กว่าจะทำความฝันให้เป็นจริงได้ กับการก้าวสู่เป็นศิลปินคู่จิ้นสุดฮอต ในซีรีส์ “แล้วแต่ดาว Star In My Mind” ของ 2 นักแสดง จุง – อาเชน ไอย์ดึน และ ดัง – ณัฎฐ์ฐชัย บุญประเสริฐ ที่นับว่ายากแล้ว แต่บทพิสูจน์ตัวเองบนเส้นทางดังกล่าวเหมือนจะยากกว่า หลายเท่าตัว เขาทั้ง 2 คนต้องผ่านอะไรมาบ้าง ต้องเสียน้ำตา หรืออดทนขนาดไหน วันนี้ FEED ขอไปกุมมือพูดคุยกับทั้ง 2คน ถึงเรื่องราวที่ผ่านมา รวมทั้งผลงานล่าสุด วาระซ่อนเร้น Hidden Agenda
จุงดัง : สวัสดีครับ จุง นะครับ ดังนะครับ
จากจุดเริ่มต้นบนเส้นทางบันเทิง จนถึงตอนนี้ ความรู้สึกต่อชีวิตตัวเองเป็นยังไงบ้าง
ดัง : โอ้โหตั้งแต่แรก รู้สึกว่าหลายๆ อย่างเปลี่ยนไปในชีวิตครับผม เพราะว่าก็เข้ามาปีแรกครับผม ปีแรกก็อันนี้คือเรื่องที่สองวาระซ่อนเร้น ก็ รู้สึกว่าแบบอย่างที่เห็นชัดๆ เลยแบบขอบคุณทุกคนมากที่แบบรัก รักกันเยอะขนาดนี้ คือแบบโหแบบไม่ได้คิดเลย อยู่ๆแบบมีคนรักเรามากขนาดนี้ อย่างแบบวันเกิดหรืออะไรอย่างงี้ก็แบบคนแบบส่งของขวัญส่งแบบ birthday wish เป็นปีแรกเลยที่แบบคําอวยพร กับ Birthday wish แบบเยอะมากๆเยอะมากๆ แล้วคอยให้กําลังใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามครับผมแบบเรื่องเรียนหรืออะไร จนแบบตอนนี้ผมก็เรียนจบแล้ว ตอนนี้เหลือแค่รับปริญญาเลยครับผมก็ใกล้แล้วครับผม ใครมาได้ก็มาด้วยนะครับ
จุง : ของผมเปลี่ยน ไปในทิศทางที่ดี คือแบบเราก็เป็นคนที่เรียนรู้อยู่ตลอดเวลาหลายๆ อย่างที่เข้ามาในชีวิตจริงๆ ก็อยากจะขอบคุณทุกอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่เข้ามาในชีวิตที่แบบมันมาเป็นสิ่งดีๆ ในชีวิตหรือว่ามาสอนเราให้เราเป็นคนที่แบบดีขึ้นเรื่อยๆในทุกๆวันอ่ะ
ดัง : ขอบคุณเรื่องราวดีๆใช่มั้ยครับ
จุง : ทุกอย่างเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวดีๆ
ดัง : งั้นผมผมว่าก็ต้องขอบคุณผมด้วยนะ ที่เข้ามาในชีวิต หวานเจี๊ยบ(หัวเราะ)
จุง : ขอบคุณมากคือจริงๆ ต้องขอบคุณดังด้วย ขอบคุณดังด้วยเพราะว่า คือแบบซึ้งแล้วเนี่ย คือแบบผ่านอะไรมาด้วยกันค่อนข้างเยอะมากๆ คือกว่าเราจะเป็นเราในวันนี้ได้ คือเราผ่านอะไรกันมาเยอะจริงๆ มันไม่ได้แบบโรยด้วยกลีบกุหลาบเลยมันไม่ได้ง่ายเลย กว่าจะแบบเข้าใจกันขนาดนี้ กว่าจะแบบถึงแม้ว่าเราจะสนิทกันแล้ว แต่มันก็ยังแบบมีอะไรที่มันปิดกั้นอยู่กว่าเราจะเปิดตรงนั้นได้ กว่าเราจะแบบเป็นเซฟโซนให้กันจริงๆ แล้วอะ คือแบบมันมันแบบผ่านอะไรมาเยอะ ก็เลยแบบอยากจะขอบคุณทุกอย่างที่แบบทําให้เราเป็นเราในวันนี้
ดัง : คือผมเข้ามาปีแรกแล้วได้ทําการ casting เรื่องแล้วแต่ดาว แล้วได้เล่น ก็ เอาตรงๆ แบบยังก็คิดนะว่าแบบ เอ๊ะแบบซีรีส์เรื่องนี้ 8 ตอนนี้ใช่ไหม คนจะแบบโอเคไหม อินไหม เพราะแบบเนื้อเรื่องอาจจะแบบกระชับๆ สั้นๆ 8 ตอนอาจจะไม่ได้เข้มข้นอะไรขนาดนั้น พอออนไป EP แรกก็เห็นแบบเทรนทวิตเตอร์เลย เราก็แบบโห ตอนนั้นผมยังเล่นทวิตเตอร์ไม่เป็นเลย ยังไม่รู้เลยว่าการใช้แฮชแท็ก ปั่นแท็กอะไรเป็นยังไงครับ ก็แบบไม่มีอะไรนอกจากแบบขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ ที่แบบทําให้แบบกลายเป็นอย่างงี้ ทําให้เรามีเรื่องที่สอง วาระซ่อนเร้น Hidden Agenda แล้วที่มึงขอบคุณกู กูก็ขอบคุณมึงเหมือนกันเพื่อน จะพูดสั้นๆเพราะว่าไม่อยากให้ซึ้ง เพราะว่าการที่เราอยู่ด้วยกันแบบนี้มึงก็รู้ว่าเป็นยังไงถูกไหม ก็ขอบคุณที่เดินมาด้วยกันตั้งแต่แบบวันแรก ตั้งแต่แบบใครคือจุงใครคือดัง ก็ขอบคุณที่สอน ขอบคุณที่คอยซัพพอร์ตมาตลอดเวลาก็ขอบคุณมึงจริงๆ แบบว่าเป็นคุณครูที่ดีเลยเว้ยสําหรับกู ไม่ต้องน้ำตาคลอเว้ย
