วันที่ 6 กรกฎาคม เรเว่ ออโตโมทีฟ ประกาศเปิดตัว BYD Dolphin 2023 โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ Standard Range และ Extended Range กับราคาที่เรียกได้ว่าเป็นสงครามราคาของรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดตอนนี้กับราคาที่เปิดมา 699,999 บาท ในรุ่น Standard Range และ 859,999 บาท ในรุ่น Extended Range สร้างความฮือฮาให้กับตลาดมากพอสมควรเพราะเจ้าของพื้นที่ตลาดเดิมอย่าง Ora Good Cat นั้นครอบครองความเป็นเจ้าตลาดใน Segment นี้มาอย่างยาวนาน วันนี้ FEED จะนำจุดเด่นของทั้งสองแบรนด์มาเทียบกันให้ดูครับ

BYD Dolphin 2023

ยกที่ 1 : มอเตอร์ไฟฟ้าและความแรง

เริ่มต้นกันที่แบตเตอรี่กันก่อนเลย แน่นอนว่าเมื่อซื้อรถยนต์ไฟฟ้าหลายคนมักจะตั้งคำถามว่า แรงไหม? ไปได้ไกลขนาดไหน? ด้วยความที่จำนวนจุดชาร์จในประเทศไทยอาจจะยังไม่ได้ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้เท่าที่ควร

BYD Dolphin รุ่น Standard Range ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 70 kWh (95 PS) แรงบิดสูงสุด 180 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 44.9 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางสูงสุด 410 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) รองรับการชาร์จด่วนแบบ DC ด้วยกำลังไฟสูงสุด 60 kW ทำความเร็วสูงสุดได้ 150 กม./ชม. และ BYD Dolphin รุ่น Extended Range ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 150 kW (204 PS) แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 60.148 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางสูงสุด 490 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) รองรับการชาร์จด่วนแบบ DC ด้วยกำลังไฟสูงสุด 80 kW ทำความเร็วสูงสุดได้ 160 กม./ชม.

BYD Dolphin 2023

ในส่วนของ Ora Good Cat รุ่น 400 PRO และ 500 ULTRA ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 143 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 152 กม./ชม. โดยรุ่น 400 PRO ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 47.788 kWh ให้ระยะทางขับขี่ประมาณ 400 กม. ต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) รองรับการชาร์จด่วนแบบ DC จาก 30 – 80 % ในเวลา 32 นาที ส่วนรุ่น 500 ULTRA เพิ่มขนาดแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นเป็น 63.139 kWh ให้ระยะทางขับขี่ประมาณ 500 กม. ต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) รองรับการชาร์จด่วนแบบ DC จาก 30 – 80% ในเวลา 40 นาที

ORA Good Cat

ยกที่ 2 : ราคาจำหน่าย

ราคาเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญในการกระโดดเข้ามาเล่นรถยนต์ไฟฟ้าของคนไทย เนื่องด้วยหลายๆ คนที่เข้ามาในตลาดนี้หวังว่าการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะค่าน้ำมันและค่าเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะลงได้ โดยราคาของทั้งสองแบรนด์นั้นใกล้เคียงกันมากๆ แต่ในข้อนี้ BYD Dolphin สามารถทำราคามาได้ต่ำกว่า Ora Good Cat

ราคาอย่างเป็นทางการ BYD Dolphin 2023 (หลังหักส่วนลดจากภาครัฐแล้ว)

  • รุ่น Standard Range ราคา 699,999 บาท
  • รุ่น Extended Range ราคา 859,999 บาท

ราคาอย่างเป็นทางการ ORA Good Cat (หลังหักส่วนลดจากภาครัฐแล้ว)

