นางสาวสิรินิธิ์ วิรยศิริ หัวหน้าฝ่ายการตลาดเพื่อธุรกิจ(Head of Business Marketing) ติ๊กต็อก ประเทศไทยและฟิลิปปินส์ กล่าวใน งาน “Thailand Marketing Day 2022 : The Game Changer” ที่จัดโดย สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ถึงพฤติกรรมการซื้อ-ขายของบนออนไลน์ ว่า ในปีที่ผ่านมา ติ๊กต็อกเป็นแพลตฟอร์มที่คนไทยเข้าเฉลี่ยวันละ 12 ครั้ง และใช้เวลานานเฉลี่ย 100 นาทีต่อวัน ซึ่งนับเป็นพื้นที่แห่งความสุขและโอกาส เนื่องจากมีพื้นที่เต็มจอ มีภาพและเสียง เป็นการสร้างประสบการณ์ในคลิปสั้น กระชับ อยู่ในความยาวที่เหมาะสม
ทั้งนี้จากการวิจัยพบพฤติกรรมผู้บริโภคที่เป็นประโยชน์กับนักการตลาด หรือคนที่ต้องการทำการตลาดดังนี้
1.การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ยิ่งมีตัวเลือกเยอะเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องตัดสินใจมากขึ้น และเป็นเหตุให้การซื้อลดลง
2.การที่มีโฆษณาที่ยืดเยื้อเกินจริง ประดิษฐ์มากไป ทำให้ไม่น่าเชื่อถือ และเมื่อผู้บริโภคยิ่ง skip ad ก็ยิ่งทำให้ผู้บริโภคไม่อยากซื้อ และเป็นผลให้การขายได้ลดลง
3.ผู้บริโภคส่วนใหญ่ ชอบเนื้อหาที่มีความบันเทิง ถ้าเป็นการซื้อในคอนเท้นต์บันเทิง ไม่ว่าตั้งใจหรือบังเอิญ ทำให้ตัดสินใจซื้อมากกว่า
4.ผู้บริโภค ให้ความสำคัญกับ Emotional connect คือการที่แบรนด์เข้าใจความต้องการมากขึ้น มีความน่าเชื่อถือ และสร้างแรงบันดาลใจ
นอกจากนี้ นางสาวสิรินิธิ์ ยังได้แนะนำอีกว่า เมื่อผู้บริโภครู้อยู่แล้วว่าอยากได้อะไร คือต้องการซื้ออยู่แล้ว นั่นคือโอกาสที่ผู้บริโภคจะซื้อมีสูง ซึ่งทางฝั่งผู้ขาย ต้อง
-อำนวยความสะดวกในการซื้อ นั่นคือแจ้งข้อมูลว่าซื้อได้ที่ไหน ราคาเท่าไหร่
-ปรับปรุงสินค้าให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
-ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า การที่ลูกค้ารับแบรนด์ของเราไปอยู่ในตัวเลือก เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว นั่นคือการให้ความมั่นใจกับลูกค้า
ในกรณีที่ผู้บริโภคต้องการหาสิ่งใหม่ๆ สิ่งที่ผู้ขายควรทราบและต้องทำคือ
– การให้คำแนะนำอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา
-ผู้บริโภคอาจะไม่ได้ดูจากฟังก์ชั่นเสมอไป แต่สินค้านั้นตอบโจทย์ในช่วงเวลาพิเศษ
-การสร้างแรงบันดาลใจ โดยเนื้อหาบางอย่าง ที่เจ้าของแบรนด์เข้ามาเล่าเรื่องเอง จากการใช้สินค้าเหล่านี้
สรุปว่า ถ้าผู้บริโภคกำลังเปิดโอกาสให้กับแบรนด์ เพราะว่าเปิดใจ สิ่งที่แนะนำคือ การทำในลักษณ
Shoppatainment คือทำให้สนุกก่อน แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความน่าเชื่อถือด้วย จากนั้น จึงปิดการขาย
ง่ายๆ คือ ให้ข้อมูลที่ชัดเจน สินค้าคืออะไร สามารถหาซื้อที่ไหน เป็นต้น