จุง : ไม่มันแบบมันมีอะไรให้แบบนี้ไงเขาเรียกว่าไงอ่ะ
ดัง : มึงร้องไห้กูก็จะร้องไห้ตามแล้วเนี่ย สั้นๆ เพราะว่าจริงๆ ก็เราก็คุยกันอยู่แล้วแบบไม่ต้องมีแบบเอาตรงๆ ไม่ต้องแบบ ไม่ได้แบบ มีใครมาถ่ายทําเราก็คุยกันสองคนเเบบนี้ เรื่องอะไรอย่างงี้อยู่แล้ว ผมก็แบบเราต้องเดินไปด้วยกัน เออเนี่ยไม่ต้องซึ้ง กอดก่อน (หันไปกอดกัน) อันนี้คือขอบคุณสั้นๆ แล้วหยุดร้องไห้ โอ๋ๆ
จุง : มันมีอะไร มันมีอะไรที่เราต้องมานั่งคุยกันอะไรอย่างเงี้ย เออ มันแบบ มันก็มีช่วงที่แบบดีๆ แล้วก็อาจจะมีช่วงที่แบบเราไม่เข้าใจกัน แล้วมันแบบไม่ค่อยได้มีโอกาสมานั่งคุยกันขนาดนั้น ก็มีคุยแต่อาจจะไม่ได้ลึกซึ้งอะไรพอเรามานั่งคุยแบบจริงๆ จังๆ อะไรแบบนี้ เราก็เพิ่งรู้ว่าเราก็มีมุมที่แบบไม่โอเคเหมือนกัน เราก็ต้องยอมรับตัวเองว่าเราก็มีมุมนี้นะที่แบบทำให้เขาไม่โอเค ที่เราก็คงต้องปรับให้เขาอะไรแบบนี้ ถ้าเราเป็นอะไรที่เบบทำให้เขาไม่สบายใจ
ดัง : เช่นกันครับผม ตอนเราได้คุยกันแล้วเราก็จะแบบรู้ไง คือ ผมจะเป็นคนที่สนิทกับคนง่าย อันนี้ก็จริง สนิทกับคนง่ายมาก เจอคนแล้วแบบ รู้สึกแบบ เออ สามารถคุยเล่น สนิทกันได้เลย แต่ว่าแบบ อันนี้มันเป็นความสัมพันธ์ที่แบบลึกซึ้ง ยิ่งแบบ ผ่านมาเนี่ย ตั้งแต่ “เเล้วเเต่ดาว” จนถึงวันนี้ มันก็แบบ ลึกซึ้งมาเรื่อยๆ เราก็เริ่มรู้แล้วว่าแบบ คนนี้ไม่ชอบอะไร หรือว่าเราแบบไม่ชอบอะไร เราก็คุยกันให้มันแบบ คลิกกัน แล้วก็แบบเรียกว่าไงอะ ให้มันมีตรงกลาง ให้ทุกฝ่ายสบายใจที่สุด เป็นฟีลแบบสบายใจที่สุดมากกว่าครับผม แล้วก็สนิทกันมากกว่าเดิมแน่นอน พูดเลย
สามารถ เป็นเซฟโซนให้กันและกัน
ดัง : ใช่ครับเป็นเซฟโซนให้กันและกันครับผม สามารถคุยได้ทุกเรื่องทุกเรื่องจริงๆ
จุง : มันก็แบบมันก็มีช่วงที่เราก็เหมือน แบบเออเราทะเลาะกันจริงๆ ที่แบบห่างกันนิดหน่อย อะไรอย่างเงี้ยนะครับ แต่แบบเราอาจจะแบบไม่ได้รู้เหตุผลจริงๆ ของกันและกันว่าแบบจริงๆ เป็นยังไง แต่เหมือนแบบพอมันพอได้เปิดแล้ว พอแบบเราได้รู้แล้วว่า อ๋อในมุมเขาเราเป็นอย่างงี้เลยเหรอ เราก็เหมือนแบบรู้สึกแย่สําหรับตัวเขาด้วยอะไรเงี้ย เพราะเราก็ไม่ได้รู้มาก่อน เราก็อาจจะไม่ได้เห็นตัวเองในมุมที่เขาเห็นอะไรอย่างงี้ ก็รู้สึกเสียใจ แล้วก็รู้สึกอันนี้ในตัวเอง คือมันเหมือนมีช่วงนึงที่อยู่ในเซฟเฮาส์ เรามีการแกล้งกันอะไรอย่างงี้ใช่มั้ยครับ แบบเราอาจจะแบบไปแกล้งในจุดที่แบบเขาไม่โอเค กับจุดนี้อะไรอย่างเงี้ย แล้วเหมือนแบบเราตอนแรกผมมันก็ไม่ได้มีเจตนา ก็เลยแบบเออทําให้เขารู้สึกแย่ไปอะไรอย่างเงี้ย แล้วอยู่บนนั้นเหมือนผมได้บอกเขาว่า “ถ้ามันจะมีใครทําร้ายมึงกูจะเป็นคนสุดท้ายที่ทําร้ายมึงนะ” อะไรอย่างเงี้ย แล้วเหมือนแบบก็เหมือนได้มานั่งคุยอะไรกัน ได้แบบปรับทุกข์สุขแล้วพอแบบเราได้รู้ว่าเออที่ผ่านมามันมีหลายๆ อย่างที่แบบเออทําให้เขารู้สึกไม่ดีเหมือนกันอะไรอย่างนี้