  • รุ่น 400 PRO ราคา 828,500 บาท
  • รุ่น 500 ULTRA อยู่ที่ 959,000 บาท

ยกที่ 3 : ภายในห้องโดยสารและพื้นที่ใช้สอย

ภายในห้องโดยสารของ BYD Dolphin รุ่น Standard Range ให้บรรยากาศแบบ Futuristic และตกแต่งด้วยโทนสีดำ-เบจ เบาะปรับด้วยมือหุ้มวัสดุสังเคราะห์ เบาะหลังแยกพับ 60:40 ติดตั้งหน้าจอดิจิทัลแยกเป็น 2 จุด คือ มาตรวัดขนาดเล็ก 5 นิ้ว แสดงข้อมูลที่จำเป็น กับจอมัลติฟังก์ชันขนาดใหญ่ 12.8 นิ้ว หมุนได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay รองรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย พร้อมลำโพง 6 ตัว คอนโซลกลางเป็นแบบลอยตัว มีปุ่มเกียร์และเบรกมือไฟฟ้า รวมถึงช่องเก็บของ ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ มีระบบกรองอากาศ PM2.5 รวมถึงกุญแจ Keyless เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

BYD Dolphin 2023
BYD Dolphin 2023
BYD Dolphin 2023

ขณะที่ห้องโดยสารฝั่ง ORA Good Cat ค่อนข้างเรียบง่ายสบายตา ด้วยสไตล์มินิมอล เพียงแต่รุ่น 400 Pro จะใช้โทนสีดำทั้งหมด ทำให้บรรยากาศดูจริงจังขึ้น ติดตั้งจอดิจิทัลแบบรวมศูนย์ ซึ่งประกอบด้วยส่วนมาตรวัดขนาด 7 นิ้ว และจอมัลติฟังก์ชันขนาด 10.25 นิ้ว วางเป็นแนวยาวอยู่ภายใต้กรอบเดียวกัน รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง ส่วนคอนโซลกลางเล่นระดับ ด้านล่างสุดเป็นช่องวางของและแก้วน้ำแบบเปิดโล่ง อีกชั้นเป็นตำแหน่งวางปุ่มเกียร์ รวมถึงปุ่มเบรกมือไฟฟ้า ช่องชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สาย ตลอดจนที่เท้าแขน แต่เบาะคนขับของ ORA Good Cat รุ่น 400 Pro ให้มาแบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง วัสดุหุ้มเบาะเป็นแบบสังเคราะห์ผิวสัมผัสนุ่ม เบาะหลังแยกพับได้ 60:40 ระบบแอร์เป็นแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5  

ORA Good Cat
ORA Good Cat
ORA Good Cat

ยกที่ 4 : ระบบเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย

ใน BYD Dolphin 2023 ได้รับการติดตั้งถุงลมนิรภัย 6 จุด, ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง, จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX, ระบบควบคุมการทรงตัว, กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา, ระบบความคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบเตือนการชนด้านหลัง, ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ, ระบบเตือนเมื่อรถออกจากเลน, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยควบคุมเมื่อรถออกจากเลน, ระบบช่วยควบคุมรถกรณีฉุกเฉิน, ระบบเตือนจุดอับสายตา และระบบเตือนการจราจรขณะถอยหลัง เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ส่วน ORA Good Cat 2023 ก็ติดตั้งถุงลมนิรภัย 6 จุด, ระบบป้องกันการลื่นไถล, ระบบควบคุมเบรกขณะเข้าโค้ง, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง, ระบบเตือนป้ายจราจร และจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX รวมถึงระบบช่วยขับขี่อย่างระบบควบคุมความเร็วแปรผันและช่วยขับเข้าโค้งตามเส้นจราจร, ระบบควบคุมความเร็วที่ความเร็วต่ำ, กล้องมองภาพ 360 องศา, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยก, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ, ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง, ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน เป็นต้น

สุดท้ายแล้วถ้าถามว่าใช้รถคันไหนระหว่างสองคันนี้ คงให้คำแนะนำได้สั้นๆ ว่าไปลองขับดูก่อนครับ เพราะหลายครั้งที่เราหลงรักรถบางคันเพราะสเปคไปจนลืมว่า ความรู้สึกในระหว่างขับขี่และความสบายใจในความใช้งานนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน อย่าพิจารณากันแต่เรื่องราคาแต่เอาการใช้งานของเราที่เราเองจะเป็นคนตอบได้ดีที่สุดเป็นหลักดีกว่า

Straight roads are for fast cars, turns are for fast drivers.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก