การเดินทางกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่ COVID-19 แพร่ระบาดมานานกว่า 2 ปีแล้ว ตอนนี้ภาคการท่องเที่ยวกลับมามีสีสันมากยิ่งขึ้น เหล่านักธุรกิจและนักท่องเที่ยวกลับมาเดินทางไปยังจุดหมายต่างๆทั่วโลกดังเดิม แต่แน่นอนครับในการแพร่ระบาดครั้งนี้ ทุกการเดินทาง ทุกสถานที่ที่เดินทางไป ทุกคนยังคงมีความเสี่ยงอยู่เสมอ ซึ่งนอกจากการสวมใส่แมสก์และล้างมือบ่อยๆแล้ว วันนี้เรามีเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆใน การเดินทาง จากผู้เชี่ยวชาญทางสุขภาพมาฝากผู้อ่านทุกท่านกันครับ

การเดินทาง

แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการมีสุขภาพดี รวมไปถึงการมีภูมิคุ้มกันที่ดีคือการรับประทานอาหาร แน่นอนว่าในการเดินทางบนเครื่องบินนั้น เราไม่ได้สามารถที่จะหาอาหารที่ดีต่อสุขภาพทานได้มากนัก ดังนั้นการเตรียมตัวที่ดีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก 

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของ SHA Wellness Clinic อย่าง ดร. Vicente Mera หัวหน้าแผนกเวชศาสตร์จีโนมของ SHA กล่าวว่า “กุญแจสำคัญคือการพัฒนา “ระบบภูมิคุ้มกันที่ยืดหยุ่นซึ่งสามารถป้องกันตัวเองจากการถูกโจมตีจากไวรัสและแบคทีเรีย”  ในการเดินทางสามารถรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของผัก ซึ่งสามารถช่วยลดการอักเสบได้ ส่วนไฟเบอร์ในอาหารจากพืชยังช่วยให้ไมโครไบโอมในลำไส้ต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้ามาหรือถูกกระตุ้นผ่านระบบทางเดินอาหาร

นอกจากนี้ Melanie Waxman ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเชิงบูรณาการและโค้ชด้านการรับประทานอาหารที่ SHA Wellness Clinic ยังได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารอัดแน่นเป็นคำแนะนำ” ซึ่งนั่นหมายถึงการรับประทาน ผัก ธัญพืชเต็มเมล็ด สมุนไพรสด ถั่ว ผักทะเล ผลไม้ ถั่ว เมล็ดพืช และอาหารหมักดอง นอกจากนั้น คุณ Waxman ยังได้แนะนำถึงกลุ่มอาหารที่นักเดินทางควรจะมีติดตัวขึ้นเครื่องระหว่างเดินทางดังนี้

การเดินทาง
ดร. Vicente Mera ดำรงหัวหน้าแผนกเวชศาสตร์จีโนมของ SHA

สาหร่ายอบกรอบ โดยเป็นอาหารที่เบา พกพาไปได้ง่าย และยังเป็นกลุ่มอาหารที่มีวิตามินซีสูง มีโอเมก้า3 และ แร่ธาตุต่างๆที่เป็นประโยชน์

มิโสะซุปพร้อมทาน ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นทั้งหมดและยังเป็นการคืนโปรไบโอติกที่เป็นประโยชน์กับลำไส้ เหมาะสำหรับเที่ยวบินและห้องพักในโรงแรม เพียงแค่เติมน้ำเดือดลงในซอง ก็สามารถรับประทานได้

ผงสาหร่ายเกลียวทอง เต็มไปด้วยแคลเซียมและโปรตีน มีปริมาณคลอโรฟิลล์สูงเป็นประโยชน์หลังจากใช้เวลาหลายชั่วโมงในห้องโดยสารบนเครื่องบิน รสชาติอาจเข้มข้น ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้เติมใส่ไปในน้ำผักเพื่อให้รับประทานได้ง่าย หรือสามารถหาซื้อรับประทานแบบแคปซูลได้ตามที่สะดวก

ลูกพลัม เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนเดินทางที่มีประโยชน์อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากมีความเป็นด่างสูง เต็มไปด้วยแร่ธาตุที่ช่วยเพิ่มพลังงาน ช่วยย่อยอาหาร เพิ่มภูมิคุ้มกัน และปรับปรุงการทำงานของตับ สามารถบรรจุในภาชนะและง่ายต่อการแพ็คกระเป๋าขึ้นเครื่อง”

การเดินทาง

สิ่งที่สามารถเตรียมตัวได้เพิ่มเติม ก่อนการเดินทาง คงหนีไม่พ้นมื้อเช้าโดย คุณ Waxman แนะนำให้ดื่มน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือ Apple cider Vinegar หนึ่งช้อนโต๊ะผสมกับน้ำหนึ่งแก้วก่อนอาหารเช้าเป็นตัวกระตุ้นภูมิคุ้มกันและเต็มไปด้วยโปรไบโอติก สำหรับอาหารเช้านั้นเธอแนะนำ ข้าวโอ๊ตราดด้วยผลเบอร์รี่ เมล็ดเจีย และเมล็ดแฟลกซ์ ช่วยให้ร่างกายผลิตเมลาโทนินได้ตามธรรมชาติมากขึ้น โดยข้าวโอ๊ตมีกรดอะมิโน โพแทสเซียม วิตามินบี แมกนีเซียม และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ส่วนผลเบอร์รี่มีวิตามินซีสูง เมล็ดพืชให้โอเมก้า 3 และโปรตีน

ส่วน การเดินทาง แล้วมีสภาวะ Jet Lag นั้นเธอได้แนะนำให้รับประทานเหล่าอาหารที่เพิ่มวิตามินซีให้แก่ร่างกาย เธอแนะนำให้กินกะหล่ำปลีดองทั้งก่อนและหลังขึ้นเครื่องบิน  เธอกล่าวว่า “การหมักกะหล่ำปลีทำให้ระดับวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระพุ่งสูงขึ้น” นอกจากนี้ยังได้มีการแนะนำน้ำผักสดที่ดีต่อการสร้างภูมิคุ้มกันและการฟื้นตัวจากอาการJet Lag

การเดินทาง

นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังให้คำแนะนำต่างๆ สำหรับการเตรียมตัวก่อนเดินทางเพิ่มเติมมาอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการนอนซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกันระหว่างการนอนและระบบภูมิคุ้มกัน การนอนที่ดีคือการนอนที่เพียงพอและมีคุณภาพ กล่าวคือการนอนที่มีคุณภาพสามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้ ใครที่นอนกรน หรือมีการนอนที่น้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อคืนหรือน้อยกว่า 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีความเสี่ยงป่วยสูง อีกอย่างที่สำคัญคือการออกกำลังกาย การออกกำลังกายที่พอดี ไม่หักโหมจนเกินไปสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระบบภูมิต้านทานได้ เพียงแค่การออกกำลังกายแค่ 30 นาทีต่อวันก็นับว่ามากเพียงพอ อย่างสุดท้ายที่ได้รับการแนะนำคือการรับประทานกลุ่มอาหารเสริม ซึ่งมีการศึกษาพบว่าเหล่าอาหารเสริมพวกวิตามินซี วิตามินดี สังกะสี และกลุ่มชาเขียว สามารถเสริมสร้างการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ ช่วยในการชดเชยการขาดสารอาหารในช่วงที่ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอทำให้ระบบภูมิคุ้มกันตกได้

แหล่งที่มาและข้อมูล : CNBC

Straight roads are for fast cars, turns are for fast drivers.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก