ชื่อที่เป็นทางการของเขาคือ “บูยงจู” และคนควรเรียกเขาว่าหมอบูยงจู แต่เขากลับเลือกที่จะเป็น “อาจารย์คิม” หรือ “คิมซาบู” บุคคลผู้เป็นแก่นกลางของซีรีส์ Dr. Romantic มาตลอดทั้ง 3 ซีซั่น นับจากจุดเริ่มต้นที่เผยแพร่ออกอากาศเมื่อปี 2016
จริงอยู่ที่เขาเป็นศัลยแพทย์อัจฉริยะ มี 2 มือกับ 1 สมองที่เก่งกาจในระดับปรากฎการณ์ สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ เลือกวิธีการรักษาได้ถูกต้อง รวมถึงใช้ฝีมือระดับเทพผ่าตัดช่วยชีวิตคนมาแล้วนับไม่ถ้วน… แม้ว่าหลายๆ เคสจะมีโอกาสสำเร็จไม่ถึง 10% ก็ตาม
แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว “อาจารย์คิม” หรือ “คิมซาบู” แห่งโรงพยาบาลทลดัม ยิ่งใหญ่มากไปกว่านั้น เพราะเขาคือ ผู้นำทางจิตจิญญาณ สำหรับหมอหน้าใหม่รุ่นแล่วรุ่นเล่า รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่มีโอกาสได้มาทำงานร่วมกัน เขาคือตัวจริงที่เชื่อมั่น และยึดถือวิถีปฏิบัติแบบ “โรแมนติก” อย่างแน่วแน่ เกาะยึดกับหลักการแห่งความจริงแท้ ถูกต้อง อย่างมั่นคงเสมอมา

“อาจารย์คิม” หรือ “คิมซาบู” คือแม่เหล็กที่ดึงดูดให้หมอฝีมือดี จิตใจดี ไม่ว่าเป็น คังดงซู, ยุนซอจอง, ซออูจิน, ชาอึนแจ, ยุนอารึม, แบมุนจอง, จางดงฮวา, อีซอนอุง ฯลฯ แล้วค่อยๆ หล่อหลอม ให้คนเหล่านั้นเข้าถึงวิถีแห่งความ “โรแมนติก” ในที่สุด
“กฏการรักษาความโรแมนติก อย่าละทิ้งคำถามว่า เรามีชีวิตอยู่ไปทำไมและเพื่ออะไร..ทันทีที่เราละทิ้งคำถามนั้น ความโรแมนติกของเราก็จะจบลง” นั่นน่าจะเป็นคำพูดแบบ รวบตึง รวบยอด และสรุปนิยมของ ซีรีส์ Dr. Romantic ได้ตรงที่สุด ชัดเจนที่สุด
คำถามสำคัญที่ถูกอธิบายผ่านเรื่องราวและฉากต่างๆ มากมายตลอดทั้ง 3 ซีซั่น ล้วนวนเวียนอยู่กับประเด็นที่ว่า …เรามีชีวิตอยู่ไปทำไมและเพื่ออะไร?, ทำไมถึงมาเป็นหมอ?… หน้าที่ที่แท้จริงของหมอคืออะไร?
และทุกครั้งที่ตัวละครเกิดคำถามเหล่านั้น “อาจารย์คิม” หรือ “คิมซาบู” ก็จะก้าวออกมา แล้วแสดงให้เห็นด้วยการปฏิบัติ ด้วยการตัดสินใจอย่างเด็ดขาด หนักแน่นเสมือนเป็น “เข็มทิศ” ให้กับคนที่กำลังสับสน หลงทาง ได้เรียนรู้ ทบทวน
ดังนั้นในด้านหนึ่ง “อาจารย์คิม” หรือ “คิมซาบู” รวมถึงโรงพยาบาลทลดัมได้ทำหน้าที่ “รักษาไข้-รักษาคน” แต่อีกด้านหนึ่ง ก็ช่วยรักษาบาดแผลในใจใครหลายๆ คน เยียวยาความรู้สึกที่สั่นคลอน ไม่มั่นคง อีกทั้งยังฟื้นฟูจิตใจให้หมอหลายๆ คนก้าวเดินไปอย่างถูกทิศถูกทางได้ในที่สุด

บนหลักคิดง่ายๆ (แต่แสนจะโรแมนติก) ว่าหน้าที่หลักของหมอคือ รักษาคนไข้…. โดยไม่ต้องสนใจว่า จะเป็นคนดี คนรวย คนจน คนยากไร้ ต้อยต่ำ หรือเป็นผู้มีอำนาจทรงอิทธิพลแค่ไหน (กระทั่ง ผู้ร้ายคดีข่มขืน, นักการเมืองที่ร้ายกาจ หรือจารชนต่างชาติ ฯลฯ ล้วนมีสิทธิในการมีชีวิต ได้รับการรักษาอย่างถึงที่สุด)
วันใดที่หมอ หรือบุคลากรทางการแพทย์ เปลี่ยนไปสนใจความสำเร็จ ชื่อเสียง ตำแหน่งหน้าที่ ความก้าวหน้า โอกาสในการเติบโต ฯลฯ จนละเลยหน้าที่หลักในการรักษาคนไข้ ความโรแมนติกที่จะตอบตัวเองว่าเรามีชีวิตอยู่ไปทำไมและเพื่ออะไร ก็จะพร่าเลือน จนหลงทิศผิดทางไปในที่สุด
หลักการเดียวกันนี้ ยังใช้ได้เสมอกับทุกสาขาอาชีพมิใช่เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น
นักการเมือง มีหน้าที่หลักคือทำเพื่อประชาชน (มิใช่ตำแหน่งทางการเมืองที่สูงขึ้นๆ หรืออำนาจที่มากขึ้น)
ครู มีหน้าที่หลักคือสั่งสอนถ่ายทอดความรู้ให้นักเรียน (มิใช่เพื่อไต่ขึ้นไปเป็นผู้อำนวยการ)
พ่อครัว มีหน้าที่หลักคือปรุงอาหารที่ดีที่สุด อร่อยที่สุดให้กับคนกิน (มิใช่เพื่อโชว์เหนือเอาชนะคนอื่นๆ)
อัยการ-ผู้พิพากษา มีหน้าที่หลักคืออำนวยความยุติธรรมให้กับทุกคนในสังคมอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง
สื่อมวลชน มีหน้าที่หลักคือนำเสนอความจริงออกสู่สาธารณะ

จริงอยู่ในระหว่างเส้นทางย่อมมีอุปสรรคขวากหนามมากมาย เป็นความท้าทายในรูปแบบต่างๆ เช่นความขัดสนขาดแคลน (ขาดคน ขาดเครื่องมือ) ,ต้องขึ้นศาลแก้คดีที่โดนคนไข้ฟ้องร้อง (ทั้งที่ทำพลาด หรือขาดตกบกพร่อง) ,ต้องต่อสู้ให้ได้งบประมาณ เพื่องรองรับความต้องการของคนไข้ที่เพิ่มมากขึ้น ฯลฯ
แต่ทั้งหมดนั้นก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะไม่ลงมือทำจนสุดกำลังที่มี โดยเฉพาะเมื่อคนป่วย คนไข้ ผู้บาดเจ็บถูกเข็นใส่เปลมารอตรงหน้าห้องฉุกเฉิน … เพราะนั่นแหละคือหน้าที่และความสำคัญลำดับแรกที่คนเป็นหมอต้องรับผิดชอบ
Dr. Romantic Season 3 ปิดฉากลงแล้วพร้อมกับสร้างความสำเร็จ เรียกเสียงชื่นชมจากแฟนประจำและแฟนรุ่นใหม่ ขณะที่เรตติ้งในการออกอากาศในเกาหลีเอง ก็ถือว่ายอดเยี่ยมอย่างที่ถูกคาดหมายมาตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มฉาย
Dr. Romantic Season 3 มีองค์ประกอบของความสนุก ตื่นเต้น ระทึกใจ ชวนให้ติดตาม เล่นใหญ่แบบบู๊แอ็กชันกันตั้งแต่ EP 1 มีฉากทำแผล ผ่าตัดเลือดท่วมให้ลุ้นกันแบบจุใจ เพิ่มโจทย์พิบัติภัยแบบ ตึกถล่ม คนตาย-เจ็บเกลื่อนเมือง ไปจนกระทั่งไฟป่าเผาทำลายได้ทุกสิ่งที่ขวางหน้า
มีพาร์ทโรแมนติกให้ฟินจิกหมอนไปกับคู่รักของ หมอซออูจิน-หมอชาอึนแจ (พร้อมบททดสอบจากว่าที่พ่อตาโคตรดุ) พยาบาลพัค-หมอยุนอารึม ที่ต่างก็สับสนในความรู้สึกของตัวเอง ขณะเดียวกันการกลับมาของหมอคังดงจู ลูกรักรุ่น 1 ของอาจารย์คิม ในฐานะรักษาการหัวหน้าศูนย์อุบัติเหตุ ก็ต้องฟันฝ่าพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในหลายๆ ประเด็นว่าด้วยการบริหารงานงานและบริหารคน

สำหรับแฟนคลับที่โดนตกมาตั้งแต่ Season 1 ดู Season 3 จบแล้วก็จะยิ่งอิ่มเอม เพราะจิ๊กซอว์หลายๆ ชิ้นถูกเติมเข้ามาจนเต็มและสมบูรณ์ เมื่อความฝันของ คิมซาบู เป็นจริง ทั้งที่ได้ตึกศูนย์อุบัติเหตุแห่งใหม่ และได้ดึงตัวทีมอเวนเจอร์ของแกกลับมาทำงานร่วมกันทั้งในโรงพยาบาลและในห้องผ่าตัด
และน่าบูชาผลงานการเขียนบทที่ยังคงมือไม่ตก สร้างปมใหม่ คลี่คลายปมเก่า พร้อมแจกจ่ายบทบาทให้ตัวละครระดับรองได้อย่างทั่วถึง
Dr. Romantic Season 3 ตอกย้ำให้เราเข้าถึงและเข้าใจการวางเข็มทิศของ “อาจารย์คิม” หรือ “คิมซาบู” อย่างแจ่มแจ้ง ชัดเจน ว่าตั้งมั่นอยู่บน “หลักการ” โดยไม่บิดเบี้ยวและถึงที่สุดแล้ว “ทลดัม” เป็นทั้งโรงพยาบาลและโรงเรียนสร้างคนในหลักคิดสาย “โรแมนติก” ที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุดแล้ว
หมายเหตุ
Dr. Romantic มีแล้วทั้งหมด 3 Season
SS 1 รับชมได้ที่ Viu, Netflix
SS 2 รับชมได้ที่ Netflix
SS 3 รับชมได้ที่ Disney+hotstar