“ช้างศึก” ทีมชาติไทย โชว์ฟอร์มแกร่งสมศักดิ์ศรี ดีกรีแชมป์อาเซียนสูงสุด 6 สมัย หลังจากเปิดสนามกีฬา ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ถล่มเอาชนะ “เสือเหลือง” มาเลเซีย 3-0
โดยนัดแรก ไทย บุกไปแพ้ มาเลเซีย ที่บูกิต จาลิล 0-1 ทำให้รวมผล 2 นัด ไทย ชนะ มาเลเซีย 3-1 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง เวียดนาม ที่เอาชนะ อินโดนีเซีย 2-0
สำหรับเกมรอบชิงชนะเลิศ นัดแรก เวียดนาม จะได้เล่นในบ้านก่อน วันที่ 13 มกราคม แข่งที่มีดินห์ สเตเดี้ยม เวลา 19.30 น. และนัดที่ 2 ไทยจะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของเวียดนาม วันที่ 16 มกราคม ที่สนามกีฬา ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เวลา 19.30 น. โดยทั้ง 2 นัด ถ่ายทอดสดทางช่อง 9 MCOT HD30 และ T-Sports 7
เกมนัดชิงชนะเลิศระหว่าง ไทย พบกับ เวียดนาม ถือเป็นคู่ชิงฯ ในฝันของใครๆ หลายคน มีความสมน้ำสมเนื้อที่สุด เพราะทั้ง ไทย และ เวียดนาม เป็นทีมที่มีเกมรุกดีที่สุด และเกมรับดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ และยังเป็นการชี้วัดว่าใครคือ “เบอร์ 1” ของอาเซียนโดยแท้จริง อีกทั้งยังเป็นการรีแมตช์นัดชิงฯ ครั้งแรกในรอบ 14 ปี
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2008 ทั้ง 2 ชาติเคยเจอกันในนัดชิงฯ ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ซึ่งในครั้งนั้นเวียดนามผงาดคว้าแชมป์ไปครองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังจากเอาชนะไทยด้วยสกอร์รวม 2 นัด 3-2 (นัดแรก ไทยเปิดบ้านแพ้เวียดนาม 1-2 และ นัดที่ 2 ไทยบุกเสมอเวียดนาม 1-1) กลายเป็นฝันร้ายของขุนพลช้างศึกที่พลาดหวังกับตำแหน่งแชมป์ในปีนั้น และหลังจากนั้นมาไทยกับเวียดนาม ก็ไม่เคยเจอกันอีกเลยในรอบชิงฯ จนกระทั่งในปีนี้
ย้อนดูเส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศ ทีมชาติไทย
รอบแบ่งกลุ่ม (แชมป์กลุ่มเอ)
บรูไน 0-5 ไทย
ไทย 4-0 ฟิลิปปินส์
อินโดนีเซีย 1-1 ไทย
ไทย 3-1 กัมพูชา
รอบรองชนะเลิศ
ไทย 3-1 มาเลเซีย
รอบชิงชนะเลิศ
ไทย Vs เวียดนาม (13 ม.ค. และ 16 ม.ค.)
ย้อนดูเส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศ ทีมชาติเวียดนาม
รอบแบ่งกลุ่ม (แชมป์กลุ่มบี)
สปป.ลาว 0-6 เวียดนาม
เวียดนาม 3-0 มาเลเซีย
สิงคโปร์ 0-0 เวียดนาม
เวียดนาม 3-0 พม่า
รอบรองชนะเลิศ
เวียดนาม 2-0 อินโดนีเซีย
รอบชิงชนะเลิศ
เวียดนาม Vs ไทย (13 ม.ค. และ 16 ม.ค.)
3 คีย์แมนสำคัญ ทีมชาติไทย
1. ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้า วัย 34 ปี อดีตศูนย์หน้าซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า และ ชิมิสึ เอส-พัลส์ ยิงไปแล้ว 6 ประตู ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวสูงสุดฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 และยิงรวม 25 ประตู กลายเป็นดาวซัลโวตลอดกาลของฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนในขณะนี้ แม้ว่าอายุจะขึ้นเลข 3 แล้ว แต่ความอันตรายและพิษสงรอบตัวยังคงเปี่ยมล้นเสมอ
2. ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีม วัย 32 ปี เขาคือผู้เล่นมากประสบการณ์ สามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่งทั้งแบ็กซ้ายและมิดฟิลด์ตัวจ่ายบอล ในทัวร์นาเมนต์นี้ ธีราทร ทำแอสซิสต์ได้ 4 ครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในเกมกับมาเลเซีย เมื่อเขาเป็นคนเปิดบอลให้ ธีรศิลป์ โหม่งพังประตูแรกให้ทีมชาติไทย
3. เอกนิษฐ์ ปัญญา กองกลาง วัย 23 ปี ถือเป็นหัวใจหลักในแดนกลางของทีมชาติไทย คอยขับเคลื่อนเกม ต่อบอลสร้างสรรค์เกมรุก เกมกับมาเลเซีย เอกนิษฐ์ เป็นคนจ่ายบอลให้ บดินทร์ ผาลา ยิงประตูที่ 2 และยังจ่ายบอลให้ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ก่อนที่แข้งการท่าเรือ เอฟซี จะเปิดบอลให้ อดิศักดิ์ ไกรษร ยิงประตูที่ 3 ปิดท้าย โดยเกมรอบรองชนะเลิศ เอกนิษฐ์ มีสถิติอัตราการจ่ายบอลสำเร็จอยู่ที่ 92 เปอร์เซ็นต์ และจ่ายบอลสำเร็จถึง 35 ครั้ง
3 คีย์แมนสำคัญ ทีมชาติเวียดนาม
1. เหงียน เทียน ลินห์ กองหน้า วัย 25 ปี (หมายเลข 22) จากสโมสรบีคาเม็กซ์ บินห์เยือง เขาเพิ่งทำคนเดียว 2 ประตูในเกมที่ชนะอินโดนีเซีย 2-0 พร้อมกับนำทีมชาติเวียดนามผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้เป็นทีมแรก และที่สำคัญเขาเป็นรองดาวซัลโวศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 ที่จำนวน 5 ประตู ซึ่งเจ้าตัวหวังว่าจะทำผลงานได้ดีอีกครั้งในเกมกับทีมชาติไทย เพื่อเป้าหมายคว้าแชมป์อาเซียน สมัยที่ 3 ต่อจากปี 2008 และ 2018
2. เหงียน กวง ไฮ กองกลาง วัย 25 ปี (หมายเลข 19) จากสโมสรโป แอฟเซ ในศึกลีก เดอซ์ ฝรั่งเศส โดยเพลย์เมกเกอร์ร่างเล็กผู้มีเท้าซ้ายอันทรงพลังคนนี้ ถือเป็นแข้งคนสำคัญของทีมชาติเวียดนามที่จะขาดไปไม่ได้เลย เพราะทักษะฝีเท้าอันยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับความสามารถเฉพาะตัว จุดเด่นของเขามีทั้งการยิงฟรีคิก และการผ่านบอลเข้าสู่พื้นที่อันตราย ดังนั้นนักเตะแนวรับของทีมชาติไทยจะต้องระวังเขาให้ดี
3. โด ฮุง ดุง กัปตันทีม วัย 29 ปี (หมายเลข 8) จากสโมสรฮานอย เอฟซี เขาคือผู้เล่นตัวหลักของทีมชาติเวียดนามมาตลอดหลายปี เป็นนักเตะที่เต็มไปด้วยคุณภาพและมีประสบการณ์สูง จึงไม่แปลกที่เขาจะเป็นศูนย์รวมจิตใจของนักเตะทุกคนในทีม อยู่ในชุดคว้าแชมป์อาเซียน ปี 2018, เหรียญทองซีเกมส์ ปี 2019, รองแชมป์คิงส์คัพ ปี 2019 และเคยได้รางวัลโกเด้นบอลของเวียดนาม ปี 2019 ถือเป็นนักเตะอีกคนที่น่าจับตามองในทัวร์นาเมนต์นี้ และเจ้าตัวก็หวังที่จะเป็นคนนำเพื่อนๆ ชูถ้วยแชมป์อาเซียน 2022 ฉลองอย่างยิ่งใหญ่
สถิติที่เคยพบกัน ไทย Vs เวียดนาม
ไทย กับ เวียดนาม เคยพบกันมาในทุกรายการ นับตั้งแต่ปี 1956 เจอกันรวมทุกรายการ 53 นัด ไทย ชนะ 19 / เสมอ 11 / เวียดนาม ชนะ 23 (สมัยเป็นเวียดนามใต้ ชนะ 20 นัด) หากนับเฉพาะรายการอาเซียนคัพ ไทย กับ เวียดนาม เคยเจอกันมาทั้งหมด 11 ครั้ง (นับตั้งแต่รายการนี้เริ่มจัดในปี 1996) ไทย ชนะ 6 / เสมอ 3 / แพ้ 2 นัด
สถิติทั้ง 11 นัด มีดังนี้ ปี 1996 รอบรองชนะเลิศ ไทย 4-2 เวียดนาม / ปี 1998 รอบรองชนะเลิศ เวียดนาม 3-0 ไทย / ปี 2002 รอบรองชนะเลิศ เวียดนาม 0-4 ไทย / ปี 2007 รอบรองชนะเลิศ เวียดนาม 0-2 ไทย / ปี 2007 รอบรองชนะเลิศ ไทย 0-0 เวียดนาม / ปี 2008 รอบแบ่งกลุ่ม ไทย 2-0 เวียดนาม / ปี 2008 รอบชิงชนะเลิศ / ไทย 1-2 เวียดนาม / ปี 2008 รอบชิงชนะเลิศ เวียดนาม 1-1 ไทย / ปี 2012 รอบแบ่งกลุ่ม ไทย 3-1 เวียดนาม / ปี 2020 รอบรองชนะเลิศ เวียดนาม 0-2 ไทย / ปี 2020 รอบรองชนะเลิศ เวียดนาม 0-0 ไทย
อีกสถิติที่น่าสนใจระหว่าง ไทย พบกับ เวียดนาม โดยในยุคของกุนซือ ปาร์ค ฮัง ซอ ที่เข้ามาคุมทีมตั้งแต่ปี 2017 ปรากฏว่า ไทยเอาชนะเวียดนามได้เพียงแค่ครั้งเดียว (รวมทุกรายการ ทั้งชุดใหญ่ ชุดยู-23 และชุดซีเกมส์) คู่นี้เคยดวลกันมา 9 ครั้ง แบ่งเป็น เวียดนาม ชนะ 4 / เสมอ 4 / แพ้ 1
สถิติ ไทย Vs เวียดนาม ชุดยู-23 ปี
9 ธ.ค. 2017
ไทย 1-2 เวียดนาม (M-150 Cup รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี)
26 มี.ค. 2019
เวียดนาม 4-0 ไทย (ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี)
5 ธ.ค. 2019
ไทย 2-2 เวียดนาม (ซีเกมส์ ปี 2019)
22 พ.ค. 2022
เวียดนาม 1-0 ไทย (ซีเกมส์ ปี 2021)
สถิติ ไทย Vs เวียดนาม ชุดใหญ่
5 มิ.ย. 2019
ไทย 0-1 เวียดนาม (ฟุตบอลคิงส์คัพ บุรีรัมย์)
5 ก.ย. 2019
ไทย 0-0 เวียดนาม (ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง)
19 พ.ย. 2019
เวียดนาม 0-0 ไทย (ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง)
23 ธ.ค. 2021
ไทย 2-0 เวียดนาม (อาเซียนคัพ ปี 2020)
26 ธ.ค. 2021
ไทย 0-0 เวียดนาม (อาเซียนคัพ ปี 2020)
สถิติ ไทย Vs เวียดนาม 5 นัดหลังสุด (ชุดใหญ่)
26 ธ.ค. 2021
ไทย 0-0 เวียดนาม (อาเซียนคัพ 2020 รอบรองนัดที่ 2, สิงคโปร์)
23 ธ.ค. 2021
เวียดนาม 0-2 ไทย (อาเซียนคัพ 2020 รอบรองนัดแรก, สิงคโปร์)
19 พ.ย. 2019
เวียดนาม 0-0 ไทย (คัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 รอบสอง โซนเอเชีย, มีดินห์ สเตเดี้ยม)
5 ก.ย. 2019
ไทย 0-0 เวียดนาม (คัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 รอบสอง โซนเอเชีย, ธรรมศาสตร์ รังสิต)
5 มิ.ย. 2019
ไทย 0-1 เวียดนาม (ฟุตบอลคิงส์คัพ รอบชิงชนะเลิศ, บุรีรัมย์)
ขอคว้าแชมป์อาเซียน เพื่อตอบแทนทุกคน
ปาร์ค ฮังซอ เฮดโค้ชทีมชาติเวียดนาม ชาวเกาหลีใต้ ประกาศนำทีมคว้าแชมป์อาเซียน เพื่อปิดฉากการทำงานกับทีมชาติเวียดนามอย่างสมบูรณ์แบบ โดยกุนซือวัย 65 ปี อยู่คุมทีมมาอย่างยาวนานถึง 5 ปี เข้ามายกระดับ พัฒนาขีดความสามารถของนักเตะ จนประสบความสำเร็จในหลายๆ รายการ อาทิ นำเวียดนามผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย, คว้าแชมป์อาเซียน ปี 2018, คว้ารองแชมป์เอเชีย ชุดยู-23 ปี ในปี 2018, แชมป์ซีเกมส์ 2 สมัย ในปี 2019 และ 2021
“ผมภูมิใจกับผู้เล่นทุกคนที่สามารถผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้ ผมมีงานในนัดชิงชนะเลิศที่จะต้องทำให้สำเร็จ คือพาทีมคว้าแชมป์ให้ได้ เพื่อตอบแทนทุกคนตลอด 5 ปีที่ผ่านมา”
ปาร์ค ฮัง ซอ กล่าว
มุ่งเจาะไข่แดงเวียดนาม คว้าผลงานที่ดีกลับมา
มาโน่ โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า เกมแรกเป็นเกมที่สำคัญ เป้าหมายของเราคือเก็บผลงานและสกอร์ที่เราต้องการในการไปเยือนเวียดนาม ถ้าเราทำผลงานได้ดีในเกมแรก แน่นอนว่าเราจะกลับมาเล่นต่อหน้าแฟนบอลในเกมที่ 2 หากเวียดนามเล่นหนัก เราก็ต้องเล่นหนักเหมือนกัน หนักก็ต้องเจอหนัก แต่หนักแค่ในเกม ไม่ใช่นอกเกม
“เราพร้อมสู้กับพวกเขา พวกเขามีเกมรับที่ดี ไม่เสียประตู เราต้องทำให้ดี และคว้าผลงานที่ดีกลับมา เป็นเกมรอบชิงชนะเลิศที่หลายประเทศจับตาอยู่ ระหว่าง ไทย กับ เวียดนาม เป็น 2 ทีมที่มีคุณภาพ เป็นการเจอกันของทีมที่มีสถิติเกมรุกดีที่สุดในรายการนี้ กับทีมที่มีเกมรับดีที่สุดในรายการนี้ มันเป็นคู่ชิงฯ ที่สมควรจะเกิดขึ้น ด้วยสถิติของรายการที่เราเล่นมาในทัวร์นาเมนต์นี้ และหวังว่าแฟนบอลจะได้ดูเกมคุณภาพทั้ง 2 เกม”
มาโน่ โพลกิ้ง ระบุ
แชมป์อาเซียนคือของขวัญปีใหม่ที่สำคัญ
“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ยอมรับว่า การพบกับเวียดนาม 2 นัด ทั้งการออกไปเยือน และเล่นในบ้าน จะเป็นเกมที่ยากของทีมชาติไทย แต่ก็จะพยายามรักษาถ้วยใบนี้ให้อยู่กับเราต่อไป และถ้าหากทำได้สำเร็จ ก็จะถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่อีกชิ้นให้กับคนไทย ขณะที่ยอดเงินอัดฉีดล่าสุดอยู่ที่ 10 ล้านบาท
2 นักเตะอดีตทีมชาติ มองเกม ไทย Vs เวียดนาม
เทิดศักดิ์ ใจมั่น อดีตกองกลางทีมชาติไทย ปัจจุบันเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนพัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด ในศึกไทยลีก 3 แสดงมุมมองว่า นัดแรกไทยคงต้องเล่นรัดกุมก่อน อยู่ที่ว่าจะรับตรงไหน เช่น แดนกลาง หรือแดนสุดท้าย แต่ถ้าหากโค้ชมาโน่ วางเกมรับลึกมากเกินไป ก็จะอันตรายมาก เพราะกองหน้าเวียดนามอย่าง เหงียน เทียน ลินห์ เล่นลูกโหม่งได้ดี เชื่อว่านักเตะไทยไม่กลัวอยู่แล้ว และหวังว่าจะได้ผลสกอร์ที่ดีกลับมา
ธงชัย สุขโกกี อดีตนักเตะทีมชาติไทย และหัวหน้าผู้ฝึกสอน “เสือป่าราชา” นครปฐม ยูไนเต็ด ในศึกไทยลีก 2 กล่าวว่า ฟุตบอลเล่นกันไม่ได้มีแค่แท็กติก แน่นอนว่าเวียดนามต้องการให้ผู้เล่นไทยติดใบเหลือง เช่น สารัช อยู่เย็น, ศุภนันท์ บุรีรัตน์, พรรษา เหมวิบูลย์ ซึ่งเป็นตัวหลักของเราได้ใบเหลืองในเกมแรก เพื่อจะได้เล่นงานในนัดที่ 2
“ถ้าเขาจะเอาตัวที่ไม่ติดโทษแบน มาแลกเหลือง ผลักกันไปผลักกันมา ดันกันไปดันกันมา แล้วกรรมการแจกใบเหลืองคู่ แต่เหลืองคู่ของเรา เราไม่คุ้ม เป็นดาบสองคม ต้องระมัดระวังให้ดี แต่กลยุทธ์แบบนี้เชื่อเหลือเกินว่าทีมชาติไทยจะใช้น้อยกว่า หรือไม่ใช้เลย” โค้ชธง กล่าว