่สุดท้ายแล้วเบลก็ยังได้เป็นครอบครัวนางสาวไทย เบลภูมิใจมากๆ เพราะว่าจากเมื่อก่อนเบลเป็นคนที่ไม่กล้าพูด ไม่กล้าทำอะไรเลย แต่พอมาประกวดครั้งนี้ เบลรู้สึกว่าเบลพัฒนาหลายอย่างมาก กล้าพูดภาษาไทยมากขึ้น แล้วก็ทำในสิ่งที่ตัวเองยังไม่เคยทำ รู้สึกว่าเบลได้ชนะใจตัวเองค่ะ
เมื่อถามถึงโอกาสในเส้นทางนางงามในอนาคต จะมีโอกาสได้เห็นเบลกลับมาประกวดอีกหรือไม่ เจ้าตัวยิ้มรับคำถาม พร้อมตอบว่า “ลงค่ะ แต่ว่าคงต้องอีกสักสามสี่ปีข้างหน้า เพราะจะต้องไปพัฒนาตัวเองในหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพูด การเดิน และประเด็นสังคม ถ้าจะต้องลงอีกครั้งก็อยากกลับมาด้วยความพร้อมสุดๆ ไปเลย”
สิ่งที่รู้สึกประทับใจที่สุดในการประกวดครั้งนี้
เบลล่า : คือการที่เบลได้พรีเซนต์พัทลุงค่ะ เหมือนที่เบลเคยเล่าว่าคุณยายชอบฟังมโนราห์ แล้วเบลก็ชอบฟังเหมือนกัน เบลเลยรำมโนราห์ ตอนที่เบลประกวดไฟนอล เบลใส่ชุดสีเหลืองแล้วก็มีมโนราห์ด้วย เบลรู้สึกว่าการที่เบลได้พรีเซนต์จังหวัดตัวเอง ทำให้เบลรู้สึกมีความสุขค่ะ
“เบลอยากจะขอบคุณทั้งครอบครัว พี่เลี้ยงทีมพัทลุง ถ้าสมมติไม่มีทีมไม่มีครอบครัวที่ซัพพอร์ตได้ดีขนาดนี้ เบลอาจจะไม่ได้มาถึงจุดๆ นี้ แล้วก็ขอบคุณชาวพัทลุงมากๆ ที่ให้กำลังใจเบลเยอะมากๆ แล้วก็ขอบคุณแฟนนางงามทุกคนนะคะ ที่ช่วยให้กำลังใจเบลในไอจีแล้วก็ส่งพลังบวกมา ตอนเบลประกวด เบลเอาจังหวัดพัทลุงอยู่ในใจเบลแล้วก็ขึ้นประกวด เพื่อให้รู้สึกว่าเบลมีพลังและอยากจะทำให้ได้เต็มที่ที่สุดค่ะ”