เทศกาลคริสต์มาส เป็นเทศกาลที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความสุข ความสนุกสนาน และความรื่นเริง ผู้คนออกจากบ้านมาจับจ่ายใช้สอย นัดกินเลี้ยงพบปะสังสรรค์ แต่งตัวสวยงาม หลายสถานที่ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร หรือคาเฟ่ต่างก็เริ่มทยอยตกแต่งในธีมคริสต์มาส เมื่อเราหันไปมองทางไหนก็มักจะพบสีแดงและสีเขียวอยู่เสมอ แต่เคยสงสัยไหมว่า ทำไมสีแดงและสีเขียวถึงกลายมาเป็นสีประจำของเทศกาลคริสต์มาสได้ วันนี้เราจะพาทุกคนมาไขคำตอบกัน
ประวัติวันคริสต์มาส
‘คริสต์มาส’ คือวันแห่งการเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู และแสดงถึงความรักของมนุษย์ที่มีต่อพระเจ้าหรือศาสดาของศาสนาคริสต์ ซึ่งตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี โดย ‘Christmas’ มาจากคำโบราณว่า ‘Christes Maesse’ หมายถึง “พิธีมิสซาของพระคริสต์” ภายหลังเปลี่ยนมาเป็นคำว่า ‘Christmas’ พร้อมเสริมคำว่า ‘Merry’ หมายถึง “ความสงบทางใจและสันติสุข” เมื่อนำสองคำนี้มารวมกันจึงเกิดเป็นคำว่า ‘Merry Christmas’ ที่ทุกคนต่างใช้เป็นคำทักทายในช่วงเทศกาลนี้
นอกจากนั้น การมาถึงของเทศกาลคริสต์มาสยังทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นเต้นและสนุกสนานที่จะได้ตกแต่งและเฉลิมฉลองด้วยต้นสนที่ประดับประดาไฟระยิบระยับและสิ่งของกระจุกกระจิก อีกทั้งยังมีมิสเซิลโท กวางเรนเดียร์ และซานตาคลอส ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นสีแดงและสีเขียว
ที่มาของสีแดงและสีเขียวในวันคริสต์มาส
โดยสีแดงและสีเขียวเชื่อว่ามาจาก ‘ต้นฮอลลี่’ (Holly Tree) หนึ่งในสัญลักษณ์ของวันคริสต์มาส สีเขียวชอุ่มของต้นฮอลลี่แสดงถึงการมีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์ ลักษณะเด่นเป็นพุ่มไม้เตี้ย เติบโตสวยงามท่ามกลางฤดูหนาว ในแง่ศาสนาผลสีแดงสดของต้นฮอลลี่คือสัญลักษณ์หยาดโลหิตของพระเยซูที่ไหลลงบนไม้กางเขนอันแสดงให้เห็นถึงหัวใจที่ศรัทธาและความรักที่มีต่อพระเจ้า ส่วนใบไม้ที่มีหนามแหลมคมนั้นเป็นสิ่งเตือนใจชาวคริสต์ ถึงมงกุฎหนามที่พวกทหารโรมันได้นำมาวางไว้บนศีรษะของพระเยซู
นอกจากนี้ยังพบว่าผลและใบของต้นฮอลลี่ได้รับความนิยมนำมาทำเป็นพวงหรีดคริสต์มาส (Christmas Wreath) ประดับหน้าบ้าน เพื่อระลึกถึงมงกุฎหนามบนศีรษะของพระเยซู นอกจากนั้นในช่วงยุคกลางซึ่งเป็นช่วงยุคมืดของชาวยุโรป ชาวบ้านก็มีประเพณีและความเชื่อว่าพวงมาลัยคริสต์มาสในส่วนใบสีเขียวจะช่วยปกป้องบ้านเรือนจากพลังชั่วร้าย และผลสีแดงสดจะช่วยขับไล่พวกแม่มดให้ออกจากบ้านได้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้สีแดงและสีเขียวกลายเป็นสีประจำของเทศกาลคริสต์มาสต่อมาเรื่อยๆ และยังนำความโชคดีมาสู่ผู้ประดับอีกด้วย
อ้างอิง
https://www.silpa-mag.com/culture/article_13937
https://www.thairath.co.th/lifestyle/culture/1990956
https://www.celebratingholidays.com/?page_id=1556
https:/ /christschurch.community/of-christmas-trees-and-holly-leaves/
https:// www.flowerkingdom.com/blog/the-symbolic-significance-of-holly/
https:// www.nytimes.com/1988/12/25/nyregion/wreaths-carry-many-meanings-and-messages-into-christmas.html