Mercedes-Benz ประกาศทำตลาดอัลตร้าลักชัวรีอย่างเต็มรูปแบบสำหรับเมืองไทย โดยมี Mercedes-Maybach เป็นเรือธงในการทำตลาดปัจจุบันนำกองทัพรถยนต์ระดับหรูหราขั้นสุดอย่าง Mercedes-Maybach GLS 600 4MATIC Premium ในราคา 18,500,000 บาท และ Mercedes-Maybach S580 4MATIC Premium ในราคา 18,300,000 บาท
และสำหรับปี 2023 นี้ Mercedes-Benz พร้อมแล้วที่ขยายตลาด ผ่านการเปิดไลน์การประกอบรถยนต์ Mercedes-Maybach อย่างเป็นทางการในประเทศไทยโดยไทยเป็นหนึ่งในสองประเทศแรกในโลกร่วมกับจีน และจะประกอบ Mercedes-Maybach S580e รุ่นปลั๊กอินไฮบริด
ในส่วนของหน้าตานั้น คงจะไม่ได้มีอะไรที่ถึงกับโดดเด่น แต่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบหรูหรา ที่ตะโกนออกมาอย่างเด่นชัด กันชนหน้าและช่องระบายอากาศดีไซน์พิเศษ กระจังหน้าโครเมียม Radiator grille ขนาดใหญ่ ตราตัวอักษร Maybach ที่มาพร้อมกับโลโก้ดาวสามแฉกบนฝากระโปรง ไส้ในของกระจังหน้ามาในแนวตั้ง 27 ติดตั้งไฟหน้า LED แบบ Digital Light
ด้านข้างหรูหราด้วยคิ้วโครเมียมที่ขอบกระจก ที่เปิดประตูซ่อนรูปเรียบ Seamless Doorhandles ช่วยเพิ่มความกลมกลืนของเส้นสายทางด้านข้าง และช่วยให้การล็อกและปลดล็อกประตูทำได้อย่างสะดวกสบายเพียงใช้มือสัมผัสที่มือจับประตู ตราสัญลักษณ์ Maybach ตรงเสา C กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED มีไฟส่องใต้พื้นแบบตราโลโก้ Maybach
ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วพร้อมยาง 255/40 R20 ไฟท้าย LED แบบ Exclusive tail-light animation ครอบทับด้วยกรอบโครเมียมใต้ป้ายทะเบียน ถัดลงมาเป็นกันชนหลังดีไซน์เท่ พร้อมกรอบท่อไอเสียคู่ 2 ฝั่ง ล้อมกรอบโครเมียมดีไซน์เฉพาะ
ภายในอัปเกรดให้หรูขึ้น ตั้งแต่ในห้องโดยสารสร้างบรรยากาศอบอุ่น ที่มอบทั้งคุณภาพระดับสูงและวิสัยทัศน์ในการขับขี่ที่ดีที่สุด ผ่านประสบการณ์ดิจิทัล ที่ตอบรับความต้องการของผู้โดยสารในทุกที่นั่ง คอนโซลหน้ารูปลักษณ์โมเดิร์นขึ้นตอบรับกับสรีระของผู้ใช้งาน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสปอร์ตหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ความละเอียดสูงแบบ Digital Instrument clusters ขนาด 12.3 นิ้ว
ปุ่มควบคุมตรงคอนโซลส่วนกลางได้รับการนำมาใส่บนหน้าจอ MBUX7 (Mercedes-Benz User Experience) แบบทัชสกรีนขนาด 12.8 นิ้วทั้งหมด โดยใช้หน้าจอแบบ OLED ที่มอบพื้นที่การใช้งาน (active area) สามารถควบคุมทุกฟังก์ชันการทำงานของรถยนต์และฟังก์ชันต่าง ๆ ภายในห้องโดยสารได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
ระบบ MBUX Interior Assistant Front&Rear สั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือ ศีรษะ และร่างกาย ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเพื่อแปลความต้องการของผู้ใช้ นำไปสู่การควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆในรถ เบาะนั่งหุ้มหนังแท้ Exclusive Nappa Leather ลวดลายพิเศษ เบาะตอนหลังแบบ Rear Seat Comfort Package มอบความสะดวกสบายในการโดยสาร เบาะไฟฟ้าที่สามารถปรับตำแหน่งที่นั่งพร้อมการนวดที่สามารถเลือกโปรแกรมการนวด Calf Massage ได้ 6 โปรแกรม พร้อมจอหลัง MBUX High-End Rear Seat Entertainment จะทำงานร่วมกับ Rear Tablet หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วบริเวณที่ท้าวแขนเบาะหลัง ควบคุมความบันเทิงบนหน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว 2 หน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังโดยเฉพาะ ระบบเสียง Burmester® 4D-Surround พร้อมชุดลำโพงรอบคันพร้อมไฟสร้างบรรยากาศในตัวรถ Active Ambient Lighting
ขุมพลังยังคงเดิมกับเบนซินเทอร์โบคู่ V8 4.0 ลิตร แบบ Plug In Hybrid M176 ให้กำลังสูงสุดถึง 367 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง 150 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร กับความจุแบตเตอรี่ 28 kWh ทำงานร่วมกันให้กำลังสูงถึง 510 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร ระยะทางวิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งอยู่ที่ 100 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้าทำได้ 140 กม./ชม.
ด้านการชาร์จ ถ้าชาร์จเร็ว DC กระแสตรง รองรับการชาร์จสูงสุด 60 kW ชาร์จได้ 30 นาที และ AC กระแสสลับ รองรับการชาร์จสูงสุด 11 kW ได้
การเปิดตัว Mercedes-Maybach S580e จะขายที่เมืองไทยช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 และเปิดตัวหลังประเทศจีน
แหล่งที่มาและข้อมูล : Mercedes-Benz
ติดตามข่าวสารยานยนต์และเทคโนโลยีได้ที่ FEE:D