“มันเป็นสิ่งที่อายภาคภูมิใจในตัวเองมาก เพราะว่าอายไม่คิดไม่ฝันเลยว่าในวันหนึ่งเราสามารถมายืนตรงจุดนี้ได้ มันคือความฝันของเรา ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นที่หนึ่ง แต่เราก็เป็นที่หนึ่งในใจใครหลายๆ คน”
เป็นอีกหนึ่งนางงามที่ได้รับเสียงชื่นชมและชื่นชอบในเรื่องเพอฟอร์แมนซ์การเดินเป็นอย่างมาก สำหรับ “อาย กัญญาลักษณ์ หนูแก้ว” เจ้าของตำแหน่ง รองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ดีกรีอดีตผู้ชนะเลิศ Elite Model Look Thailand 2016 และเป็นตัวแทนเข้าร่วมประกวด Elite Model Look International 2016 ที่ประเทศโปรตุเกส เธอจึงมีท่วงท่าการเดินที่ถูกใจแฟนนางงามน้อยใหญ่ ในทุกครั้งที่ใส่รองเท้าส้นสูงเดินออกมา จนเรียกได้ว่าเป็นท็อปอันดับต้นๆ สายเพอฟอร์แมนซ์การเดินในการประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ที่เพิ่งจบไป
อายเป็นอีกหนึ่งสาวงามที่เลือกเดินตามหาความฝันในเส้นทางนางงาม ผ่านมาแล้วหลายเวทีการประกวด ตั้งแต่ปี 2018 ได้เป็น 10 คนสุดท้ายการประกวดมิสแกรนด์ยะลา ต่อมาในปี 2019 ได้รับตำแหน่งมิสแกรนด์ระยอง แต่ก็ยังไปไม่ถึงฝันใหญ่อย่างตำแหน่งมิสแกรนด์ไทยแลนด์ได้เสียที ล่าสุดกับกลับมาลงประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 เป็นครั้งแรก พร้อมกับคว้าตำแหน่งรองอันดับ 2 มาครองได้สำเร็จ
เขียนความสำเร็จของตัวเอง กับตำแหน่งรองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022
ดีใจค่ะ อย่างน้อยเราก็ประสบความสำเร็จในความพยายามของเราแล้ว เชื่อไหมว่าอายเดินซ้อมเยอะมาก ซ้อมมาตั้งแต่อายอายุ 18 เราเป็นคนที่ชอบในเรื่องของการเดิน เพราะว่าพื้นฐานมาจากเวทีนางแบบก่อน พอเริ่มต้นเข้าสู่การประกวดนางงามเหมือนเราต้องรื้อฟื้นใหม่ เพราะว่านางงามกับนางแบบมันคนละโยชน์กันเลย แต่เราสามารถดึงทั้งนางงามและนางแบบมาผสมกันได้ มันเลยออกมาอย่างที่เห็น ดีใจมากๆ ที่คนชอบและได้เสียงตอบรับค่อนข้างเยอะขนาดนี้ ก็ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่ชอบเพอฟอร์แมนซ์ของหนู
ตรงนี้ไม่ใช่แค่เราที่ดีใจคนเดียว คุณพ่อคุณแม่ก็ดีใจ คุณพ่อคุณแม่อายก็คล้ายๆ คุณพ่อคุณแม่ของแอนนาเลย เราสองคนมีสตอรี่ที่คล้ายๆ กัน กับความสำเร็จตรงนี้คุณพ่อคุณแม่ก็ดีใจด้วย เขาเป็นคนพูดน้อย แต่อายรู้นะว่าเขาดีใจมาก สายตาเขาบอก ความดีใจด้วยของเขามันมาพร้อมน้ำตา มันทำให้อายรู้สึกว่าวันนี้เราประสบความสำเร็จแล้วนะ อย่างน้อยน้ำตาที่เขาหลั่งมา เขาไม่ได้เสียใจ แต่มันคือความภาคภูมิใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่
รู้ดีว่าจุดอ่อนของตัวเองคือเรื่อง “การพูด” อายจึงพยายามฝึกฝนเพื่อที่จะก้าวข้ามจุดอ่อนข้อนี้ให้ได้ เพราะรู้ดีว่าหากสามารถผ่านด่านนี้ไปได้ โอกาสจะรอเธออยู่ข้างหน้าแน่นอน
เรารู้ตัวเองว่าเราอาจจะพูดไม่เก่ง เราพูดไม่เท่าเพื่อน แต่สิ่งเหล่านี้เหมือนกับการที่อายฝึกการเดินค่ะ มันสามารถฝึกกันได้ เพราะฉะนั้นอายก็ยอมรับนะกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เราก็ขอเรียนรู้และพัฒนาตัวเองไปดีกว่า เราจะไม่จมปลักหรืออยู่กับอดีตที่คนเคยว่าเรา และในวันที่เป็นวันไฟนอล เราพิสูจน์ตัวเองแล้วว่า เราไม่ตายไมค์นะคะ
ในรอบห้องดำ เราก็กลับมานั่งทบทวนในสิ่งที่เราไปอ่านหรือไปเสพมาจากสื่อ เราอาจจะไม่ได้คิดอะไร แต่เราเอาเข้ามาในหัวโดยที่เราไม่ทันได้รู้ตัว มันกลายเป็นเหมือนการปลูกฝังไมโครชิพให้เราจมอยู่กับความคิดเหล่านั้น เราก็เลยกลับมาตั้งสติกับตัวเองก่อน กลับมาไม่ใส่ใจอะไรก่อน ไม่โฟกัสกับอะไรลบๆ ตรงนั้น พอเราไม่ใส่ใจปุ๊บนะ มันออกมาอย่างที่เห็นเลยค่ะ แล้วเราทำได้ เพราะฉะนั้นอายอยากจะบอกว่าถ้าเกิดมีใครสักคนหนึ่งที่เขากำลังรู้สึกว่าเรากำลังโดนกระแสโจมตีในทางลบ อยากจะให้ทุกคนพักเรื่องนั้นไปเลย พักโซเชียล แล้วก็โฟกัสกับตัวเอง หาเวลาให้กับตัวเอง กลับมาดูตัวเองแล้วก็รักตัวเองให้มากๆ อายเชื่อว่าเราจะทิ้งทุกอย่างไปเลยนะ สิ่งเหล่านี้อายทำแล้วแล้วมันเกิดขึ้นจริง
สิ่งแรกเลยคือการพัฒนาตัวเองตลอดเวลา การที่อายมายืนตรงจุดๆ นี้ได้ เพราะคำๆ เดียวเลย “โอกาส” ถ้าเราไม่พัฒนาตัวเอง เท่ากับเราจมอยู่กับอดีต ในวันนี้เรามีโอกาสแล้ว พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาดีกว่า พอเราพัฒนาตัวเองเราก็จะไปได้ไกลขึ้น แล้วมันทำให้เรารู้สึกภาคภูมิใจ ในวันนี้เราอาจจะท้อ อาจจะรู้สึกเหนื่อย แต่วันหนึ่งที่เราประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เพียงแค่อายคนเดียวที่ดีใจ อายเชื่อว่าคอนรอบข้างจะดีใจและภูมิใจไปกับเราด้วย
ก่อนหน้านี้มันมีความรู้สึกว่า เอ๊ะ! เราจะไปต่อดีไหม ก่อนที่จะมาประกวด เราไม่รู้หรอกว่าเส้นทางปลายทางของเรากับการประกวดนางงามมันจะไปได้ไกลสักแค่ไหน แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยมันก็อยู่กับที่หรือเปล่า สิ่งเหล่านี้มันเหมือนเป็นตัวดึงสติอายว่าลงมือทำดีกว่า ถึงแม้ว่ามันจะพัฒนาหรือไม่พัฒนา อย่างน้อยมันก็ต้องพัฒนาขึ้นแหละไม่มากน้อยก็ตาม แต่เราได้เห็นแล้วว่าเราพัฒนามาไกลจริงๆ ในระยะเวลาแค่ 1 เดือน แต่เป็น 1 เดือนที่มีคุณค่าและมีความหมายกับอายมากๆ ถ้าทุกคนสังเกตหรือคนที่คอยติดตามอายมาโดยตลอดก็จะสังเกตได้ว่าอายพูดเก่งขึ้น อายทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น
รอบไฟนอล อายได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า เธอไม่ช็อตไมค์เหมือนที่ผ่านๆ มา และความสำเร็จตรงนี้คือบทพิสูจน์ว่าเธอ “ปลดล็อก” ตัวเองได้สำเร็จ
ปลดล็อกค่ะ ตอนแรกเหมือนเราจมปลักอยู่กับอดีต อายเป็นคนที่เซนซิทีฟง่ายมาก แค่เห็นสัตว์ในสารคดีมันไม่มีข้าวกินอายก็ร้องไห้แล้ว พอเรามาอยู่ตรงนี้เราแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เราสตรองมากขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันถาโถมเข้ามามันทำให้อายได้เรียนรู้อะไรมากยิ่งขึ้น แล้วมันทำให้อายได้ให้กำลังใจตัวเองมากยิ่งขึ้น ในวัยเด็กอายมักจะหาความรักหรือแรงสนับสนุนจากผู้อื่นมากกว่าตัวเอง จนสุดท้ายเราต้องกลับมาโฟกัสตัวเองก่อนอันดับแรก
แล้วสิ่งนี้มันเลยทำให้อายคิดได้ว่า ทำไมที่ผ่านมาเราไปโฟกัสคนอื่นมากกว่า ทั้งๆ ที่ใจเราเป็นอันดับแรกที่เราควรจะนึกถึงก่อน และในวันนี้อายก็ปลดล็อกตัวเองได้แล้ว อย่างที่ทุกคนเห็นเลย อายจะไม่มีน้ำตา ไม่ร้องไห้ ไม่มีดราม่าอะไรใดๆ นั่นเป็นเพราะว่าอายฟื้นฟูหัวใจตัวเองได้แล้ว
มันเป็นสิ่งที่อายภาคภูมิใจในตัวเองมาก เพราะว่าอายไม่คิดไม่ฝันเลยว่าในวันหนึ่งเราสามารถมายืนตรงจุดนี้ได้ มันมาไกลมาก แล้วมันคือความฝันของเรา ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นที่หนึ่ง แต่เราก็เป็นที่หนึ่งในใจใครหลายๆ คน
เส้นทางนางงามและอนาคตที่วางไว้
จะได้เห็นอายกลับมาอีกแน่นอนค่ะ เพราะว่าอายเองก็ไม่ได้แขวนส้นสูง แต่ขอทำหน้าที่ตรงนี้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในเรื่องของการทำงาน ในการเป็นนางแบบ ร้องเพลง หรือการเป็นยูทูบเบอร์ก็ดี
ในวันนี้เราก็สำเร็จไปอีกขึ้นหนึ่งแล้วเนอะ นี่ก็เป็นการเริ่มต้นของอายในเส้นทางของคำว่านางงามอย่างแท้จริงละกัน ก็ถือว่าเป็นเส้นทางนางงามอีกหนึ่งเส้นทางที่สามารถให้โอกาสให้กับอายได้ ก็ขอบคุณนะคะที่คอยให้กำลังใจอายและก็อยู่กับอายมาโดยตลอด ขอบคุณแฟนๆ มากค่ะที่รักอายแล้วก็เอ็นดูอายมากขนาดนี้ ยังไงก็ฝากเอ็นดูอายตลอดไปจนถึงอายประสบความสำเร็จเลยนะคะ แล้ววันหนึ่งที่อายประสบความสำเร็จ อายจะนำความสำเร็จเหล่านั้นกลับมาฝากทุกคนค่ะ