ดัง : รู้สึกไม่ดีไหม มันก็อาจจะแบบ อาจจะไม่ได้ขนาดนั้น แต่มันก็อาจจะมีแบบเล็กๆ ว่าแบบจะพูดว่าเสียใจก็ไม่ใช่อ่ะ แต่มันก็แบบ เอ้ย รู้สึกแย่เพราะว่าแบบ เหมือนคนที่สนิท สนิทมากๆ ใช่ แต่ก็ผมไม่คิดอะไรไง เหมือนกันว่าไม่เคยพูดด้วย
จุง : แบบอยู่ใกล้ที่สุด สนิทที่สุดเราต้องแคร์ เราต้องแคร์เขาที่สุด ซึ่งนี่อาจจะเป็นความที่เราสนิทกัน ใกล้ตัวที่สุดอะไรอย่างเงี้ยเราอาจจะแบบมองข้ามหลายหลายอย่าง ที่แบบอยู่ในความสัมพันธ์ ว่าแบบเอ๊ะคนเนี้ยเราพูดอะไรกับเขาก็ได้ เราแบบเฮ้ยเขาไม่โกรธเราหรอกอะไรอย่างเงี้ย แต่ถ้าเราตบนาฬิกาปุ๊บเขาอาจจะโกรธเราก็ได้ (หัวเราะ) ไม่คือแบบเราอาจจะมองข้ามตรงนั้นไปในบางครั้ง บางครั้งเราอาจจะไม่รู้ตัวหรือไม่ได้มีเจตนาอะไรไม่ดี
บางครั้งคู่เราก็เจอกับเรื่องดราม่า
จุง : อ๋อ อย่างเช่นแฟนคลับเขาอะไรอย่างนั้นเอง น่าจะเป็นปัญหาที่เขาแบบแฟนคลับเขาถกเถียงกันอะไรอย่างงี้มากกว่าคืออาจจะเป็นแบบ จุงกับดังทะเลาะกันหรือป่าว แล้วเขาก็จะนั่งคุยกันอะไรอย่างนี้ แบบแฟนคลับก็จะมีความ เขาเรียกว่าอะไรอ่ะ สมมติเขาเห็นรูปๆนึง เขาก็จะตีความรูปนั้นไปแล้วว่า จุงทำหน้าแบบนี้ ดังเป็นแบบนี้ ดังอยู่มุมนี้ แปลว่าดังไม่อยากอยู่กับจุงแล้ว เค้าต้องทะเลาะกันแน่ๆ เขาต้องทะเลาะเรื่องนี้แน่ๆ อ๋อวันนั้นแต่จริงๆ แล้วรูปคืออะไร นั่งกินข้าวอยู่ครับซึ่งผมว่าแบบยุคสมัยนี้คนเขาชอบตีความหลายๆ อย่าง คนเราชอบตีความจากสิ่งที่ตัวเองเห็น ณ โมเมนต์นั้น ปัจจุบันนี้นะเท่าที่แบบดูจากแบบโซเชียลต่างๆ คนสามารถตัดสินเราจากจากรูปๆ นึงสามารถตัดสินเราจากวีดีโอ ๆ หนึ่งหรือว่าคําพูดคําพูดหนึ่ง สมมติว่าเราพูดว่าผมไม่ชอบกินของหวาน อ่ะสมมุติผมไม่ชอบกินของหวานคนก็จะตีไปแล้วว่าไม่ชอบของหวานใช่ไหมมันต้องมีความหมายแฝงแน่ๆ เลยต้องไม่ชอบคนหวานๆ จุงไม่ชอบคนหวานๆ แน่ๆเ ลยแล้วแบบเนี้ยจุงต้องไม่ชอบอันนี้แน่เลย แล้วมันต้องเกี่ยวข้องกับคนนั้น คนนี้จุงต้องไม่ชอบแปลว่าจุงต้องทะเลาะกับคนนี้แน่เลยมันจะแบบ มันกลายเป็น 4 ไป5 ไป6 ไป7 ไป8 มันก็คือการตีความของคนอ่ะ
ดัง : เอาจริงๆ ตรงนี้ผมยอมรับเลยไม่เคยคิดเหมือนเขาเลย
จุง : ไม่อันนี้ผมไม่ได้คิดนะอันนี้คือสิ่งที่เจอ
ดัง : เอ่อสิ่งที่มันไม่ได้แบบสังเกตขนาดนั้นอ่ะ
จุง : สิ่งที่ปัจจุบันที่คนเขาเขาแบบพิมพ์กันอะคือแบบมัน
ดัง :เข้าใจๆ ผมอาจจะแบบไม่ค่อยได้ส่องด้วยแหละ ก็เห็นใครแท็กมาผมก็กดไลค์ให้ ผมเป็นคนชอบกดไลค์ให้ ทุกคนก็น่าจะรู้ว่าแต่ก็อาจจะไม่ได้ทุกคนแต่ก็แบบพยายามจะทําให้ได้มากที่สุดครับผม แต่ว่าอย่างที่เขาบอกแฟนคลับอาจจะมีตีกันเอง หรือว่าแบบความคิดของแต่ละคนไม่เท่ากัน หรือแบบความคิดแบบอีกคนคิดแบบนี้ อีกคนคิดแบบค้านอย่างนี้ แต่ว่าสุดท้ายแล้วแบบถ้าเกิดแบบเป็น จุงดังอะ ผมอยากให้ทุกคนแบบรัก รักกันมากๆ เหมือนเป็นแบบแฟมิลี่ครับผม
จุง : นี่เราก็เคยพูดกันนะว่า สมมุติว่ามันมีครั้งนึงที่รวมพล เพราะผมก็เหมือนอารมณ์แบบคืออยาก ให้แบบคนในด้อมรักกันมากๆ ก็เลยแบบว่าโอเคทุกคน เอางี้นะทุกคนไปกอดคนข้างๆ ได้ไหม อ๋องานวันเกิด นี่ก็เลยบอกว่าให้ทุกคนอ่ะ อยากให้ทุกคนแบบกอดคนข้างๆ อยากให้รักกันเยอะๆ อะไรอย่างงี้ครับผม เพราะว่าสุดท้ายถ้าเราจะอยู่ด้วยกันเราก็ต้องรักกันถึงจะไปได้ดี
ดัง : อยากให้ทุกคนรักกันและกันเหมือนที่แบบเรารักทุกคน
จุง : ใช่ครับจริงๆ นะสมมุติว่าอยากตอบตรงนี้มาก ในความที่เราก็เป็นเหมือนศิลปิน เป็นดารานักแสดงใช่ไหมครับ คือแบบ ผมอยากจะบอกทุกคนว่าแบบ มันไม่มีเลยนะที่แบบเราไปรักแฟนคลับคนนึง มากกว่าแฟนคลับอีกคนนึง เพราะว่าสุดท้ายเราก็รักแฟนคลับที่เขามาซัพพอร์ตเรา ขอบคุณมากที่มาซัพพอร์ตเรามารักเรา คือเรารักทุกคนแบบเท่ากันจริงๆ คือแบบมันไม่มีว่า เราชอบรักคนนี้มากกว่า แฟนคลับคนนี้ เหมือนแบบ แฟนคลับก็จะชอบน้อยใจว่า ทําไมรักคนนี้มากกว่าฉันหรอ ทําไมถึงยิ้มให้ฉัน ทําไมยิ้มให้เขา แต่แบบ สมมุติว่าเรามีถ่ายรูปอะไรอย่างเงี้ย เขายิ้มให้คนนี้ มันในรูปนี้เขายิ้ม แต่อีกรูปนึงเขาไม่ยิ้ม แปลว่าเขารักอีกคนนั้นมากกว่า เขาจะงอนศิลปินละ ว่า ศิลปินไม่รักต่างๆ นาๆ แต่ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่มีอะไรเลยครับ แค่แบบแค่ ณ ตอนนั้น มันยิ้มเฉยๆ อะไรอย่างเงี้ย ก็อยากจะบอกทุกคนในแบบ ในมุมมองของพวกเรานะ ให้แบบทุกคนไม่คิดมาก ดีกว่า คือแบบมาหาพวกเรา เราก็คือแบบอยากให้ทุกคนมีความสุขอะ คือแบบเราก็อยากจะมอบความสุขให้กับทุกคน แล้วก็อยากให้ทุกคนที่มาหาเราได้มีความสุขกลับบ้าน
ความสุขในวันนี้ของจุงและดัง
ดัง : ความสุขในวันนี้นะครับ ก็คือทุกๆ ครั้งที่ได้แบบ ไปอีเว้นท์ หรือว่าขึ้นคอนเสิร์ต หรือว่าอย่างรวมพล อะไรก็ตามที่ ไปแล้วก็ได้ไปเจอทุกๆ คน เอาตรงๆเลยนะ คือแฟนคลับเขาแบบเหนื่อย เหนื่อยมากๆ อะ ผมดูแล้ว แบบโอ้โห บางคนมารอเราตั้งแต่ตีห้าหกโมงเช้าอย่างเงี้ย แล้วผมพูดเลยว่าแบบพวกเรายังไม่ไม่ได้ตื่นเลยอะ เอาตรงๆ แล้วคนเขาไปรอไปจองที่กันแล้วอะ คือผมแบบประทับใจมาก ๆ ประทับใจทุกคนมาก ๆ ที่แบบ รักเราขนาดนี้ ความรักอย่างเงี้ย มันมาหาเราได้จริงๆ แบบไม่ว่าจะแบบคนที่มาไม่ได้ อยู่ต่างประเทศ Interfans ก็จะส่งกําลังใจมาให้ตลอด ทาง Social Twitter Instagram อะไรก็ตาม ก็จะแบบมีกําลังใจตลอด ไม่ว่าหน้างาน liveหรือว่าใน Social ก็ขอบคุณทุกคนตรงนี้จริงๆ แล้วแบบ แค่ได้มีกันและกันอย่างนี้ ก็เป็นความสุขของผมเเล้วครับ คือรู้สึกว่าได้การทํางานออกงาน ได้เจอทุกคนมันทําให้เรามีความสุขนะ ไม่ใช่แค่เรามอบความสุขให้ทุกคน เอางี้ดีกว่าทุกแบบแค่มาหาเราอ่ะ มีความสุขแล้วแค่แบบมาหามาเจอหรือว่าส่งกําลังใจมาให้คือแบบก็เป็นความสุขให้เราเเล้วครับผม เขาอาจจะคิดว่าแบบเฮ้ยยังไม่ได้ทําอะไรเลยแค่มาหาแต่จริงๆมันแบบมันทําให้เรามีความสุขมาก
จุง : มันแบบเล็กๆ น้อยๆ จริงๆก็ไม่เล็กน้อย คือแบบสิ่งที่เขาแบบทําให้เราอะไรอย่างเงี้ย คือจริงๆ แล้วทุกวันนี้ เราก็อยู่ในจุดนี้ได้ เพราะว่าเราก็มีพวกเขาที่คอยซัพพอร์ตเราอะไรอย่างนี้ เราเห็นคนมีคนซัพพอร์ตเราอะไรอย่างนี้ เราก็อยากจะทํางานผลงานออกมาให้เต็มที่ สมกับที่เขาแบบมอบความรักให้กับเรา เราก็อยากจะทําผลงานออกมาให้มันดีแล้วแบบทําให้เขาแบบภูมิใจว่าแบบเออนี่แหละแบบคนที่ฉันติดตามคนฉันแบบซัพพอร์ตคนที่แบบฉันแบบฉันภูมิใจกับคนที่ฉันซัพพอร์ตมากๆ อะไรอย่างเงี้ย
ดัง : ครับผม คอยมอบความรักให้กันและกันครับ
คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง
ดัง : ผมรู้สึกว่ายัง มีอีกหลายอย่างเลยอ่ะ อีกหลายอย่างที่อยากจะทํามากๆ อย่างในวงการบันเทิงอะไรอย่างนี้ ถ้ามีโอกาสจริงๆ ก็อยากเล่นหนังเหมือนกันอยากเล่นหนังหรือว่าแบบร้องเพลงอย่างนี้จริงๆ ก็จริงๆก็เพิ่งคุยกันวันก่อนเลยว่าแบบเออเนี่ยจุง ก็บอกเนี่ยจุง ได้ไปร้องเพลงนู่นนี่นั่นไร เงี้ยผมก็อยากร้องเพลงก็อยากร้องเพลงบ้าง ก็ต้องไปฝึกเพิ่มเติมเรียนเพิ่มเติมอะไรอย่างงี้ตลอดครับ ผมจนกว่าแบบทุกอย่างจะ ready ครับผมแบบพร้อมสำหรับทุกอย่าง คืองานนี้มันก็แบบเป็นโจทย์ใหม่มาทุกวัน อยากทําให้ตรงโจทย์แล้วทําให้ทุกคนแบบ Happy ครับผมแล้วอีกหนึ่งอย่าง ผมก็เริ่มทํามาแล้วครับผมก็แบบเลี้ยงครอบครัวครับ เลี้ยงครอบครัวอยากจะแบบเลี้ยงคุณแม่คุณพ่อน้องสาว มีหมาด้วยครับ ผมมีหมาด้วยแล้วก็น้องสาวก็อยากได้ แมวอีกก็เข้าไปใหญ่ เลยครอบครัวเราก็เป็น Pet lover ครับผม คุณย่า คุณตาครับผมก็ทุกคนเลยครับผมในครอบครัว ผมแบบอยากจะพูดได้เต็มปากเลยว่า ไม่เป็นไรนะเดี๋ยวดังสามารถเลี้ยงครอบครัวได้ แม่แบบดีใจมากอ่ะดีใจมากที่แบบ ได้ยินอย่างนี้จากผมอ่ะ สุดท้ายผมก็ต้องเลี้ยงคุณพ่อคุณแม่แหละแต่ว่าแม่ก็แบบยังไงก็ต้องดีใจครับ คือผมก็พูดไปอย่างนี้ แม่ผมดีใจแบบสุดๆ
จุง : คือทางบ้านดังเชื่อว่าคุณแม่คุณพ่อก็คือเลี้ยงดังมาดีมากเขาเติบโตมาแบบโอเคดี แบบก็ดีเลยอ่ะแบบส่งเรียนดี ทุกอย่างดีแบบทุกอย่างในชีวิตแบบคุณพ่อคุณแม่เขาปูมาดีอะไรอย่างเงี้ยผมก็เชื่อว่าดังน่าจะแบบอยากดูแลดีเท่าที่แบบคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดังมา
ดัง : ผม Happy เลยอะ ผมอยากรีบพูดประโยคนี้มาก แบบให้เร็วที่สุดว่าแบบ สามารถแบบ เป็นเสาหลักของบ้านได้แบบถ้าเกิดยิ่งพูดเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีครับผมก็แบบเป็นสิ่งที่อยากทําครับผมให้ครอบครัวครับ
จุง : ถือว่าประสบความสําเร็จไหมใช่ไหม ณ ตอนนี้ ผมไม่รู้ประสบความสําเร็จขนาดไหน แต่ผมรู้สึกว่าผมภูมิใจในตัวเองในทุกวันนี้เพราะว่าคือผมมาไทยคนเดียวเริ่มทุกอย่างแบบมาคนเดียว ด้วยตัวเองทั้งหมดเลยก็ตัดสินใจเอง ด้วยในการที่จะกลับมาไทยแล้วมาทำงานที่ไทย มาเรียนที่ไทยแล้วทุกวันนี้ผมก็ทําได้แล้ว ซื้อได้ทั้งรถ ซื้อได้ทั้งบ้านให้กับครอบครัว ก็ใกล้ จะซื้อบ้านแล้วก็จะมีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว นั่นแหละครับก็เหมือนแบบเราก็ภูมิใจในตัวเอง เพราะว่าเราสามารถดูแลคุณแม่ได้ น้องๆได้ ผมมีน้องสามคนสามคน น้องสาวสองคน น้องชายหนึ่งคน ซึ่งพวกเขาก็ยังมีค่าใช้จ่ายต่างๆขนลุกเหมือนกันครับ
ดัง : อย่าลืมมีกบอยู่หนึ่งตัว(หัวเราะ)
จุง : ใช่มีกบอีกหนึ่งตัวซึ่งแบบ โห ผมแบบมองไปคือแบบด้วยความที่แบบมองเป็นอนาคตอะ คือกว่าน้องๆจะโตกว่าน้องๆจะเรียนจบโอเค เราอะต้องพาน้องๆแบบน้อง ก็ในตอนนี้แบบจุดมุ่งหมายก็คือทําให้น้องๆแบบเรียนจบให้ได้ก่อนนะครับ หลังจากนั้นน้องๆจะเลือกยังไงก็อีกเรื่องนึงอะ แต่ผมก็ดีใจแล้วก็ภูมิใจกับตัวเองมากที่แบบเราสามารถดูแลคุณแม่แล้วก็น้องๆได้ตอนแรกถ้ามีคุณพ่ออยู่ด้วยก็น่าจะดีมาก ๆ ถ้าคุณพ่อแบบไม่เสียซะก่อนประมาณปีที่แล้ว ประมาณ 2 ปีแล้วครับ ถ้าคุณพ่อไม่เสีย ซะก่อนผมคงนั่งขิงพ่อแล้ว เนี่ยพ่อผมบอกพ่อแล้วใช่ไหมเนี่ย จุงร้องเพลงในห้องน้ำ ทุกวันนี้ผมร้องเพลงให้กับคนทั่วประเทศได้ฟังอะไรอย่างเงี้ย ออกเพลงออกมาทําให้คนแบบได้ฟังอะไรอย่างเงี้ย แล้วมีคนแบบชมเราเยอะมากแล้ว พ่อเนี้ยเห็นไหม ผมบอกพ่อแล้วอะไรอย่างงี้ ก็นั่นแหละครับ ก็ภูมิใจ ใช่ แต่ถ้ามีพ่ออยู่ดูเห็นได้เห็น ล่าสุด Lol ใช่ไหม ก็แบบเออถ้าแบบพ่อได้เห็นแบบว่าผมอยู่บนเวที (ร้องไห้) มันน่าจะดีกว่าเยอะเลยอะไรอย่างเงี้ย เหมือนแบบ ถ้าแบบถ้าในวันที่เราประสบความสําเร็จแล้วแบบเราไม่ได้มีใครในชีวิตอะ มันก็แบบไม่มีความหมายเลยจริงๆ นะผมรู้สึกแบบเอ้ยดีใจจังเลยแบบที่ได้ขึ้น ขึ้นคอนมีคนมากมายสมมติว่าไปออกอีเว้นท์อะไรอย่างงี้ใช่ไหมแบบมีคนมาดูเราโอ้โหมีคนชอบเราเยอะมากแต่แบบเรากลับบ้านไปแล้ว ไม่มีใครที่เราเข้ามานั่งยินดีมันก็แบบมันก็ไม่มีความหมาย ใช่ก็ครอบครัวก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ทําให้เรามีความสุข ตอนนี้ทุกวันนี้ก็คือคุณแม่ก็ไม่ได้ห่วงอะไรผมแล้ว เพราะผมก็โตในระดับนึงแล้ว แต่ผมจะเชื่อว่าถึงแม้จะโตแล้ว แต่ก็ยังมีอะไรให้เราได้เรียนรู้เยอะมาก เยอะจริงครับใช่ รู้สึกว่าโลกเรามันมันมีอะไรให้เราต้อง เข้าใจมันอีกเยอะมากๆ แล้วมันมีสิ่งที่เราไม่รู้ ในสิ่งที่เรา นึกไม่ถึงอะไรอย่างเงี้ย ในบางครั้งแบบเราพูดอะไรออกมาเนี่ย เราอาจจะแบบไม่ได้คํานึงแบบ ถึง 1 2 3 4 5 อะไรอย่างเงี้ย ในบาง แต่แล้วแบบผมก็เชื่อว่าแบบ เราก็ไม่สามารถทําให้แบบคนทุกคนถูกใจในสิ่งที่เราทําได้ ทุกคนก็มีความคิดเป็นต่อตัวเองอะไรเงี้ย ซึ่งผมมองว่าเราทําตรงนี้ให้ดีที่สุดแล้วกัน แล้วก็เป็นคนที่ดีที่สุดแล้วกัน ใช่ แล้วเราอะไม่ต้องแบบใส่ใจคําพูดต่างๆนาๆขนาดนั้น รักกลับมาหัดรัก รักตัวเองบ้างแล้วก็มองหรือว่าไปใส่ใจกับคนที่เขาให้ค่าเราดีกว่า คนที่เขารักเรา คนที่ให้ค่าเราดีกว่า
มีสิ่งที่อยากตอบแทนความพยายามของตัวเองไหม
ดัง : เอาตรงๆผมไม่ได้คิดเลยอะ เพราะว่าผมรู้สึกว่า ผมอยาก อะอย่างถ้าเกิดแฟนคลับเนี่ย หน้าที่คือแบบมอบความสุขมอบความรัก อยากให้ทุกคนแบบ Enjoy แบบกลับบ้านไปแล้วแบบ ดีใจ Happy อะแล้วอย่างแบบพ่อแม่ผมแบบ ผมมองไว้เลยว่าแบบ พ่อ แม่ อ่ะผมอยากทำให้อยากเขามีความสุขอะ ผมรู้สึกว่าภ้าเขามีความสุข ผมก็มีความสุขไปด้วยคือถ้าเกิดเห็นเขาทุกข์อะไรอย่างเงี้ยผมผมก็ต้องทุกข์ไปด้วย ผมอยากให้เขาแบบมีความสุขเยอะๆ แบบไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ผมก็จะพยายามเต็มที่ แต่ถ้าเกิดวนกลับมาคําถามว่าแบบผมคิดจะทําอะไรให้ตัวเองไหมผมรู้สึกว่าแบบถ้าถามผมตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยอะผมยังตอบไม่ได้จริงๆอะ ตอนนี้อยากให้พ่อแม่ก่อน
จุง : ด้วยชีวิตดังอะ เขาแบบไม่ได้ไม่ได้มีอะไรที่แบบหวือหวามากคือแบบเป็นคนที่ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายก็เลยอาจจะแบบไม่ได้แบบมีอะไรที่แบบรู้สึกว่า
ดัง : แบบตอบแทนตัวเอง
จุง : อาจจะแบบมากสุดก็อาจจะซื้อคอมใหม่เพิ่มสเปคของซื้อเกมอะไรอย่างเงี้ยอันนี้คือความสุขแล้วผมว่าสําหรับดังแล้วไม่ก็ซื้อรถใหม่อะไรงี้
ดัง : สุดท้ายมันก็ยังวนเวียนอยู่ในแบบอยู่ใน Family อยู่ในบ้าน อยู่ดีอย่างผมซื้อรถอย่างนี้พ่อผม Happyมากเลย พ่อผมเอาไปขับแบบเป็นว่าเล่นเลยตอนนี้ผมไม่ได้ขับเลยพ่อผมบอกว่าแบบเนี่ยดังไปทำงานไม่เป็นไรเดี๋ยวพ่อขับเอง พ่อชอบ พ่อชอบรถไง
จุง : อ๋อนี่ ที่คุณพ่อมาส่งนี่ไม่ใช่อะไรนะ พ่อชอบ
ดัง : พ่ออยากขับพ่อชอบพ่ออยากขับ โอเคดังแบบดังไม่ต้องไปขับนะ ดังไม่ต้องขับตอนทำงาน แบบแต่ว่าแบบดังไปไหนกับเพื่อนดังก็ขับไปแต่ทํางานแบบพ่อ พ่อขอแบบขอขับได้ไหมขอขับให้ได้ไหมคือเขาอาจจะแบบกังวลกลัวด้วยแหละ
พ่ออาจจะเป็นคนที่แบบไม่ได้พูดตรงๆ ว่าแบบเป็นห่วงแต่จะชอบทําอะไรแบบนี้เล็กๆ น้อยๆ ทําให้ผมรู้สึกว่าแบบเขาเป็นห่วงผมจริงๆ แต่แบบแม่เนี่ย คือเป็นห่วงแบบ พูดแบบเป็นห่วงนะ อย่าทําอย่างนี้ ต้องทําอย่างนี้ เรียนอย่างนี้ผมเรียนวิศวะเพราะแม่เลย เพราะแม่อยากให้เรียนวิศวะมาก คือตอนแรกผมใฝ่ฝันว่าจบมาแล้วผมจะไปเรียน พวก Drama Acting นิเทศอะไรอย่างเงี้ย แต่แม่บอกว่าขอเป็นวิศวะได้ไหม ผมก็แบบ โหแม่แบบ ไม่เอาได้ไหมแบบนึกออกไหมผมก็แบบไม่ได้อยากเรียนไง แต่แบบสุดท้าย แม่บอกขอเลือกอะไรสักอย่างในวิศวะ ผมก็ผมชอบคอม แบบชอบอยู่แล้ว แบบชอบประกอบคอมชอบนู่นนี่นั่นก็เลยเลือกวิศวะ Computer Innovation Engineering ซึ่งมันก็ก็ตรงสาย ตอนแรกผมก็ยอมรับเลย ไม่ชอบแต่ว่าแบบ พอไปมาปี 2 ปี 3 ปี 4 จนจบแล้วเนี่ย เออเราชอบของมันนะ เราชอบการประกอบคอม ชอบแบบทํา Project กับเพื่อนๆ ร่วมกันเขียน Code จริงๆ ก็มีมุมสนุกนะ แต่จริงๆก็หัวฟูเลยแหละ หัวฟูไม่ได้นอน
จุง : เขาก็มีแบบตอบแทนให้คุณแม่คุณพ่อคุณแม่แล้ว แบบเห็นคุณพ่อคุณแม่มีความสุขแล้วก็มีความสุขแล้วใช่ไหม คือของผมอ่ะ ผมทําจุดนั้นได้แล้ว ผมทําอะไรนะ ผมมอบความตรงนั้นแบบทําตรงนั้นได้แล้วอะไรอย่างเงี้ย ก็เลยผมก็เลยจะมีเวลาให้ความสุขกับตัวเอง ในระดับนึงเลยเขาเรียกว่าการให้รางวัลตัวเองก็คือการพาตัวเองไปในที่ ที่เราอยากไปพาเราไปกินสิ่งที่เราอยากกินหรือว่าซื้อในสิ่งที่เราอยากได้ก็แบบซื้อของนู่นนี่นั่นเล็กๆ น้อยๆ ให้ตัวเองเสมอ
ดัง : (หัวเราะ)เล็กๆน้อยๆ
จุง : ชอบซื้อของให้ตัวเองอะไรเงี้ย สุดท้ายแบบซื้ออะไรอ่ะ ซื้อร้องเท้า ซื้อกางเกง ซื้อเสื้อผ้า ซื้อกระเป๋าซื้อพวก สกินคงสกินแคร์ อะไรอย่างเงี้ยก็นั่นเหละครับมันก็ถือว่าเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เราให้กับตัวเองใช่ๆ ผมก็มีบ้างนานๆทีมันก็เป็นกำลังใจ
ดัง : ว้าวซื้อมาแล้วอะไรอย่างเงี้ย จริงๆผมก็ชอบshopเหมือนกัน จริงๆ shopping ก็เป็นความสุขอีกความสุขนึงเลยแต่สุดท้ายก็ต้องไป shop กับแม่สุดท้ายคือชอบกับแม่คือแบบไม่มันจะไม่แบบเดิน shop คนเดียวคือถามความคิดเห็นแม่ด้วย
จุง : แล้วแล้วอีกอย่างนึงคือที่ดังบอกว่าเออมื้อเนี้ยเออมื้อเนี้ยดังเลี้ยงนะอะไรอย่างเงี้ยแล้วแม่ดีใจใช่ไหมของผมอะบัตรอยู่ที่แม่เลย คือเงิน
ดัง : ก็คือรูดได้เลย
จุง : เงินที่ผมได้อ่ะทุกคนอาจจะไม่รู้นะ แต่ผมไม่มีแอปธนาคารในโทรศัพท์มีแต่ wallet ที่คนที่จะเติมให้คือแม่เพราะว่าผมเก็บเงินไม่อยู่ จริงๆพูดจริงเลยคือผมอะเป็นคนเก็บเงินไม่อยู่ก็เลยต้องมีแม่มาคุมซึ่งเหมือนมันจะเป็น มันจะเป็นมันเป็นกองกลางมากกว่าเป็นที่อ่ะเข้ามามันก็จะอยู่กองกลางจุง ก็จะหยิบไปใช้ แม่ก็หยิบไปใช้ได้ ก็เลยจะไม่มีการว่าจุงเลี้ยงแม่
Step ต่อไปในวงการ
ดัง : Stepต่อไปใช่ไหม ครับอันนี้คือแบบไปด้วยกัน เป็นคู่นะ พูดถึงแบบเป็นคู่ก่อน ก็ โห พูดไงดีอะ ก็จริงๆก็มีแพลน จริงๆมีแพลนแบบ Secret Plan ครับผม Secret Plan พูดได้ปะ พูดได้เนาะเอาเป็นว่าแบบ Secret Plan ที่แบบเอาง่ายๆดีกว่าว่าแบบ This is not last of จุงดัง เออ นึกออกป่ะ เราไม่ได้มาแค่นี้ เราแบบมีอะไรให้รอติดตามเยอะมากๆ อาจจะเห็นอะไรที่เราไม่ได้เคยทำมาก่อน
จุง : ฝั่งผมนะตอนนี้นะสําหรับงานคู่นะครับ ถ้าเราสมมุติว่า งานคู่อ่ะ ที่ใหญ่ๆเลยที่ผมตั้งไว้อยากขึ้นคอนที่เมืองทองธานี เออ อยากแบบมีคอนเป็นของตัวเอง เมืองทองธานีคือใหญ่ที่สุดไหม
ดัง : ราชมังๆ
จุง : เออไม่ใช่ๆเมืองทองธานี ใช่ผมจำชื่อไม่ได้ผมอยากมีคอนที่ราชมัง
ดัง : โหถ้าเกิดมีนะคือแบบ
จุง : ผมอยากลอง
ดัง : ผมพูดเลยคนที่น้ำตาแตกคือแม่ก่อนเลยเอาตรงๆ
จุง : คือตอนเนี้ยผมรู้สึกว่ามันใหญ่มากจนแบบบางครั้งผมก็อาจจะจินตนาการไม่ออกเหมือนกันบ้าง คือแบบบางสิ่งบางอย่างเราจินตนาการออกว่าแบบเราจะไปอยู่จุดนั้นแล้วเออเราจะเป็นอย่างงี้นะ แต่ตอนนี้คือแบบภาพเนี้ยยังไม่ชัดในหัวเลยอะ แต่ผมอยากให้มันชัดมากๆก็เลยนั่นแหละครับความฝันถ้าได้ไปด้วยกันก็จะดี
ดัง : ไปเตะบอล
จุง : ใช่ไปเตะบอล
ดัง : (หัวเราะ)ไปเล่นคอนเสิร์ต
ผลงานซีรีส์ วาระซ่อนเร้น Hidden Agenda
จุง : ตอนนั้นต่อชื่อ ผมงงกับชื่อมากเลย วาระซ่อนเร้นจริงนะ
ดัง : อ๋อ ใช่จำได้แล้วเราจำชื่อไม่ได้เลยอ่ะใช่ตอนแรกอะว่าแบบจะไปเสิร์ชดูใน Google อย่างเงี้ยแล้วพูดอะไรนะเรื่องอะไรนะ
จุง : ชื่อจำยากจังเลย
ดัง : รักๆสลับอะไรนะรักเงื่อนๆเอ้ยไม่ใช่
จุง : รักสลับเอ้ยรักสลับ
ดัง : อะไรสักอย่างรักๆป่าววะ เราก็แบบอะโอเค วาระซ่อนเร้นเราก็แบบพูดทุกวันจนแบบเข้าหัวเลยต่อชื่อนะ
ซีรีส์เรื่องนี้จะพาคนดูไปเจอกับอะไรบ้าง
ดัง : ความสนุกครับผม ความคาดเดาไม่ถูกดีกว่า เพราะว่าแบบในเรื่องเนี่ยมันจะแบบเป็นวาระซ่อนเร้นมันจะมีแผนซ้อนแผนเข้าไปอีกซึ่งแบบคนดูอาจจะเดาว่าเป็นอย่างงั้นแต่จริงๆเป็นอย่างงี้แต่ว่าผมแบบรับประกันเลยมันเป็นซีรีส์ที่ทําให้ทุกคนแบบ Happyได้มันของผมสัญญาเลยมันไม่ย่อยยากแน่นอนคือแบบดูแล้วแบบสบายอะ เบาหัวแน่นอนครับผมเราจะแบบ Happy Happyไปกับเรื่องนี้แน่นอน
จุง : จริงๆ อะความน่าสนใจของเรื่องมันก็คือการซ่อนเร้น หรือว่าความลับในเรื่องนี้ครับผมซึ่งมันก็มีเยอะมากที่แบบเราไม่รู้แต่เราเปิดเผยอยู่นะครับส่วนปมอะมันก็อยู่กับตัวละคร
ดัง : ใช่ครับอยู่กับตัวละคร
จุง : ว่าจริงๆแล้วผมเชื่อว่าตัวละครยังไม่รู้หรอกว่าปมของเขามันคืออะไรกันแน่เพราะว่าเขาตัวละครเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ําว่า อะสมมุติอย่างโซ่อะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขารู้สึกยังไงกันแน่ปมมันอยู่ที่ใจครับ
ปลายทางของตัวละครสองคนนี้จะอยู่ที่ไหน
จุง : ก็สามารถติดตามได้ทางGmmtv เชื่อไหมครับผมยังไม่รู้เลยว่าปลายทางอยู่ที่ไหน
ดัง : ฝากด้วยนะครับผม ซีรีส์วาระซ่อนเร้น hidden agendaครับผม ทุกวันอาทิตย์เวลา 20.30 น.ครับผม ทางช่อง gmam 25 นะครับแล้วก็รับได้ทั่วโลกทางที่
จุง : Youtube Gmmtv ครับผมเริ่มตอนแรกเป็นวันที่9 กรกฎาคมนี้นะครับก็ฝากด้วยนะครับHidden Agenda วาระซ่อนเร้นครับ
ดัง : ฝากด้วยนะครับ
จุง : สวัสดีครับ
ดัง : สวัสดีครับ โอ้มีอีกอย่างฝากเพลงด้วยฝากเพลงนะครับ
จุง : วาระสุดท้าย เห้ยไม่ใช่
ดัง : หมดวาระนะครับ เห้ยอะไรนะ
จุง : หมดเวลาซ่อน
ดัง : หมดเวลาซ่อนครับผม ฝากด้วยนะครับผม สามารถดูได้แล้วนะครับผม ทาง gmmtv recordsนะครับผม